กำลังใจใน "เรือนจำ"

กำลังใจใน "เรือนจำ"

ผู้ต้องขังหญิงที่ขาดโอกาส ปราศจากความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว และเด็กที่เกิดจากครรภ์ของแม่ในเรือนจำ หวังเพียงอุ้งมือแห่งความช่วยเหลือ

ผู้ต้องขังหญิงที่ขาดโอกาส ปราศจากความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว และเด็กที่เกิดจากครรภ์ของแม่ในเรือนจำ หวังเพียงอุ้งมือแห่งความช่วยเหลือและอ้อมแขนกำลังใจจากสังคมภายนอก

"โครงการกำลังใจ" ในพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคมที่อยู่นอก "คุก" หันหลังกลับมามองกลุ่มคนที่ต้องโทษว่า พวกเขาจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือและให้กำลังใจ เพื่อเป็นดังทุนรอนทางใจให้สามารถออกไปใช้ชีวิตใหม่นอกเรือนจำได้อีกครั้ง


หลากหลายกิจกรรมถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้ต้องขัง ไม่ใช่เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ที่้สุขสบายเทียบเท่าหรือมากกว่ากับคนที่อยู่นอกเรือนจำ เพราะถึงอย่างไร ความผิดที่พวกเขาเหล่านั้นกระทำขึ้นจำต้องได้รับการลงโทษ แต่เพราะสิทธิมนุษยชนที่พึงมี ทำให้ทุกคนในสังคมควรให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพอนามัย และสร้างอาชีพอันสุจริตให้เป็นพื้นฐานเลี้ยงชีพต่อไป

เล่าเรื่องคุณแม่ในเรือนจำ

เสาวคนธ์ เจษฎารักษ์ ผู้อำนวยการกองสังคมสงเคราะห์ กระทรวงยุติธรรม เผยว่า ปัจจุบันมีนักโทษหญิงรวมทั้งสิ้นกว่า 38,918 คน ซึ่งมีฐานความผิด ทั้งจากสาเหตุความผิดที่มีเจตนา และกระทำไปด้วยความพลั้งพลาด หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และลักษณะการลงโทษที่แตกต่างกันไป แต่ความเหมือน คือทุกคนต้องทนให้ได้ต่อสภาพความแออัดในเรือนจำ เนื่องจากจำนวนผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นทุกปี

"หลังจากเกิดโครงการของพระองค์ท่าน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องผู้ต้องขังหญิงอย่างเห็นได้ชัด ต้องยอมรับว่าเงื่อนไขการใช้ชีวิตของผู้หญิงยุ่งยากและซับซ้อนกว่านักโทษชาย อาทิ ขาดแคลนชุดชั้นใน ไม่มีสถานพยาบาลเฉพาะผู้หญิง แต่ที่กำลังน่าเป็นห่วงคือ สุขภาวะในชีวิตประจำวันทั้งการกิน การนอนที่ต้องเบียดเสียดและไม่เพียงพอ แต่ต่อมาก็มีกำลังใจจากสังคมภายนอกหลั่งไหลเข้ามาช่วยเหลือด้านอนามัยและให้ความสำคัญกับการสร้างอาชีพมากขึ้น ทำให้เรามีสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตเพียงพอและต่อเนื่อง"

ผู้อำนวยการกองสังคมสงเคราะห์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะกลุ่มผู้ต้องขังหญิงที่ตั้งครรภ์ ทางราชทัณฑ์มีหลักสูตร "การตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ" และ "สร้างคนดี เริ่มที่ขวบปีแรก" เพื่อเป็นต้นแบบอบรมผู้ต้องขังหญิงต่อไป ทำให้มารดาเกิดความผูกพันกับบุตร ทั้งยังสร้างเสริมสัมพันธภาพที่ดี ปลูกจิตสำนึกและสร้างความรับผิดชอบในตัวบุตรมากขึ้น ส่งผลให้เด็กเหล่านี้จะมีสุขภาพกายและใจที่ดี

"ความจริงแล้ว ผู้ต้องขังหญิงที่มีลูกติดท้องมาในทัณฑสถาน เขาอยากเลี้ยงลูกของเขาเองหลังคลอด เราก็ทำหน้าที่ส่งเสริมให้เหมาะสม เริ่มตั้งแต่ตรวจสภาพร่างกาย ตรวจภายใน และเมื่อคลอดแล้ว ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณ เราสนับสนุนให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะมีข้อดีอยู่ในตัว พร้อมจัดสถานที่ดูแลเป็นพิเศษ แม้จะไม่มีก็ต้องจัดมุมใดมุมหนึ่งของเรือนจำ เพื่อให้เขาได้รับการปฏิบัติดูแลอย่างถูกต้อง เหมาะสม ทั้งแม่และลูกต้องมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และมีสุขภาพจิตที่ดีสมควรแก่อัตภาพ"

