เจาะใจหญิงเหล็ก 'ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ'

เจาะใจหญิงเหล็ก "พันโทหญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา เชื้อสายไทย
พันโทหญิงลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา เชื้อสายไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษผู้สื่อข่าวและพิธีกรเครือเนชั่น ขณะที่มาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้โครงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับไทยแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐฯ ของสถานเอกอัครราชทูต
เธอได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สหรัฐอเมริกา เขต 8 ของนครชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์ เมื่อ พ.ย.2555 หลังจากสูญเสียขาทั้งสองข้างในสงครามอิรัก เคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกิจการทหารผ่านศึก เป็นสตรีพิการคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สหรัฐฯ และเป็นส.ส.สหรัฐคนแรกที่เกิดในประเทศไทย
Q คุณแทมมี่มาเมืองไทยแต่ละครั้ง รู้สึกผูกพันกับเมืองไทยมากน้อยขนาดไหนคะ
ดีใจที่มา ทุกครั้งที่มา รู้สึกเมืองไทยก้าวหน้าไปเยอะ เปลี่ยนแปลงไปเยอะ บางที่จำไม่ได้เลย
Q อยู่อเมริกาได้พูดภาษาไทยเยอะไหมคะ พูดเก่งเลยนะคะเนี่ย
ขอบคุณค่ะ พูดกับคุณแม่ พูดที่บ้าน ปีหนึงคุณแม่อยู่กับแทมมี่ 7-8 เดือน นอกนั้นก็กลับมาเมืองไทย ก็พูดที่บ้านค่ะ
Q อ่านออกเขียนได้ไหมคะ
พอใช้ได้นะคะ อ่านออกพอใช้ได้ เขียนเหมือนเด็ก ป 3 ลายมือไม่ดีเลย
Q เป็นส.ส.สมัยแรก มีภารกิจอะไรที่อยากทำเป็นพิเศษไหมคะ
ในฐานะที่เป็น ส.ส.ต้องการช่วยเหลือเราทั้งสองประเทศ ตัวเองได้เป็นส.ส.คนแรกที่มีเชื้อชาติไทย เลยคิดว่ามีโอกาสที่จะช่วยสหรัฐอเมริกามองกลับมาทางเอเชีย ถ้าเราจะก้าวหน้าต่อไปทางเศรษฐกิจ การพัฒนา และการทหาร แทมมี่มีโอกาสดีกว่าคนอื่นที่จะช่วยให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันค่ะ
Q มาเมืองไทยครั้งนี้ คุณแทมมี่เป็นแขกของกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับเมืองไทยที่คิดว่าจะนำไปช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศดีขึ้นคะ
คราวนี้ ที่เรียนรู้มากที่สุด คือ ด้านเศรษฐกิจ วันนี้ไปพบหอการค้าอเมริกันในไทย และพบกับบริษัทไทยบางแห่ง ต้องการเตรียมให้เขตของแทมมี่ ที่อิลลินอยส์ มีบริษัทหลายบริษัทที่ทำการผลิตเพื่อการส่งออก ต้องการดูทางนี้
Q ทำไมอยากเป็นนักการเมืองคะ
ที่เป็นนักการเมือง ไม่ได้คิดเลย ตั้งแต่เด็กอยากเป็นทูตค่ะ อยากทำงานที่สถานทูตสหรัฐทั่วโลก ชอบเดินทาง ชอบอยู่ต่างประเทศ คิดว่าจะไปทางนี้ แต่พอบาดเจ็บจากสงครามในอิรัก ดิฉันเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีตำแหน่งสูงที่สุดที่อยู่ในโรงพยาบาล แล้วน้องๆที่บาดเจ็บ เขาเริ่มมีเรื่องกับรัฐบาลของเราเอง เขาให้แทมมี่ช่วยในเมื่อเรามีตำแหน่งสูง
