รวมพลังไทย #ไม่ทนคนโกง

หลากหลายมุมมองต่อ ‘การโกง’ และแนวทางในการปราบ ‘คนโกง’
ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าประเทศไทยจะต่อสู้กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมาตลอด ทว่ายังห่างไกลจากสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จ ปีแล้วปีเล่าที่ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index: CPI) ของไทยตกลงเรื่อยๆ สวนทางกับประเทศเพื่อนบ้านที่ขยับสูงขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม หรืออินโดนีเซีย อะไรคือเงื่อนไขที่ทำให้การทุจริตเกิดขี้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในบ้านเมืองเรา และจะออกไปจากวังวนนี้ได้อย่างไร
สมการ'การโกง'
หากนิยามของการโกง คือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงไปตรงมา การทุจริตคอร์รัปชัน สมการของมันก็น่าจะอยู่ในตัวอักษรเหล่านี้ 'C = M + D- A' โดย C คือ Corruption คอร์รัปชัน, M คือ Monopolize การผูกขาด, D คือ Discretion อำนาจดุลพินิจของหน่วยงานรัฐ และ A คือ Accountability ความรับผิดชอบ ความโปร่งใส
"จากการวิจัยที่ผ่านมา สรุปได้ว่า 4 วิธีที่ช่วยให้ไม่มีการโกงคือ หนึ่ง วิธีตำรวจ ไล่ตามจับคนโกง เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้ว, สอง วิธีพระ เทศนาปลุกจิตสำนึก อย่าให้คนโกง, สาม วิธีสถาปนิก ออกแบบให้รัฐมีอำนาจผูกขาดระบบเศรษฐกิจน้อยลง ให้รัฐมีอำนาจดุลพินิจตัดสินใจที่ไม่จำเป็นน้อยลง แต่มีความโปร่งใสสูงสุด. สี่ วิธีประชาชน ใช้พลังประชาชนเข้ามาตรวจสอบ จัดการ ต่อต้าน ทุจริตคอร์รัปชัน เพราะต่อให้มี ป.ป.ช.เข้มแข็งขนาดไหน กำลังที่มีอยู่จำกัดก็ไม่สามารถจัดการได้”
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา TDRI กล่าว ในงานเสวนา #ไม่ทนคนโกง ‘NO MORE CORRUPTION’ ยิ่งเปิด ยิ่งโปร่งใส ที่บริษัทเดย์โพเอทส์ จัดขึ้น เพื่อผลักดันให้ภาครัฐเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงและตรวจสอบได้
การผูกขาด ไม่ให้ประชาชนมีทางเลือก เช่นไม่สามารถเรียกรถโดยสารผ่านแอพได้ ต้องใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ที่ซื้อเสื้อวินแพงๆ เก็บค่ารถแพง การมีอำนาจดุลพินิจตัดสินใจของภาครัฐมีขั้นตอนให้ประชาชนยื่นเอกสารขออนุมัติอนุญาตทำอะไรสักอย่าง ยื่นแล้วยื่นอีก ส่งเอกสารซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายทนไม่ไหวก็ไปจ่ายใต้โต๊ะ ส่วนผลการยื่นซองประกวดราคาก็เปิดแค่ว่าผู้ชนะได้เท่าไร แต่ไม่ได้เปิดว่าผู้เข้าร่วมแข่งขันยื่นซองรายอื่นเสนอราคาเท่าไร ทั้งที่ตามกฎหมายประชาชนมีสิทธิเรียกข้อมูลตัวนี้ดูได้ ซึ่งทางกรมบัญชีกลางได้ทำฐานข้อมูล Goverment Procurement เปิดให้คนเข้าไปดูได้ เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องใส่ตัว CAPTCHA หลายครั้งในการดูทำให้ไม่สะดวกและใช้เวลามาก
