มันฝรั่ง แปลงร่าง

แต่จะรู้บ้างบ้างว่า มันฝรั่ง (Potato) ที่เราทานกันอยู่ทุกวี่ทุกวันนั้น ไม่ใช่แค่ให้อิ่มท้องเพียงอย่างเดียว เจ้าตัวนี้ยังมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยเฉพาะโปรตีนที่สามารถให้พลังงานกับคนเราได้ถึง 85 แคลอรี่ ในปริมาณ 100 กรัม ไม่เพียงเท่านี้ ในตัวมันฝรั่งยังมีสารอาหารชนิดอื่นอีกมากมาย ธาตุแคลเซียม โปแตสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน แมกนีเซียม กรดโฟลิก และวิตามิน ซี, บี-1 และบี-2 ด้วย ด้วยสารอาหารที่มากมายขนาดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทหารเรือสมัยก่อนนิยมตุนมันฝรั่งเป็นเสบียงเพื่อนบริโภคจำนวนมาก

เวลาผ่านไปหลายช่วงยุคสมัย มันฝรั่งก็ได้ถูกนำมาแปรรูปอาหารหลากหลายเมนู ทั้งนำไปทอด ปิ้ง อบ บด และต้ม กินคู่กับอาหารจานหลักได้หลายเมนู โดยเฉพาะเมนู Steak ปัจจุบันมีการดัดแปลงรูปแบบมันฝรั่งให้สวยงาม หลากหลาย เริ่มแบบดั้งเดิมที่หั่นเป็นแท่ง สไลท์ ทำเป็นเสี้ยว หรือบด เพื่อให้เข้ากับหน้าตาอาหารในแต่ละเมนู ผมเคยนำมันฝรั่งมาแกะเป็นรูปดอกกุหลาบ แล้วนำไปต้มให้สุกช็อกด้วยน้ำเย็น แล้วนำไปทำ เมื่อทอดได้ที่แล้วเอากลีบกุหลาบไปชุบเกลือเล็กน้อย แต่หัวจานหลายๆช่อรองพื้นด้วยผักสลัดหลากสี ก็ดูดีสวยไปอีกแบบครับ

หนึ่งในเมนูที่ใช้มันฝรั่งมาเป็นพระเอกก็คือ Roast Potato เป็นเมนูที่สามารถทานเล่นได้เรื่อยๆ และเป็นเครื่องเคียงกับเมนู Steak ได้ดีเลยทีเดียว อย่างแรงที่ต้องเตรียม คือ

- มันฝรั่งสักประมาณ 2-3 หัว
- เนยชนิดจืดสัก 1ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- Rosemary 2 กรัม (เครื่องเทศทางยุโรป มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์ทั่วไป)
- Onion Confit (เป็นการผัดหอมใหญ่กับเนย เป็นระยะเวลานานๆ เพื่อดึงความหวานของหอมใหญ่ออกมาได้เต็มที่) แต่ถ้าใครไม่ถนัด ผมแนะนำใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ก็ได้ความหวาน ความหอมในอีกรูปแบบนึง
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ

เริ่มขั้นตอนการทำ

1. ปอกมันฝรั่งให้เกลี้ยง แล้วหั่นจะหั่นเป็นแท่ง หรือเป็นเสี้ยวได้ตามชอบใจ

2. นำมันฝรั่งไปต้มในน้ำอุณภูมิห้อง จนกระทั่งน้ำอยู่ในระดับอุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส (ไม่ต้องเป๊ะก็ได้ครับ เพราะไฟของแต่ละเตาอุณหภูมิไม่เท่ากัน แต่ขอให้อยู่ประมาณนี้ เหตุผลที่ต้องต้องมันฝรั่งในน้ำที่อุณหภูมิห้องก่อน ไม่ต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วค่อยใส่มันฝรั่้งลงไปเพื่อให้มันฝรั่งสุกทั้งนอกและในพร้อมกัน)

3. เมื่อมันฝรั่งสุกได้ระดับแล้วให้นำเข้าเตาอบ ผสมเครื่องทุกอย่างที่เตรียมมา เข้าด้วยกัน อบในอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เวลาประมาณ 30 นาที (หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่เอามันฝรั่งไปอบเลย เพราะความร้อนที่ได้จากเตาอบก็น่าจะทำให้สุกอยู่แล้ว นั่นก็เพราะว่า ถ้าเอามันฝรั่งไปอบทันทีเลย จะทำให้เนื้อมันฝรั่งแห้งจนเกินไป ไม่น่ากิน)

4. เมื่ออบได้ที่แล้ว ตักใส่จานทานได้เลยครับ (แนะนำว่าควรเป็นภาชนะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมาก เพราะเป็นเมนูทานเล่น และสามารถนำมาเป็นเครื่องเคียงกับ Steak ได้ดีเลยทีเดียวครับ^^)