ม็อบบุกสธ.หนุนระบบ P4P

I snap 26มี.ค.หมอชนบทยันบุกทำเนียบ แต่งดำชุมนุมไล่"รมว.สธ."วันนี้
ม็อบ รพศ./รพท.ร่วม 4 พันคน บุกกระทรวงสาธารณสุขให้กำลังใจและสนับสนุนรัฐมนตรี สธ. เดินหน้านโยบายค่าตอบแทนแบบ p4p หลังชมรมแพทย์ชนบทคัดค้าน เตรียมขนม็อบไล่หน้าทำเนียบวันนี้ด้าน "หมอประดิษฐ” เมินม็อบไล่ ยันไม่กลัวหลุดจากตำแหน่ง ระบุหากประชาชนเห็นว่าทำผิด พร้อมลาออก เตือนหมอชุมนุมถูกต้อง ระวังภาพพจน์สะท้อนความคิดที่ไม่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้(25 มี.ค.) ตัวแทนแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.)/โรงพยาบาลทั่วไป(รพท.) อาทิ รพ.หาดใหญ่ รพ.สมุทรปราการ รพ.วชิระภูเก็ต รพ.บ้านหมี่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.สมุทรสาคร เป็นต้น และตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ประมาณ 4,000 คน นำทั้งช่อดอกไม้ และป้ายเขียนข้อความให้กำลังใจและสนับสนุนให้มีการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงานหรือ พีฟอร์พี(Pay for Perfermance:P4P) มาชุมนุมบริเวณลานด้านหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ.ให้เดินหน้าเรื่องp4p ที่จะมีผลในวันที่ 1 เมษายน 2557
พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย(สพศท.) กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจกับรัฐมนตรี สธ. และปลัด สธ.ที่กำลังถูกกลุ่มแพทย์บางกลุ่มเข้าใจคลาดเคลื่อน และมีการขับไล่ออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากจริงๆ แล้วการประเมินแบบพีฟอร์พี เป็นวิธีที่ลดความขัดแย้งของแต่ละวิชาชีพมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลชุมชนได้ค่าตอบแทนตรงนี้มาก ทั้งๆ ที่บางพื้นที่ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดารเลย การปรับพื้นที่ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ยังคงได้เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย หรือเบี้ยเสี่ยงภัย ร่วมกับการคิดพีฟอร์พี ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่าแพทย์ในพื้นที่ทราบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ส่วนที่จะมีการหยุดงานประท้วงนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะปกติโรงพยาบาลชุมชนจะมีแพทย์ประจำ 1 คน และมีพยาบาลประจำ หากมีผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือรักษาไม่ได้อย่างไรก็จะส่งต่อมายังโรงพยาบาลตัวจังหวัด ซึ่งดำเนินการแบบนี้มาตลอด
“การออกมาคัดค้าน และขู่ไล่รัฐมนตรี สธ.ออกจากตำแหน่งดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลเพียงพอ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องพีฟอร์พี แต่กลับไปเชื่อมโยงว่า รัฐมนตรี สธ. สนับสนุนนโยบายเมดิคัล ฮับ สนับสนุนโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งไม่มีหลักฐานชัดเจน อีกอย่างโรงพยาบาลเอกชนหากต้องการแพทย์มาทำงานในโรงพยาบาลรับเมดิคัล ฮับ พวกเขาต้องการแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ไม่ใช่แพทย์ในโรงพยาบาลอำเภอหรือชุมชน ตรงนี้จึงน่าจะเข้าใจผิดหรือไม่” พญ.ประชุมพร กล่าว
ยันมีหมอบริการช่วงสงกรานต์
ด้านนพ.ประเสริฐ ขันเงิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก กล่าวว่า รพศ.รพท. จะมีการประเมินการเคลื่อนไหวของกลุ่มแพทย์ชนบทในวันที่ 26 มีนาคม ที่จะเดินทางไปชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง ก่อนที่จะกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของรพศ.รพท. ต่อไป เนื่องจากเห็นว่าการเคลื่อนไหวคัดค้านตอนนี้ กลายเป็นเรื่องการเมือง ดังนั้น การดำเนินการก็จะใช้วิธีทางการเมืองเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากรพช.หยุดให้บริการจริงในช่วงสงกรานต์ รพศ.รพท.พร้อมรองรับการให้บริการประชาชน ส่วนจะใช้วิธีการใดอยู่ระหว่างการหารือ อาจใช้วิธีการเชิงรุกด้วยการตั้งรพ.เฉพาะในพื้นที่อำเภอเหมือนกรณีเกิดน้ำท่วม หรือวิธีการเชิงรับด้วยการให้พื้นที่ส่งผู้ป่วยเข้ามายังรพศ.รพท.