“ในอดีต ป.ป.ช. เปิดข้อมูลทรัพย์สินนักการเมืองไว้ในเว็บไซด์เป็นเวลานาน แต่ตอนหลังเปิดเพียง 6 เดือนแล้วเอาออก ไม่ทราบว่า ทำไมถึงทำอย่างนั้่น อยากให้เปิดให้ประชาชนเข้ามาดูได้ตลอดเวลา แล้วข้อมูลที่เปิดเผย ควรจะเป็นในรูปแบบที่เอาไปประมวลผลต่อได้ ภาคราชการไทยชอบเปิดข้อมูลในรูปแบบที่นำไปประมวลผลต่อได้ยาก เช่น PDF แทนที่จะเป็น Excel ที่เปิดทั้งหมดนำไปใช้งานต่อได้ ข้อมูลต่างๆ ไม่ควรให้ประชาชนเข้าถึงได้ยาก” ดร.สมเกียรติ ตั้งข้อสังเกต
'การโกง'มีอยู่ทุกที่
ประเทศไทยไม่เคยได้คะแนน CPI เกิน 50 จากคะแนนเต็ม 100 สอบตกมาตลอด สูงสุดคือ 38 ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ ถ้ามีใครสักคนไปพบว่าการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย มีอยู่แทบทุกจังหวัด
“ตอนนั้นหนูเป็นนักศึกษาปี 4 ไปฝึกงานที่หน่วยงานหนึ่ง มีหน้าที่ทำเอกสาร ลงพื้นที่ ไปคุยกับคนไร้บ้าน แต่พอไปทำงานวันแรก ผอ.ให้ไปทำเอกสารที่บ้าน ไม่ใช่ที่สำนักงาน ให้คีย์ข้อมูล เขียนจำนวนเงิน กรอกใบเสร็จ ทำอยู่หลายวัน จนเอะใจไปถามพี่ที่สำนักงาน ถึงรู้ว่าเป็นเอกสารจำนวนเงินโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้ ที่มีรายได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจริงๆ ต้องไปสำรวจบ้านคนนั้นก่อน แต่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลย รวมทั้งหมดเกือบ 7 ล้าน พี่ที่สำนักงานบอกว่าเขาเป็นคนตรวจสอบเอกสาร ถ้าส่งอันนี้มาจะเข้าข่ายทุจริตปลอมแปลงเอกสาร หนูก็กลับไปถามพ่อกับแม่ว่าจะเอายังไงดี พ่อแม่บอกว่า ถ้าสิ่งไหนที่ทำถูกก็ทำไป หนูเลยไปร้องเรียน แจ้งความ สุดท้าย ข้าราชการโดนไล่ออก แล้วมีทุจริตลักษณะนี้อีก 70 กว่าจังหวัด ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องอัยการ”
ปณิดา ยศปัญญา เจ้าของรางวัล Anti-Corruption Awards 2019 เล่าประสบการณ์ให้ฟัง ขณะนี้เธอรับราชการ อยู่ที่ ป.ป.ท. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 10 ขณะที่ในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น ประเทศไทยมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรงคือ ป.ป.ช.(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ)
"ป.ป.ช.ตั้งมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 40 ชุดนี้เป็นชุดที่ 4 ค่า CPI คะแนนที่เราได้รับ ย้อนกลับไป 25 ปี ก็อยู่ประมาณนี้ 35-36 สิ่งที่ทำให้คะแนนประเทศเราตกก็คือ สินบน การทุจริต ภารกิจแรกของ ป.ป.ช. คือ ปราบปราม ยึดทรัพย์สิน นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ ภารกิจที่สอง ตรวจสอบทรัพย์สิน ภารกิจที่สาม ปลูกฝังวิธีคิดที่ถูกต้อง ป.ป.ช.ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ อีก 18 ปี 2580 วางเป้าหมายว่าประเทศเราจะได้ค่า CPI 73 ส่วนสำคัญคือ ทำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา เราพยายามออกแบบกฎหมาย ออกแบบระบบ แต่สุดท้ายปัจจัยสำคัญที่สุดคือตัวคน ต้องเปลี่ียนระบบการคิดของคนจากที่มองประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ปรับใหม่เป็นมองประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