ตอนนั้นรัฐอิลลินอยส์มี ส.ว.2 คน คนหนึ่งชื่อ ดิค เดอร์บิน และอีกคนชื่อ บารัค โอบาม่า ตอนนั้นท่านบารัค โอบาม่า ทำงานด้านทหารผ่านศึก เขาทำสิ่งหนึ่ง ที่คงไม่ได้คิดตอนนั้น เขาเอานามบัตรให้และเขียนเบอร์โทรศัพท์มือถือในนั้น แทมมี่เลย ทุกเดือนนึง 2-3 ครั้ง โทรไป มีเรื่องอีกแล้ว ช่วยด้วย หลังจากนั้น 10 เดือน ท่าน ดิค เดอร์บิน โทรมาบอกว่า บารัคกับผมคิดว่า ถ้าเธอคิดว่ารัฐบาลของเธอทำดีไม่พอสำหรับทหารผ่านศึก ทำไมไม่ไปสมัครหาเสียงเป็น ส.ส. งงไปเลยค่ะ บอกว่าขอคิดหน่อยได้ไหมคะ กินเวลา 3-4 เดือน เขาพูดจริง ตอนนี้ไม่มีทหารผ่านศึกที่เป็นส.ส. มีน้อยลงๆ ทั้งสองท่านบอกว่า ไปทำสิ ถ้าเธอคิดว่าทำไม่ดี ทำไมไปซ่อมเอง เลยตัดสินใจว่าไปสมัคร
Q ลงสมัครเมื่อปี 2006 แพ้แบบเฉียดฉิว บทเรียนสำคัญเลย สำหรับการแพ้ครั้งนั้นคืออะไรคะ
อย่างแรกคือรู้จักการออกไปหาเสียง การหาเสียงที่สหรัฐอเมริกากินเวลา 18 เดือน นานและแพง ต้องทำหลายอย่างที่ไม่เคยทำ ทำให้ตอนสมัครครั้งที่สอง รู้จักทำ ที่แพ้ ตามจริงดี เพราะทำให้ได้ไปทำงานด้านทหารผ่านศึกของรัฐบาล ของระดับรัฐและของทั้งประเทศด้วย ทำให้สมัครคราวนี้ เรามีประสบการณ์ ทำให้คนอื่นรู้ว่าทำงานมา 6 ปี ตอนแรกไม่รู้จักว่าแทมมี่เป็นใคร รู้แค่ว่าเป็นทหารที่ได้รับบาดเจ็บ คราวนี้รู้ว่าคนนี้ทำอะไรได้ มีประสบการณ์สำหรับการเมืองทั้งในรัฐและประเทศ ทำให้คราวนี้ชนะค่ะ
Q ปี 2012 เลยชนะนะคะ คิดว่าทำไมถึงชนะคะ
ได้ทำมาหลายอย่าง แล้วชาวบ้านรู้ว่า 6 ปีที่ผ่านไป ไม่ได้หายไป ทำงานตลอด พบกับคนตลอด คนก็เชื่อใจว่าสิ่งที่แทมมี่พูดเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ไม่ได้ทิ้งไป เราทำงานต่อ เขาก็เชื่อใจ เลยสำเร็จค่ะ
Q เวลาพูดถึงอเมริกา จะนึกถึงความเท่าเทียม ในฐานะผู้หญิงที่เล่นการเมืองในอเมริกา ยังมีอุปสรรคอะไรบ้างไหมคะ
มีนะคะ ที่แปลกคือ สำหรับตัวเอง ไม่เหมือนสตรีคนอื่นที่ไปหาเสียง เพราะสิ่งหนึ่งคือ ชาวบ้านไม่เชื่อว่าผู้หญิงแข็งแกร่งเรื่องการป้องกันประเทศ เขาจะคิดว่าผู้หญิงอาจอ่อนเรื่องทหาร แต่ตัวเองเป็นทหารมา เลยทำให้คนรู้ว่าไม่เป็นไร ดิฉันพูดเรื่องอื่นได้โดยไม่ต้องมาปกป้องเรื่องนี้ เพราะทุกคนรู้ว่าทำได้ แต่สำหรับผู้หญิงคนอื่นที่หาเสียงเป็นอีกเรื่อง เพราะคนไม่แน่ใจว่าทำได้ไหม
Q นักการเมืองที่ดีควรจะเป็นยังไงคะ
ภาษาอังกฤษมีคำว่า ‘public servant’ หมายความว่า เราเป็นคนใช้ของชาวบ้าน นักการเมืองที่ดีต้องจำว่า เป็นคนใช้ของชาวบ้าน ไม่ใช่เป็นเจ้านายของชาวบ้าน ทุกเขตในสหรัฐอเมริกามีคนประมาณ 730,000 คน ได้ ส.ส.1 คน สำหรับคน 7 แสนกว่าคนนี้ แทมมี่เป็นคนใช้ของเขา ต้องจำว่าเราเป็นคนใช้ของเขา เราได้ไปวอชิงตัน ไปเมืองหลวง ทำงานนี้มีเกียรติมาก เป็นเพราะว่าเขาส่งเราไปทำงานให้เขา แทมมี่มีเจ้านาย 7 แสนกว่าคนค่ะ