ชี้ระบบp4pค่าตอบแทนหมอเพิ่ม
ขณะที่นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การดำเนินการปรับการจ่ายค่าตอบแทนเป็นแบบp4p จะดำเนินระยะแรกเป็น 2 ระยะ โดยจะมีการประเมินทุกครั้งเมื่อสิ้นสุดแต่ละระยะ เพื่อให้ระบบเกิดความมั่นคง มีรูปแบบการจ่ายค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับหลักวิชาชีพ ลดความเหลื่อมล้ำของวิชาชีพและภายในวิชาชีพเอง เช่น แพทย์ในส่วนต่างๆ ตามภาระงานที่แตกต่างกันและได้แรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ทำให้รัฐบาลสามารถตอบประชาชนได้ว่าประชาชนได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนในการจ่ายงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ด้วยภารกิจและภาระงานที่บุคลากรทางการแพทย์ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ตนเชื่อว่าเมื่อใช้ระบบp4pเสริมเข้าไป จะทำให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ใช่ลดน้อยลง เพราะภาระงานเป็นที่ตระหนักอยู่แล้วว่าล้นงาน
“ส่วนที่ยังเข้าใจไม่ตรงกันอยู่ คือ ไม่ได้ยกเลิกค่าตอบแทนแต่เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่าตอบแทน ในพื้นที่ที่จำเป็น เช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่เกาะ พื้นที่เขา พื้นที่ห่างไกล พื้นที่กันดารที่แท้จริง หรือพื้นที่ที่อาจจะดูเหมือนเจริญแล้วแต่ไม่มีแพทย์อยากไปประจำ เช่น เกาะสมุย ยังได้รับเบี้ยกันดารเช่นเดิมและเพิ่มเติมด้วยp4p ด้วย ซึ่งเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้น และเงินจำนวนนี้โดยหลักการจะไม่ลดลง สมมติโรงพยาบาลนี้เคยได้เงินจำนวน 5 แสนบาท มีแพทย์ 10 คน พยาบาล 20 คน และวิชาชีพต่างๆ ก็ยังได้ 5 แสนบาทเหมือนเดิมไม่ได้ลดลง แต่วิธีการจ่ายต้องไปพิจารณากันภายใน”นพ.ประดิษฐกล่าว
ห่วงชุมนุมสะท้อนภาพพจน์หมอ
ต่อข้อถามกังวลเรื่องที่แพทย์ชนบทจะชุมนุมยืดเยื้อ หรือไม่ นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ตนมีความกังวลอย่างเดียวว่าในการแสดงออกนั้น ขอให้แสดงออกอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับปัญหา เพราะถ้าการแสดงที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมกับปัญหาที่เกิดขึ้น จะสะท้อนถึงภาพพจน์ ความคิด จุดประสงค์อย่างชัดเจนว่าแสดงออกเช่นนี้เพราะอะไร ส่วนการชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ ก็ถ้ามาพูดคุยกันด้วยเหตุผล ก็ไม่น่าจะยืดเยื้อ แต่ถ้าตั้งว่าไม่คุย ชุมนุมอย่างเดียวจะเกิดปัญหา ซึ่งเชื่อว่าถ้ามาทำความเข้าใจ จะทำให้คนเห็นด้วยและเข้าใจมากกว่าที่จะมาชุมนุมกัน
ส่วนการที่จะมีการหยุดในช่วงสงกรานต์นั้น โดยระบบปกติสงกรานต์มีการหยุดโดยระบบอยู่แล้ว รพ.มีการจัดเวรดูผู้ป่วยฉุกเฉินและคนไข้ในอยู่แล้ว จึงไม่กังวล ส่วนการจะใช้สิทธิ์หยุดมากกว่าปกติก็ควรเป็นไปตามภาระงานที่ต้องดูแลคนไข้ ตนไม่เชื่อว่าคนที่อยู่ในวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข จะพูดหรือมีความคิดเอาคนไข้มาขู่ ว่าคนไข้จะเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม โดยระบบมีรพศ./รพท. รองรับปัญหานี้อยู่แล้ว
“ไม่กลัวที่จะหลุดจากตำแหน่ง เพราะผมถือว่าผมมาทำงานด้วยความตั้งใจมาทำประโยชน์ให้กระทรวงสาธารณสุขให้กับประเทศชาติ การชุมนุมยืดเยื้อ ถ้าสาธารณชนทุกคนมีความเห็นว่าสิ่งที่กระผมทำนั้นผิด ผมก็ต้องรับผิดชอบออกจากตำแหน่งนี้ไป แต่ถ้ายังเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกก็ให้การสนับสนุนผม ผู้ที่ชุมนุมยืดเยื้อก็จะได้รับการพูดจากสาธารณสุขว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสมควรหรือไม่อย่างไร ก็คงจะมีความเข้าใจและถอนตัวไป แต่ถ้าไม่ถอนตัวเชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง และสาธารณชนเห็นว่าผมทำผิด ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ผมต้องออกจากตำแหน่ง ผมไม่ได้มีความคิดว่าต้องอยู่ในตำแหน่งเพราะอะไร ผมไม่กลัวในเรื่องปัญหาต่างๆ เพราะผมไม่ได้ยึดมั่นในตำแหน่งหน้าที่ ที่กล่าวแบบนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องท้าทาย ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง“ นพ.ประดิษฐกล่าว
สปสช.ไฟเขียวเพิ่มเงินเดือนสธ.100%