ตอนนี้คดีทั้งหมดมารวมที่ ป.ป.ช. 10,000 กว่าคดี เราเป็นแค่ต้นน้ำ ออกมาตรการ แต่ประชาชนทุกคนต้องช่วยกัน ลำพังป.ป.ช.มาทำเองเรื่องป้องกันปลูกฝังมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะคอร์รัปชันมันเกี่ยวข้องกับผู้คนในประเทศทั้งหมด วันก่อน ป.ป.ช.ชี้มูลที่มหาสารคามกรณีจ่ายเงินเพื่อเป็นอบต. คดีเดียว 109 คน สังคมนั้นผิดปกติ เพราะเขาประกอบอาชญากรรมทีเดียวร้อยคน ตอนนี้ ป.ป.ช.กำลังร่วมกับรัฐบาลสร้าง Digital Citizen พวกที่มีศีลธรรม Don’t Do 01 แทน Analog Citizen ยากนะ แต่ก็ต้องทำทุกด้าน” อุทิศ บัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. พูดถึงการทำงานที่ผ่านมา
ช่วยกัน'ต้านโกง'
การแก้ปัญหาที่มีมานานหยั่งรากลึกขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าถามความเป็นไปได้ หัวใจสำคัญคือต้องเริ่มจากตัวเราและครอบครัวก่อน
“ผมเห็นเขารณรงค์เรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้ว ขนาดประเทศจีน ไม่มีประชาธิปไตย เขายังได้อันดับสูงกว่าเรา มันไม่ได้เป็นที่ระบอบอย่างเดียว มันเป็นที่คน อย่างฮ่องกงเขาใช้ระยะเวลานานมากในการปลูกฝังจิตสำนึกเด็กรุ่นใหม่ให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ารังเกียจ รับไม่ได้ เขามองว่าคนอายุเยอะยากที่จะเปลี่ยนความคิด ไปใส่ความคิดให้กับเด็กรุ่นใหม่เลยดีกว่า
ผมเห็นหลายคนออกมาต่อต้านคอร์รัปชั่น แต่ก็กลัวสรรพากรจะตรวจสอบ เมื่อคุณชี้นิ้วไปที่ใคร อีกสามนิ้วก็ชี้มาที่ตัวเอง จึงต้องย้อนกลับมาดูตัวเองและคนในครอบครัวเราว่าทำหรือเปล่า มีคำพูดว่า เราไม่ทำเขาก็ทำ งั้นภาษีก็ไม่จ่าย จ่ายไปมันก็โกงกัน นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นคนโกงเหมือนกัน ต้องเริ่มจากทำตัวเองให้ไม่มีข้อบกพร่องก่อน
การทุจริตคอร์รัปชันทุกวันนี้ เรารู้ข่าวมาจากสื่อ ซึ่งหาที่เป็นกลางยากเหลือเกิน สื่อเลือกข้าง หลายครั้งสื่อใหญ่ๆ ออกไปแล้วมาขอโทษทีหลัง บิดเบือนไปแล้ว คนเดือดร้อนไปแล้ว แก้อะไรไม่ได้แล้ว อคติในใจคนมันเปลี่ยนไปแล้ว โซเชียลมีเดียเหมือนบ่อน้ำที่เราดื่มกินร่วมกัน ก่อนที่จะแฮชแท็กหรือร่วมกันต่อต้านอะไร หาข้อมูลข้อเท็จจริงให้ละเอียดก่อน ถ้ายังไม่แน่ใจอย่าแชร์ หรือมีอารมณ์ร่วม อย่าเพิ่ง พยายามปราศจากอารมณ์ก่อน เพราะทุกครั้่งที่วิพากษ์วิจารณ์คุณก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมบิดเบี้ยวไปด้วย" นที เอกวิจิตร หรือ ‘อุ๋ย บุดดาเบลส’ แสดงความคิดเห็น
ในมุมของประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เขายกตัวอย่างแนวคิดของนักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมคนหนึ่ง ที่ใช้การออกแบบมาจัดการข้อมูลเพื่อความโปร่งใส
"เขาเคยทำแบบทดสอบการกรอกรายได้ของคนในอังกฤษ พบว่าส่วนใหญ่จะโกหกรายได้ จึงเปลี่ยนการกรอกข้อมูลให้ครบแล้วเซ็นตอนจบเอกสารว่าขอรับรองว่าข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นความจริง ด้วยการย้ายที่เซ็นมาไว้ตอนต้น ข้อมูลที่เรากำลังจะกรอกต่อไปนี้ทั้งหมดขอยืนยันว่าเป็นความจริง แล้วก็เซ็น พบว่าอัตราการตอบผิด น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
