นิธิศ สถาปิตานนท์ ...ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

ด้วยสภาพแวดล้อมที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัว"สถาปิตานนท์"ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเรื่องของงานออกแบบสถาปัตยกรรมมาตั้งแต่สมัยร .6
นิธิศ สถาปิตานนท์ ทายาทคนเดียวของอาจารย์ นิธิ ศิลปินแห่งชาติ สาขา ศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบร่วมสมัย)ปี 2545เจ้าของบริษัทออกแบบA49แถมยังมีคุณแม่เป็นอดีตคณบดีสถาปัตย์จุฬาฯทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นเคยกับสถาปัตยกรรมตั้งแต่เด็ก
“ทุกอย่างมันถูกซึมซับการวาดรูป ออกแบบโมเดลมาจากคุณพ่อ คุณแม่เหมือนถูกล้างสมองมากกว่ากดดันให้เป็นสถาปนิก(หัวเราะ)”
แม้จะเกิดมาเป็นลูกคนเดียว แต่พ่อ แม่ก็ไม่ได้ตามใจ ตรงกันข้ามกลับถูกเลี้ยงให้รู้จักคิด เรียนรู้ชีวิตด้วยตนเองมาตั้งแต่เล็ก เมื่อเรียนสาธิตจุฬาฯจบมัธยมศึกษาปีที่3 ถูกส่งไปเรียนต่อนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกามานาน ทำให้ชายหนุ่มได้เรียนรู้การปรับตัวและใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข
นิธิศ เล่าว่า ช่วงที่เรียนอยู่นิวซีแลนด์ เขาได้รับการยอมรับจากเพื่อนเกเรโดยไม่ได้ใช้กำลัง หรือแสดงความโกรธ แม้จะถูกเด็กในพื้นที่ล้อเลียนต่างๆนานๆทั้งสีผม สีผิว เพราะสมัยนั้นไม่ค่อยมีคนเอเชียไปเรียน มีแค่เขาและเพื่อนชาวเอเชียไม่กี่คน ซึ่งผลจากความนิ่ง ทำให้เด็กนิวซีแลนด์ให้การยอมรับและกลายเป็นเพื่อนสนิทในที่สุด
“ผมคิดว่า ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่า จะไปโกรธ หรือเครียด กับสิ่งที่คนอื่นพูด ซึ่งถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องใส่ใจเพราะการแก้แค้นที่ดีที่สุดก็คือความนิ่งปล่อยให้เขาพูดไปเหมือนพูดกับก้อนหิน ผมก็ใช้หลักการนี้มาตลอด”
ชายหนุ่มยอมรับว่า สไตล์การทำงาน ส่วนหนึ่งได้มาจากพ่อหลักๆคือความนิ่งเพราะไม่เพียงช่วยสะกดอารมณ์ให้เย็นลงเท่านั้น หากยังช่วยกระตุ้นให้เกิดสติ ซึ่งมีอานุภาพในการคิดแก้ไขปัญหาที่พุ่งเข้ามาชนในชีวิต
“เวลาที่คุณนิ่ง เมื่อมีปัญหาเข้ามาคุณจะไม่ตกใจ ตรงกันข้ามปัญหานั้นจะหงิกงอและรอการแก้ไข ความนิ่งทำให้คนเรามีสติในการกลั่นกรองปัญหาอย่างครบถ้วน เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ นี่ก็คือสิ่งที่ผมเรียนรู้จากคุณพ่อ”
นอกเหนือจากความนิ่งการให้ความสำคัญกับลูกน้องทุกคนอย่างเท่าเทียมกันเรื่องนี้สำคัญ ทั้งในแง่ของการกระทำและคำพูด เพราะจะทำให้ลูกน้องมีความอิจฉาริษยากัน ก่อให้เกิดการแตกแยก ขาดความสามัคคี สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กับการพัฒนาความสามารถในการออกแบบให้เป็นที่ยอมรับ
นิธิศ บอกว่า หลังเรียนจบสถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต Columbia Universityและสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต University of Florida,Gainesville ได้หาประสบการณ์ระยะหนึ่งก่อนกลับมาทำงานที่บริษัทA49 โดยเริ่มต้นจากพนักงานทั่วไป ไต่เต้าจากการเป็นพนักงานฝึกหัดและพิสูจน์ความสามารถจนเป็นที่ยอมรับให้ดำรงตำแหน่งเป็น Executive Director บริษัท สถาปนิก 49 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
“ตั้งแต่เล็กจนโตผมตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเอง คุณพ่อไม่เคยบังคับ ส่วนใหญ่มักจะคุยกันในสนามกอล์ฟ หรือเวลาไปเที่ยวด้วยกันในลักษณะการแชร์ประสบการณ์ ให้มุมมองด้านต่างๆ"
นิธิศ ยอมรับว่า ลึกๆแล้ว รู้สึกกดดันเหมือนกันกับการเป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะต้องให้ความสำคัญมิเช่นนั้นชีวิตคงเครียดเขาเพียงแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำได้
"ผมอาจจะไม่ใช่สถาปนิกที่เก่งหรือดีมาก แต่ ณ วันนี้ ผมและชอบและรักอาชีพนี้อยู่จึงไม่รู้สึกเบื่อหน่าย แต่ในอนาคตอาจจะมีสักวันที่ผมเบื่อก็ได้ (หัวเราะ)"
สำหรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต นิธิศ บอกว่า ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะให้เวลาเต็มที่กับครอบครัวและลูกสาววัย 4 ขวบครึ่งเต็มร้อย ขณะเดียวกันก็พยายามออกกำลังกาย ด้วยการวิ่ง ขี่จักรยาน เพราะวันปกติแทบไม่มีเวลาออกกำลังกาย เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยอย่างมากต่อการไหลเวียนของ เลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ซึ่งนั่นก็เท่ากับช่วยให้หัวใจของเราแข็งแรงไปด้วย ที่สำคัญคือตะกรันไขมันที่จับอยู่ตามเส้นเลือดของเราก็พลอยจะถูกกำจัดออกไป ด้วย จึงสามารถป้องกันภาวะเส้นเลือดตีบตันได้อีกทางหนึ่ง
"ต้องยอมรับว่า ผมยังแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตไม่ค่อยดี ทำให้สุขภาพไม่ดีนัก เพราะทำงานดึกแต่เสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดผมจะให้เวลากับครอบครัว100% ตัดทุกอย่างออกหมดโดยเฉพาะเรื่องงาน "




