สมุดบันทึก ยุคโควิด-19

สมุดบันทึก ยุคโควิด-19

กลวิธีสร้างนักเขียน ด้วยตัวเองโดยธรรมชาติ ที่หลายๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน

 

ทุกๆ ปี ใน งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จะมีการประกวด หนังสือดีเด่น โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ หลายต่อหลายหนผู้ได้รับรางวัลเป็นนักเขียนเด็กๆ อายุน้อย พวกเขาสร้างสรรค์งานเขียนยอดเยี่ยมเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร ส่วนหนึ่งของคำตอบนั้น คือ โครงการสมุดบันทึก

“โครงการสมุดบันทึก เริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 ทุกปีมีคนบ่นว่า คนไทยไม่อ่านหนังสือ ก็มีความพยายามส่งเสริมให้คนไทยอ่านหนังสือด้วยวิธีต่างๆ แต่ไม่เคยทำได้สำเร็จเลย เพราะไปยึดคำของยูเนสโกที่ว่าการอ่านต้องเริ่มจากครอบครัว ทีนี้ครอบครัวของเรา หนึ่งครอบครัวจน สองครอบครัวไม่มีความรู้ สามครอบครัวไม่มีเวลาอยู่กับลูก ส่วนการโยนหนังสือไปให้เด็ก ด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ มันก็ไม่สำเร็จ เพราะเราลืมธรรมชาติของเด็กไป คือ เด็กอยากเล่าเรื่องของตัวเอง เด็กมีความคิดของเขาเอง แต่การอ่านคือการฟังเรื่องของคนอื่น ดังนั้นการให้เด็กเริ่มต้นด้วยการฟังเรื่องของคนอื่น เด็กจึงสนใจน้อยกว่าที่จะให้เขาเล่าเรื่องของเขาเอง

วิธีสมุดบันทึก คือ การให้เด็กเล่าเรื่องของตัวเองลงในสมุด ปี 2557 เราประกาศว่าอยากให้เด็กที่อยากเขียนสมุดบันทึก เขียนจดหมายเล่าเรื่องของตัวเองมา ในปีนั้นผมได้รับจดหมาย 1,200 ฉบับ เราได้ส่งสมุดให้เด็ก 1000 กว่าคน ก็เริ่มได้เห็นผลงานของเด็กที่เล่าเรื่องของตัวเองออกมา คนแรกคือ ซายูริ ซากาโมโตะ หลังจากนั้นทุกปีก็มีเด็กที่มีฝีมือเข้ามา นี่คือส่วนหนึ่งที่แสดงความสามารถโดดเด่นจนถึงขั้นเป็นนักเขียนได้ เด็กที่เป็นเด็กธรรมชาติ ธรรมดาทั้งหลาย ที่เขียนบันทึกอะไรต่างๆ เล่าเรื่องบ้าง ประดิษฐ์โน่นนี่บ้าง ทั้งพันคนนั้นเขาทำได้หมด ที่สำคัญคือ เด็กที่เริ่มต้นจากการเขียนสมุด จะชอบอ่านหนังสือ พอเด็กเริ่มเขียนได้ เด็กก็จะเริ่มอยากอ่านโดยอัตโนมัติ เมื่อเรารู้เช่นนี้ เราก็ทำเรื่อยมา” มกุฏ อรฤดี บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ผีเสื้อ กล่าวถึงที่มาของโครงการสมุดบันทึกให้ฟัง

 

3

 

“บางคนเขียนเรื่องเก่ง บางคนเป็นนักวาดรูปและเขียนเรื่อง บางคนประดิษฐ์ของ บางคนพับกระดาษ เรากำลังจะพิมพ์หนังสือเรื่องพับกระดาษเล่มแรกของสำนักพิมพ์ไทย ของเด็กอายุ 7 ขวบ และเมื่อต้นปีนี้ เราก็ได้เด็กอีก 4-5 คน ไม่เหมือนกันเลย คนหนึ่งเขียนการ์ตูนช่อง อายุ 11 ปี อีกคนอายุแค่ 6 ขวบ มีฝีมือวาดรูปและเล่าเรื่อง ลายมือยังเป็นแมวอยู่เลย แต่เล่าเรื่องเก่ง ส่วนที่ได้รางวัลมี 4 คน จากจำนวน 7 เล่ม ได้รางวัล 5 เล่ม มีกวีหนึ่งคน เริ่มเขียนบทกวีตั้งแต่อายุ 7 ขวบ พออายุ 10-11 ก็ได้พิมพ์เป็นเล่ม มีบทกวีถึง 100 บท ชื่อว่า ดวงตาหิ่งห้อย ส่วนเล่มล่าสุดที่เพิ่งได้รางวัลเป็นเด็กสมาธิสั้น” ด้วยวิธีสมุดบันทึก ทำให้เกิดการค้นพบเด็กอัจฉริยะด้านต่างๆ มากมาย แม้แต่เด็กสมาธิสั้นก็ยังแสดงฝีมือจนได้รับรางวัลชนะเลิศ ประโยชน์ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ ทำให้เด็กชอบอ่านหนังสือ 