หลายคนฟังแล้วอาจสงสัย ไฉนคนทำผิดจึงได้รับการดูแลดีมากมายขนาดนี้ เสาวคนธ์ บอกว่า ถ้าเลือกได้ พวกเขาคงไม่อยากมาอยู่ในเรือนจำ แม้จะมีบางคนที่หวังจะใช้สิทธิตรงนี้จนต้องกระทำความผิดก็ตาม แต่ก็เป็นส่วนน้อย และอย่าลืมว่าพวกเขาไม่ได้อยู่อย่างสบายเลย ผู้ต้องขังหญิงก็ยังคงเป็นนักโทษอยู่ คนเป็นแม่ยังต้องอบรมวิชาชีพและทำงานในเรือนจำด้วยความสมัครใจ โดยราชทัณฑ์ได้จัดหลักสูตรวิชาชีพต่างๆที่สอดรับกับตลาดแรงงานไว้ ไม่ว่าจะเป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือนวดแผนโบราณ นวดสปา ซึ่งเรือนจำก็เปิดคาร์แคร์ ร้านอาหาร ร้านเสริมสวย งานเกษตรไว้ให้ทดลองงานด้วย

เป้าหมายสำคัญก็เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ คืนคนดีสู่สังคม และสร้างโอกาสทางอาชีพ เพื่อไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้เป็นเหยื่อสังคมอีกต่อไป

ศิลปินบอกหน้าที่สังคม

ถึงแม้ในทัณฑสถานจะสร้างโอกาสให้มากมายแล้ว แต่ยังคงมีหลายหน่วยงานของสังคม กลุ่มคนจิตอาสาต่างเข้าไปอบรมด้านอาชีพทั้งการสอนตัดเย็บ ทำเบเกอรี่ สปาและการนวด รวมทั้งศิลปะหลากหลายแขนง ยกตัวอย่างการสอนร้องเพลงจากปาน-ธนพร แวกประยูร ศิลปินจากค่ายอาร์เอส แม้จะไม่มุ่งหวังด้านวิชาชีพมากนัก แต่ต้องยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพลังใจ คลายความเครียดและก่อเกิดความรู้สึกว่าเขาก็เป็นคนของสังคมเช่นกัน รวมทั้งการจัดงานคอนเสิร์ตกำลังใจ ที่กำลังจะจัดแสดงในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่คนภายนอกได้ใช้เพลงในการสื่อสารและเชื่อมต่อโครงการต่อไป


หม่อมหลวงจิราธร จิรประวัติ หรือครูโตของนักวาดภาพหลายคน กล่าวว่า บทบาทของสังคมมีส่วนสำคัญอย่างมาก คนไหนมีหน้าที่หรือความถนัดอย่างไรก็ควรเข้าไปช่วยเหลือ ตามกำลังความสามารถของตนเอง อย่างกรณีของครูโต เขาใช้ทักษะทางศิลปะจรดปลายปากกา ระบายฝีแปรงในโบรชัวร์ของงานคอนเสิร์ตกำลังใจ เป็นรูปชายหญิงชูสองนิ้วเป็นสัญลักษณ์ Victory ให้กำลังใจผู้ต้องขังให้ "สู้ สู้"

"และในฐานะที่เราเป็นครูด้วย ความสุขของครูคือการได้ช่วยเหลือสังคม ซึ่งเราควรช่วยให้เขาเอาไปใช้ได้จริง และเปิดใจให้กว้าง ต้องมองคนที่รับโทษว่า การเป็นพวกผิดทาง มันเหนื่อย เราควรเข้าไปช่วยคนหลงทางไม่ให้หลงทาง ชักชวนมาให้ถูกทาง เพราะคนที่ทำอะไรถูกทางคือคนที่มีความสุข ในขณะที่คนให้ก็มีความสุข อิ่มใจ เราเคยได้รับจดหมายจากผู้ต้องขัง เขียนมาบอกว่าชอบงานของเราเหลือเกิน มันบรรยายเป็นคำพูดได้ยากจริงๆ" ครูโต กล่าวทิ้งท้าย