คุณภาพชีวิต-สังคม
กล้ามั้ย? ท่องยุโรป 4 ประเทศโดยไม่ใช้เงินซักบาท
มันก็จะคิดเยอะหน่อย ถ้าต้องออกเดินทางไปทั่วยุโรปโดยไม่มีเงินติดตัวซักบาท แต่แก๊งสล็อธสาวชาวไทยกลับกระโดดเข้าใส่ แล้วก็ทำสำเร็จด้วย!
นี่คือการแข่งขัน Red Bull Can You Make It? 2018 ซึ่งในปีนี้มีที มจากประเทศไทยเข้าร่วมด้วยนั่ นคือทีม “นิมบ์ลี่ สล็อธส์” (Nimbly Sloths)
สล็อธเพื่อนซี้จากรั้วจามจุรี ประกอบด้วย แพร - ไหมแพร ชีวมงคล, เจนนี่ - รมิดา จึงไพศาล และวะ - วศินี ธัญญะกิจไพศาล แก๊งสาวขาลุยที่มาพร้อมลูกบ้าตั้ งแต่รอบคัดเลือกในไทย โดยเพื่อการเข้ารอบสุดท้าย พวกเธอไม่ได้ขอเสียงโหวตจากพื่ อนหรือคนรู้จักเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงการต่อสายเข้ ารายการวิทยุ ทวีตไปหานักแสดง นักร้อง ศิษย์เก่าจุฬาฯ เพื่อขอคะแนนโหวตจนได้เป็นตั วแทนประเทศไทยในที่สุด
7 วันระหว่างแข่งขัน (10-17 เม.ย.61) สามสล็อธที่แสนจะคึกคัก ออกสตาร์ทจากเมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และสามารถเข้าเส้นชัยที่อั มสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้สำเร็จ รวมระยะทาง 1,940 กิโลเมตร ผ่านจุดเช็คพอยท์ใน 4 ประเทศ และจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 60 (คะแนนภารกิจ) จากทั้งหมด 200 ทีม โดยใช้ Red Bull Can ไปทั้งหมด 103 กระป๋อง โดยทีมจากสวีเดนผู้ชนะการแข่งขัน สามารถเดินทางไปเก็บจุดเช็คพอยท์ได้มากถึง 12 จุดใน 6 ประเทศ
แม้จะไม่ได้รางวัลกลับมา แต่แค่นี้ก็เด็ดมากพอแล้ว กับการตะลุย 4 ประเทศในหนึ่งสัปดาห์โดยไม่มี เงินสักบาท แถมยังต้องทำภารกิจมากมาย เช่น ทำอาหารให้คนแปลกหน้ากิน ลงไปแช่น้ำพุกลางเมือง ขี่คอคนไม่รู้จักเพื่อถ่ายรูป ออกทีวีของช่องสาธารณะให้ได้ ไปจนถึงเต้นรำตอนฝนตก ชวนคนอื่นมาตัดผมให้ หรือแม้แต่เช็คอินโรงแรม 5 ดาว หรือกินอาหารมิชลินสตาร์แบบไม่ ต้องใช้เงิน ซึ่งแต่ละภารกิจจะมาพร้อมกั บคะแนนให้ผู้เข้าแข่งขันได้สะสม
รายการแข่งขัน Red Bull Can You Make It? เป็นการแข่งขันสำหรับนักศึกษาที่ อยากจะมีประสบการณ์แบบครั้งหนึ่ งในชีวิต โดยเฟ้นหาตัวแทน 200 ทีมจาก 60 ประเทศทั่วโลก เพื่อเดินทาง 7 วันตะลุยทั่วยุโรป
ผู้เข้าแข่งขันจะออกสตาร์ทจาก 5 จุดในยุโรปพร้อมๆ กัน (มาดริด, บูดาเปสต์, แมนเชสเตอร์, สต็อกโฮล์ม และ โรม) เพื่อไปให้ครบทุกจุดเช็คพอยท์และทำภารกิจที่กำหนด โดยห้ามใช้เงิน ห้ามพกบัตรเครดิต มือถือก็ต้องทิ้งเอาไว้ มีเพียงกระป๋องเรดบูลเท่านั้นที่ติดตัวไป (เริ่มต้นที่ 24 กระป๋องและสะสมเพิ่มได้หลังทำภารกิจ)
เรดบูลหนึ่งกระป๋องมีค่ามากแค่ ไหน? คำถามนี้ตอบได้ยากมาก เพราะที่ผ่านมา ผู้เข้าแข่งขันที่ ฝากวีรกรรมเอาไว้ในปีก่อนๆ ก็มีตั้งแต่ได้ขึ้นเครื่องบิ นจากเวียนนาไปอินสบรูกด้วยเรดบู ลแค่ 3 กระป๋อง ซึ่งทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ไปได้ ไกลถึง 380 กิโลเมตร!