"เราไม่ใช้คำว่ารักการอ่าน รักการอ่านเป็นคำที่สูงส่งเกินไป เราใช้คำว่าเด็กชอบอ่านหนังสือ ถ้าเราใช้วิธีนี้ เด็กจะชอบอ่านหนังสือ อยากอ่านหนังสือ อยากรู้มากขึ้นในสิ่งที่ตนเองเขียน เช่น สมมติจะเขียนเรื่องผีเสื้อ เด็กก็ต้องคิดว่า จะไปดูผีเสื้่อที่ไหน ไปดูในสนามหญ้าก็ไม่เห็นมี บ้านตัวเองไม่มีสนามหญ้า ยิ่งตอนนี้ไม่ได้ไปโรงเรียน ทางเดียวที่จะเห็นผีเสื้อได้ละเอียดก็คือหนังสือเกี่ยวกับผีเสื้อ เด็กก็ต้องไปค้นคว้า นักเขียนของเราทุกคนเป็นนักอ่านกันหมด อย่างเช่น ตินติน อ่านหนังสือปีหนึ่ง 90 เล่ม มากกว่ามาตรฐานของเด็กสิงคโปร์ 50 เล่ม พูดอย่างสรุป ด้วยวิธีสมุดบันทึก เราทำให้เด็กมีคุณภาพ มากขึ้น ง่าย และ เร็ว โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แค่สมุดเล่มเดียว ต่อให้ไม่สอนอะไรเลย ซึ่งเราไม่เคยสอนอะไรเลย เขาออกมาเองครับ นอกจากนี้ยังมีบางคนมีฝีมือในการแปลด้วย ก็เลยให้ทำงานแปล 2 เล่ม"

 

11

 

ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ขณะนี้ โครงการสมุดบันทึกได้แพร่หลายไปในต่างประเทศแล้ว

“คนของเราที่ไปเรียนปริญญาเอกที่ฝรั่งเศส ได้เสนอแนวคิดนี้แก่อาจารย์ที่นั่น เผอิญมีอาจารย์จากแคนาดา จากอิตาลี จากสเปนเข้ามาร่วมประชุมด้วย หลายคนสนใจที่จะเอาไปใช้ที่โน่น ในต่างประเทศในบางแห่งก็เริ่มแล้ว วิธีอาจจะต่างกัน วิธีที่เราใช้ เริ่มต้นด้วยคนหนึ่งคนที่เด็กวางใจ เด็กเชื่อถือ เด็กชอบ เด็กสนิทด้วย เพราะเด็กส่วนมากเขียนแล้วจะไม่ให้พ่อแม่อ่าน บางคนเขียนบ่นพ่อแม่มา เพราะฉะนั้นเราต้องให้เสรีกับเด็ก ทำได้ในทุกที่ แค่สมุดเล่มเดียว แล้วมีคนช่วยดูแล สนับสนุนเขา เป็นนักเขียน เป็นกวี เป็นนักประดิษฐ์ เริ่มได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เด็ก 4 ขวบนี่วาดรูปได้อย่างเดียว ที่เริ่มเห็นชัดๆ ก็ 5 ขวบ บางคนเริ่มก่อนเขียน ก.ไก่ ข.ไข่ ได้ด้วยซ้ำ"

เนื่องจากปีนี้มีเหตุการณ์เกิดโรคระบาดไปทั่วโลก สำนักพิมพ์จึงได้คิดโครงการพิเศษรับต้นฉบับขึ้นมา 

"ปีนี้ เกิดโรคระบาดขึ้น เด็กมีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น เลยประกาศให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ส่งเข้ามา หมดเขต 30 กรกฎาคม 2563 ไม่ใช่โครงการประกวด เป็นโครงการพิจารณาต้นฉบับ หมายความว่าเราไม่ได้เอาแต่ละเรื่องๆ มาเปรียบเทียบกัน แต่ละเรื่องจะพิจารณาโดยตัวเอง สมมติว่ามีคนส่งต้นฉบับนวนิยายมา 10 คน มันอาจจะได้พิมพ์ทั้ง 10 คนเลยก็ได้ คือไม่ได้แข่งขันกันว่าใครได้รางวัลที่หนึ่ง การประกวดเราจะได้เพียงเล่มเดียว อย่างกรณีนี้ทุกคนมีโอกาสได้พิมพ์ถ้าคุณภาพดี แล้วเป็นการพิมพ์เพื่อจำหน่าย นักเขียนก็มีโอกาสที่จะได้ค่าลิขสิทธิ์ ตามจำนวนพิมพ์ เป็นโครงการที่คิดขึ้นมาเพื่อให้คนเขียนหนังสือ มีโอกาสที่จะมีรายได้ระหว่างหยุดงาน ข้อสำคัญ เป็นบันทึกช่วงประวัติศาสตร์นี้ไว้โดยนักเขียนประเภทต่างๆ"