นพ.ประดิษฐ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมบอร์ดสปสช.มีมติให้เพิ่มรายการงบเพิ่มเติมด้านค่าแรง ของหน่วยงานบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในข้อเสนองบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2557 เพิ่มอีก 3 รายการ รวมทั้งสิ้น 32,952.72 ล้านบาท ดังนี้ 1.เงินเดือนนอกระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของหน่วยงานบริการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง สธ. 29,186.98 ล้านบาท 2.เงินเดือนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของหน่วยงานบริการในสังกัดกรมอนามัย กรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต และกรมควบคุมโรค จำนวน 24 แห่งจาก 60 แห่ง เป็นเงิน 765.74 ล้านบาท และ 3.ค่าตอบแทนส่วนเพิ่มเติมแทนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 4 6 และ 7 หรือค่าตอบแทนแบบ P4P จำนวน 3,000 ล้านบาท
"ดังนั้นข้อเสนองบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2557 จะรวมเป็น 189,719.55 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นเงินเดือดของหน่วยบริการภาครัฐ 64,715.72 ล้านบาท คงเหลือเป็นกองทุนที่ส่งให้ สปสช. 125,719.55 ล้านบาท และเพิ่มในส่วนค่าตอบแทน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 4 6 และ 7 หรือค่าตอบแทนแบบ P4P จำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้" นพ.ประดิษฐ กล่าว
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า งบเหมาจ่ายรายหัวจะเพิ่มจาก 2,755 บาทเป็น 2,955 บาท หรือเพิ่มหัวละ 200 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่จะขออนุมัติในปีงบประมาณ 2557 ซึ่งอาจจะลดลงหน่อย ส่วนตัวถ้าเงินลงมาน้อยโรงพยาบาลขาดทุนแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องดูตัวเลขตรงนี้ถ้ามีปัญหาก็ต้องเรียนท่านรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกมาเคลื่อนไหวของรพศ./รพท.ในครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่กลุ่มแพทย์ชนบทไม่พอใจกับการที่สธ.มีนโยบายปรับการจ่ายค่าตอบแทนแบบอัตราเดียว (Flat Rate) เป็นแบบตามภาระงานหรือ P4P โดยจะมีการชุมนุมใหญ่หน้าทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 26 มีนาคม 2556 และจะชุมนุมทุกวันอังคารจนกว่าจะมีการปรับนพ.ประดิษฐพ้นจากตำแหน่ง
หมอชนบทยันชุมนุมหน้าทำเนียบ
ด้านนพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครราชสีมา และอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ตัวแทนแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์ และพยาบาลในโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศกว่า 700 แห่งจะพร้อมใจแต่งดำมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 26 มีนาคมแน่นอน โดยโรงพยาบาลสามจังหวัดชายแดนใต้จะร่วมชุมนุมครั้งนี้ด้วย
วันเดียวกัน นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ออกแถลงการณ์สนับสนุนกลุ่มแพทย์ชนบท โดยในวันที่ 26 มีนาคมนี้ เครือข่ายฯ จะพากันไปให้กำลังใจกลุ่มแพทย์โรงพยาบาลชุมชนที่หน้าทำเนียบรัฐบาลด้วย
ภาคีลูกจ้างชั่วคราวหนุนp4p
ขณะที่นางกนกพร สุขสนิท ประธานภาคีลูกจ้างชั่วคราวของรัฐแห่งประเทศไทย สังกัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาคีลูกจ้างชั่วคราวสนับสนุนนโยบายปรับเปลี่ยนการจ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน ของทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงฯ เพราะการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มพนักงานลูกจ้างชั่วคราว ที่ไม่ได้รับประโยชน์จากระเบียบการจ่ายเงิน ฉบับที่ 4 6 7 ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นตามภาระงานที่ทำ
"ที่ผ่านมากลุ่มลูกจ้างชั่วคราว ต้องการเรียกร้องให้มีการปรับจ่ายเงินตามภาระงาน เพราะจะช่วยให้เราได้รับประโยชน์มากขึ้น แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีการปรับจ่าย พอเราเห็นว่าทางกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย จ่ายค่าตอบแทนตามภาระงาน เราจึงขอสนับสนุนด้วยอีกแรงหนึ่ง โดยในวันนี้ก็ได้ร่วมกันลงชื่อสนับสนุน ร่วมกับทางโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปด้วย" นางกนกพร กล่าว