Q ทุกวันนี้ขาและแขนขวาคุณแทมมี่ยังเจ็บอยู่ไหมคะ
ก็เจ็บค่ะ เป็นธรรมดา เรื่องเจ็บไม่สำคัญค่ะ เพราะมีชีวิตอยู่
Q เห็นว่าขาของคุณแทมมี่ไฮเทคและราคาไม่ถูกด้วย ใช่ไหมคะ
ราคาไม่ถูก แต่ไม่ได้ไฮเทคขนาดนั้น เมื่อวานไปเยี่ยมโรงพยาบาลทหารผ่านศึกมา เขาก็มีขาแบบนี้เหมือนกัน นี่เก่าแล้ว มีมา 8 ปีแล้ว ตอนแรกเพิ่งออกมาใหม่ คู่นี้ตอนแรกราคาแสนกว่าเหรียญ เดี๋ยวนี้น่าจะไม่กี่หมื่นเหรียญ
Q เคยคิดไหมคะว่าเป็นทหาร อาจจะคิดผิดก็ได้
ไม่ค่ะ ถ้ามีวิธีย้อนเวลากลับไป 20 กว่าปีที่แล้ว ก็จะตัดสินใจเหมือนเดิม ต่อให้รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็จะตัดสินใจเหมือนเดิมคะ ตัวเองได้รับบาดเจ็บ แต่ตัวเองได้รับมามาก ได้เพื่อนที่สนิทมากๆ ได้รับประสบการณ์ เป็นเกียรติที่ได้รับใช้ประเทศชาติ หลายคนพยายามทำแล้วไม่สำเร็จ เราทำสำเร็จ เป็นเกียรติที่ประเทศชาติเชื่อใจว่าเราทำงานให้ประเทศได้
Q เป็นผู้หญิง ทำไมถึงอยากเป็นทหารคะ และอยู่หน่วยสู้รบด้วย
ความจริงไม่ได้อยากเป็นทหารนะคะ เรียนรัฐศาสตร์ อยากเป็นทูต แต่ตอนนั้น ราวปี 1991 กำแพงเบอร์ลินกำลังล้ม สหภาพโซเวียตล่มสลาย กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ มีทหารผ่านศึกหลายคนที่เรียนด้วยกัน เขาบอกว่า ถ้าต้องการเรียนทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ควรรู้เรื่องทหารด้วย ทหารเรือเป็นยังไง ทหารบกเป็นยังไง เขาเลยชวนไป คิดว่าจะเรียน 1-2 คอร์ส แต่พอไป ชอบมาก เพราะตั้งแต่วันแรกที่ฝึกพื้นฐาน 3 เดือนที่ไปเหมือนเห็นในหนังที่มีการฝึก ตั้งแต่วันแรกชอบมาก เขาไม่มองว่าเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เอเชียหรือฝรั่ง สิ่งสำคัญมีอย่างเดียวคือทำได้ไหม ยอมลองไหม เขาไม่สนใจว่าครอบครัวเรารวยหรือจน สิ่งที่เขาสนใจ คือ เราต้องวิ่ง 50 กิโลเมตรใน 4 ชั่วโมง ทำได้ไหม ถ้าทำได้ก็โอเค
นี่คือความเท่าเทียมอย่างแท้จริง ความเท่าเทียมสำคัญมากสำหรับตัวเองเพราะตอนเรียนจบแล้ว และกำลังจะได้ตำแหน่งทางทหาร ทหารบกถามว่าจะทำงานอะไร ตัวเองพูดภาษาไทยได้ ภาษาอินโดนีเซียได้ และภาษาฝรั่งเศสได้ คิดว่าจะทำด้านภาษา อาจารย์บอกว่าผู้ชายต้องเลือกด้านการรบ แต่แทมมี่ไม่ต้อง เป็นผู้หญิง ไม่ต้องรบ เราคิดว่าไม่ดี เพราะได้รับเงินเดือนเท่ากัน ตำแหน่งเท่ากัน ทำไมไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเท่าผู้ชาย
Q ไม่ดีเหรอคะ ให้เขาไปเสี่ยง เราไม่ต้องเสี่ยง
ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่เท่าเทียมจริงๆ สิคะ ถ้าจะเท่าเทียมก็ต้องเสี่ยงเท่ากัน เลยถามเขาไปว่ามีอะไรที่ผู้หญิงทำได้ในด้านสู้รบ เขาบอกว่า มีอย่างเดียวคือการเป็นนักขับเฮลิคอปเตอร์ ถ้าอย่างนั้นก็เลยสมัครทางนั้น และบังเอิญตอนสอบ ได้คะแนนสูงมาก เป็นธรรมชาติค่ะ ทำได้
Q พอประสบอุบัติเหตุอย่างนี้ คุณแทมมี่ให้กำลังใจตัวเองยังไงคะ
ตอนแรกเศร้ามาก 3-4 วันแรกที่ฟื้น เศร้ามาก คิดว่าตัวเองขับเฮลิคอปเตอร์ไม่ดี เพราะตอนโดนระเบิดยังบินอยู่ สิ่งที่แทมมี่จำได้คือ เราพยายามบินลงพื้นให้ได้ หมอที่อิรักให้ยาแทมมี่ เลยจำไม่ค่อยได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้แค่ว่า พยายามบินลงให้ได้ ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยินหมอพูดว่า นี่เขามีอุบัติเหตุ ไม่ใช่ว่าโดนยิง แต่พูดว่ามีอุบัติเหตุ อุบัติเหตุไม่เหมือนโดนยิง เลยคิดว่าตัวเองขับไม่ดี ทำเครื่องตก เพื่อนก็บาดเจ็บ
เราคิดว่าเป็นเพราะตัวเองขับไม่ดี ทำให้ลูกน้องบาดเจ็บ เสียใจมาก ร้องไห้ สามีเห็นเราร้องไห้ เขาบอกว่าไม่เป็นไร ขาเธอหายไป เราอยู่ได้ เดี๋ยวพาไปดูคนขาเทียมวิ่ง แทมมี่บอกไม่ใช่ ฉันทำลูกน้องบาดเจ็บ สามีบอก พูดอะไรอยู่ แทมมี่บอกอุบัติเหตุเกิดเพราะฉัน สามีบอก ไม่ใช่ เธอโดนยิง เขาอธิบาย มีรูปภาพด้วย ว่าเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงจอดที่พื้นดิน เป็นเพราะเธอกับอีกคนช่วยกันขับ คนถึงไม่ตาย ได้ทำอย่างที่ควรทำ ไม่ได้ทำให้เพื่อนผิดหวัง ไม่ได้ทำให้ลูกน้องผิดหวัง เพราะเวลาบินเฮลิคอปเตอร์ มีคนนั่งข้างหลัง ที่เขาไม่ได้ขับ ถ้าเราไม่ทำงานของเรา เขาจะเสียไป ชีวิตของเขาอยู่ในมือของแทมมี่
Q คุณแทมมี่มองการทำสงครามยังไงคะ
ถ้าประเทศเราต้องทำสงคราม ต้องมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมเราต้องทำ ต้องมีเหตุผลที่ดีว่าทำไมขอให้คนไปตายให้ประเทศ ประเทศเราที่มีความรวย ไม่ใช่เงินหรือตึกสูงๆ ความรวยมาจากเหล่าทหารที่ยอมสละชีวิตให้ชาติของเรา ถ้าประเทศเราจะไปทำสงคราม อย่าใช้ราคาชีวิตของคนอย่างฟุ่มเฟือย อย่าโยนชีวิตคนไปทิ้ง เพราะฉะนั้น ถ้ามีสงคราม แทมมี่จะพยายามให้มันเป็นสิ่งที่ต้องทำจริงๆ และถ้าต้องทำจริงๆ ตัวเองจะยอมไป จะยอมส่งลูกเต้าไป แต่ถ้าจะไปมีสงครามโดยไม่ยอมส่งลูกเต้าไป ต้องคิดอีกทีว่าสำคัญพอไหม
Q ดูเหมือนประธานาธิบดีโอบาม่า อาจจะเริ่มสงครามกับซีเรีย คุณแทมมี่มองยังไงคะ
ตอนนี้กำลังคอยดู ดิฉันดีใจที่ท่านจะเสนอให้ ส.ส.ทั้ง 435 คน ว่าทำไมจะทำสงครามและทำยังไง แทมมี่จะคอยดูตอนนั้นว่า ท่านจะทำยังไง ตอนนี้ไม่เห็นด้วย เพราะไม่รู้ว่าถ้าทำอย่างนี้วันแรก แล้ววันที่สองจะทำยังไง จะยิงจรวดต่อไปหรือส่งทหารไป หรือจะไปนานเท่าไหร่ หยุดเมื่อไหร่ ไปเพราะอะไร แล้วประเทศอื่นจะไปด้วยหรือเปล่า หรืออเมริกาไปเอง แล้วถ้าเป็นแค่อเมริกา ทำไมต้องไป คนเขาไม่ต้องการให้เราไป ทำไมเราจะไป นี่เรื่องของเราหรือเปล่า