แต่สำหรับบางทีมก็แลกเรดบูล 1 กระป๋องกับการนั่งโรลเลอร์ โคสเตอร์ แลกกับระยะทางประมาณ 400 เมตร และความสูง 23 เมตร เพื่อย้อนกลับมาที่จุดเดิม อ้อ! ได้อีกอย่างคือการหลั่งสารอะดรี นาลีน
หรือบางทีมก็ยอมสละเรดบูลตั้ง 2 กระป๋องแลกกับภาพล้อของที มที่วาดโดยศิลปินในกรุงบูดาเปสต์, ฮังการี
ถามว่าคุ้มไหม? ตอบไม่ได้ เพราะศิลปะไม่สามารถตีราคาได้นี่ เนอะ!
เจนนี่-รมิดา จึงไพศาล ผู้นำแก๊งที่แม่นยำเรื่องเส้ นทาง และรับหน้าที่วางแผนให้เพื่อนๆ เล่าประสบการณ์ที่ได้จากการเดิ นทางครั้งนี้ว่า “ก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่ไม่มี เป้าหมายในชีวิต ไม่รู้ว่าอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร แต่จากทริปนี้ทำให้รู้ว่า ถึงเราจะไม่มีเป้าหมายของตัวเอง แต่เราสามารถใช้ชีวิตทำเพื่ อคนอื่นได้ เพราะตลอด 7 วันเราได้รับสิ่งต่างๆ มากมายโดยที่คนให้ไม่ได้หวังสิ่ งตอบแทน แม้บางอย่างจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่มันเติมเต็มความรู้สึกเราได้ ดีมาก ซึ่งถ้าเราส่งต่อความรู้สึกนี้ ให้คนอื่นๆ บ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี”
ส่วน วะ- วศินี ธัญญะกิจไพศาล สาวน้อยร่างเล็กที่พกเครื่ องสำอางแทนที่จะพกถุงนอน ให้คำแนะนำสำหรับคนที่อยากจะมี ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิ ตแบบที่ตัวเองได้รั บจากโครงการนี้ว่า “วัยรุ่นอย่างพวกเราหลายคนแคร์ ภาพลักษณ์กันเยอะ โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่ หลายคนอยากจะดูดีตลอดเวลา ทำให้ต้องฝืนทำบางอย่างตามคนอื่ น ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้นอาจไม่ได้ทำให้ เรามีความสุขจริงๆ การได้ออกไปเจอโลกที่กว้างขึ้ นทำให้เห็นว่าการไม่ต้องแคร์ สายตาคนอื่นสักพัก ชีวิตกลับมีความสุขมากกว่า เพราะฉะนั้นความสุขมันมีได้ มากกว่าที่คิด อยากให้ทุกคนลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ อย่าพูดแค่ว่าน่าสนใจ แต่ไม่ลงมือทำ”
เช่นเดียวกับ แพร-ไหมแพร ชีวมงคล ผู้รักในการผจญภัย ชื่นชอบความท้าทาย และเต็มไปด้วยพลังด้านบวกที่เล่ าว่า “ทริปนี้ทำให้เรารู้จั กมองหาความสุขง่ายๆ จากสิ่งรอบๆ ตัว เพราะขนาดเราไม่มีเงินติดตั วเลยสักบาท แต่ทำไมเราไม่ทุกข์เลยแม้แต่นิ ดเดียว มันไม่ใช่ความลำบากด้วยซ้ำ แต่มันเป็นความสนุกที่ไม่รู้ จะบรรยายยังไง รู้แต่ว่ามันคือความสนุก คือมิตรภาพ คือความท้าทาย ที่เราสามารถเรียนรู้การเป็นผู้ ให้ เรียนรู้ที่จะมองโลกในแง่ดีได้ กับทุกเรื่อง”