การออกแบบจึงช่วยได้ ถ้าเราออกแบบเปิดเผยข้อมูลให้โปร่งใสได้ในคลิกเดียว อย่าว่าแต่นักข่าวเลย ประชาชนทั่วไปก็สามารถขุดหาออกมาแฉได้ เทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้นเอื้อประโยชน์มากขึ้น การทุจริตแล้วโดนจับได้หรือโดนแฉมันมีโอกาสสูงกว่าสมัยก่อนมาก ยังมีความหวังที่จะมาช่วยได้ครับ” อุ๋ย บุดดาเบลส กล่าวถึงความคาดหวัง
สอดคล้องกับมุมมองของประธานสถาบัน TDRI ที่เห็นว่า การออกแบบและจิตวิทยาช่วยแก้ปัญหานี้ได้
“ประเด็นที่หนึ่ง ปรับทัศนคติประชาชน เราต้องออกแบบระบบให้เซ็นชื่อก่อนแล้วค่อยกรอกรายละเอียด ต้องศึกษาจิตวิทยาว่า เมื่อไรที่คนคิดว่าบางเรื่องคือการโกง บางเรื่องไม่ใช่การโกง มีการทดลองเอาเงิน 1 ดอลลาร์ใส่ตู้เย็นในหอพักไว้ เงินไม่เคยหาย แต่พอเอาโค้กแช่ไว้ โค้กจะหาย โค้กก็ 1 ดอลลาร์เหมือนกัน แต่คนคิดว่าเอาเงินจากตู้เย็นคือการขโมย เอาโค้กจากตู้เย็นไม่ใช่การขโมย ซึ่งถ้าไม่เข้าใจจิตวิทยา เราก็จะตีโจทย์พวกนี้ผิด
อุ๋ย บุดดาเบลส์, ปณิดา ยศปัญญา, อุทิศ บัวศรี
ส่วนที่เวียดนามได้คะแนน CPI เพิ่มขึ้น เพราะเขาจับโปลิสบูโร จับกรรมการบริหารพรรคคอมมิวนิสต์ไปเข้าคุก ถ้ามีเคสใหญ่ๆ แบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย รับรองว่าขวัญและกำลังใจในการต่อสู้มันจะเปลี่ยนไป จะเกิดความเห็นว่า กฎหมายมันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่กฎหมายที่ใช้ได้กับแมลงวัน ใช้กับเสือไม่ได้
ประเด็นที่สาม ทำระบบให้เปิดกว้าง เป็นหน้าที่ราชการที่ต้องทำระบบให้ดี เปิดเผยข้อมูลแบบโปร่งใส เราเคยเห็นข้อมูลของรัฐที่ออกมาแล้วให้เราตรวจสอบรัฐได้ไหม นี่คือสิ่งที่ประเทศไทยยังไม่เคยทำ ถ้าประเทศไทยอยากจะปราบคอร์รัปชั่น อยากจะกับสู้คอร์รัปชั่น ไม่ทนคนโกง นี่คือสิ่งแรกที่ประเทศไทยต้องทำ
มีตัวอย่างโครงการความโปร่งใสเรื่องการก่อสร้าง องค์การต่อต้านคอรัปชั่นประเทศไทยศึกษาพบว่า เซฟเงินใน 4-5 ปีนี้ไปได้ 30,000 กว่าล้าน เมื่ีอมีผู้สังเกตการณ์ภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์ นี่คือระบบที่ดี ให้คนที่อยากสู้กับคอร์รัปชั่น เข้าถึงข้อมูลง่ายๆ สิครับ” ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ สรุปแนวทางแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตาม นอกจากฝากความหวังไว้ที่ระบบระเบียบต่างๆ แล้ว ประชาชนทุกคนต้องตระหนักว่า การแก้ไขปัญหาทุจริตเป็น ‘หน้าที่’ ของคนไทยทุกคน ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 วงเล็บ 10
ศิลปินวงพาราด็อกซ์
“อันดับแรกต้องสร้างคนให้มีศีลธรรมก่อน ป.ป.ช.เป็นแค่องค์กรหนึ่งที่รัฐธรรมนูญสร้างขึ้นเพื่อเป็นองค์กรแกนกลาง ไม่ใช่ต้องทำเองทั้งหมด เช่น บ้านคนนี้ไม่สะอาด ป.ป.ช.จะไปช่วยกวาดให้ คุณต้องกวาดบ้านตัวเองก่อน เราต้องช่วยกันวางเป้าหมายร่วมกัน ยกระดับ CPI จาก 36 เป็น 73 เหมือนวงดนตรีออร์เคสตร้า ที่ร่วมแรงร่วมใจเป็นวงเดียวกัน เล่นเพลงเดียวกัน ถ้าทำอย่างนี้ได้ ประเทศเราไปได้ ทุกคนมีความสำคัญที่จะแก้ไขปัญหานี้ครับ” อุทิศ บัวศรี กล่าวถึงความรับผิดชอบร่วมกันของคนในสังคม
เพราะที่สุดแล้ว...กุญแจดอกสำคัญอยู่ในมือประชาชน เมื่อทุกคนต่าง ‘ทนไม่ได้’ กับการโกง หรือการทุจริตคอรัปชัน และไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวังวนนั้น ประเทศชาติก็มีความหวัง