 

89994845_2898446606912592_7950588229923635200_o

 

ล่าสุด มีการทดลอง โครงการสมุดบันทึกแบบยาก ขึ้น ในเขตชานเมืองและในชนบท มกุฏเล่าว่า ปกติการทำวิธีสมุดบันทึก มักจะได้เด็กครอบครัวชนชั้นกลางกับชั้นสูง เพราะพ่อแม่รู้จักสื่อออนไลน์ แต่ยังมีกลุ่มหนึ่ง เป็นลูกชาวบ้าน ลูกกรรมกรที่ไม่ได้ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตและไม่มีทิศทางที่อยู่ที่แน่ชัด เขาจึงกำลังทดลองเกือบเดือนแล้ว

"ตอนกลางคืนกลับไปนอน ตอนกลางวันก็มาอยู่ มาเล่น กินขนม กินข้าว เลี้ยงดูกัน มีอาสาสมัครคนหนึ่งทำอยู่ เราสนับสนุนทุนให้เขา เพราะว่าวิธีเอาหนังสือไปให้อ่าน มันไม่ได้ผล ต้องให้เขาเขียน เด็กพวกนี้มีประสบการณ์เยอะมาก ทั้งดีทั้งเลว เรียกว่าโครงการสมุดบันทึกแบบยาก ถ้าเราเอาสมุดบันทึกไปให้เขาอย่างเดียว เขาไม่เขียนหรอก ทำอย่างไรให้เขาสนใจ ต้องค่อยๆ ตะล่อม เอาโน่นเอานี่ เอาของเล่นมาให้ เลี้ยงไอศครีมอะไรต่างๆ ใช้เวลานานครับ ลงทุนเยอะ แต่ต้องทำนะครับ ไม่เช่นนั้น เราจะมีโอกาสให้แก่เด็กซึ่งพ่อแม่มีฐานะดี แต่เด็กในชนบทยากจนไม่มีโอกาสให้เขา นี่คือโครงการที่อยากทำมาก เพราะว่าเด็กพวกนี้มีจำนวนมากกว่า ในต่างจังหวัด ถ้าเผื่อว่าได้ผล เราก็จะขยายออกไป รับอาสาสมัครเพิ่มขึ้น หรือมีโครงการ มีหาทุน ดำเนินการต่อไป ในที่ต่างๆ ในจังหวัดต่างๆ “

 

91183532_2923801277710458_7742269826302738432_o

 

บรรณาธิการคนนี้บอกว่า 'วิธีสมุดบันทึก' จำเป็นต้องเขียนด้วย ดินสอเหลา เป็นการฝึกเขียนลายมือ ฝึกคิด ก่อนจะเขียนคำ คิดเรื่องตัวสะกด คิดเรื่องราว คิดประโยค ที่จะเล่า ที่จะบันทึก สาเหตุหนึ่งของการเกิดสมาธิสั้น คือ ความไม่สัมพันธ์กันระหว่างความคิดกับการกระทำ มือที่จิ้มเร็วบนคีย์บอร์ด ทำให้ความยับยั้งชั่งใจพร่องไป สร้างความเคยชินกับการขาดความยั้งคิดในภายหน้า จึงควรเขียนบันทึกด้วยลายมือ ถ้าอยากลายมือไม่สวย ก็เขียนดินสอกด ปากกาลูกลื่นไป โครงการนี้ทำขึ้นมาเพื่อให้เขียน ไม่ใช่บันทึกด้วยวิธีออนไลน์ แล้วยังช่วยเด็กฝึกเขียนลายมือ ให้เป็นคนมีลายมือ หากเกิดเหตุร้ายก็เขียนคำว่า ‘ช่วยด้วย’ ได้ สมุดบันทึกจึงเป็นเครื่องมือเรียนรู้โลกและชีวิต

ผู้ใหญ่ส่วนมากคิดไม่ทันเด็ก ไม่รู้วิธีคิด ไม่เข้าใจความซับซ้อนประณีตของเด็ก ถ้าไม่มีอะไรไปครอบเสียก่อน เขาจะมีความคิดดีๆ ของเขาเอง ‘วิธีสมุดบันทึก’ เป็นการเล่นกับใครอีกคนหนึ่ง ที่เขาเชื่อมั่น อยากเล่นด้วย ความลับคือ อย่าสอนวิธีเขียน อย่าสั่งให้เขียน