นี่ไม่ใช่หลังบ้านเรานะคะ นี่หลังบ้านซาอุดีอาระเบีย หลังบ้านจอร์แดน หลังบ้านตุรกี ไม่ใช่หลังบ้านอเมริกานะคะ ทำไมเราจะไป ถ้าสำคัญที่จะไปก็โอเค ถ้าไปก็ต้องเพราะเป็นสิ่งที่ควรจะทำสำหรับประเทศเรา อย่าโยนชีวิตของทหารเราไปทิ้งสำหรับสิ่งที่ไม่เหมาะที่จะทำ
Q มีคำกล่าวว่าอเมริกาบ้าสงคราม คุณแทมมี่มองยังไงคะ
คนที่บ้าสงคราม ไม่ใช่คนที่ไปสู้ในสงคราม เป็นครอบครัวเหมือนของแทมมี่ ที่เป็นคนแรกที่เลือดจะไหลสำหรับประเทศ ถ้าไปคุยกับทหารผ่านศึกและครอบครัว พวกเราจะบอกว่า เราเตรียมที่จะไปและยอมที่จะไปสำหรับประเทศ แต่อย่าบ้าสงคราม
10 กว่าปีที่ผ่านมา รัฐบาลอเมริกัน แบบที่อิรัก แทมมี่ก็ไม่เห็นด้วย เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรกับประเทศเรา ทำไมเราจะไปยุ่งกับเขา ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า ‘chicken hawk’ คือ คนที่กล้าตัดสินใจส่งคนอื่นไปสู้ แต่พอตัวเองหรือครอบครัวตัวเองต้องไปก็ไม่ส่งไป ตอนที่แทมมี่เป็นทหารอยู่ ที่ทำให้โมโหจริงๆ คือครอบครัวของประธานาธิบดีของจอร์จ ดับเบิลยู บุช มีลูกหลาน 60 กว่าคนที่ร่างกายพร้อม สมองดี สู้ได้ แต่ไม่ได้ไปสักคน แต่กลับส่งลูกของคนอื่นไป ถ้าเราจะมีสงครามแล้วมันสำคัญ ต้องไปสิ ฉันก็จะยอมไป ฉันเป็นทหาร ดิฉันจะเสนอตัวเป็นคนแรกเลย
Q คุณแทมมี่เป็นผู้พิการหญิงคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งในสภาคองเกรสและเป็นส.ส.คนแรกด้วยที่มีเชื้อสายไทย อยากเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกบ้างไหมคะ
ไม่ต้องการ บอกเพื่อนแล้วว่า ถ้าแทมมี่เริ่มพูดแบบนี้ ช่วยตบหน้าให้ตื่นกลับขึ้นมา ดีใจมากที่ได้เป็น ส.ส.ไม่ได้คิดว่าจะได้เป็น แล้วนี่เป็นมาแค่ 7 เดือนเอง อยากเรียนการทำงานนี้ให้ดีที่สุด ให้เก่งที่สุด แล้วภูมิใจมากที่ได้ทำอย่างนี้ ก็พอแล้วค่ะ
Q คนไทยชื่นชมคุณแทมมี่ คนไทยควรเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวชีวิตของคุณแทมมี่บ้างคะ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือสิ่งที่แทมมี่ได้เรียนหลังสงครามอิรัก ตอนนั้นแทมมี่เป็นเหมือนคนทุกคน คือพยายามทำให้ดี แต่กลัวการแพ้ กลัวการทำไม่สำเร็จ หลังจากอิรัก มีความกล้าที่จะให้ตัวเองทำอะไรไม่สำเร็จ หมายความว่า มีความกล้าที่จะลองทุกอย่าง เพราะถ้าไม่ลองก็ไม่มีวันที่เราจะทำได้
อนุญาตให้ตัวเองล้มได้ ในเมื่อเรารู้ว่าเราลุกขึ้นได้ ต้องลอง ไม่ว่าอาชีพเป็นอะไรก็แล้วแต่ เราไม่รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง จนกว่าได้ลองทำ ถ้าไม่กล้าลองเพราะคิดว่าทำไม่ได้ ไม่มีใครขีดเส้นจำกัดให้คุณนอกจากตัวเอง แล้วจะขีดเองทำไม







