ดื่มด่ำบรรยากาศด้วยตาเนื้อ ท่องเที่ยวสไตล์ ‘จันจิ ไกอา’

การเดินทางของนักแสดง นักร้อง แดนเซอร์สาว ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง
“ปกติแล้ว ไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไร ถ้ามีเวลาว่าง ก็จะอยู่แต่ในเมือง อยู่ที่บ้าน จะไปไหนก็จะนั่งมอเตอร์ไซค์ ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์ค่ะ แต่ถ้าเป็นที่เที่ยว ชอบไปทะเล ชอบไปดำน้ำ ไปฟรีไดฟ์ ไปกับพี่สาว พี่สาวเป็นคนชอบไปทะเล เราก็เลยชอบไปทะเลตามไปด้วย ไปเที่ยวด้วยกัน”
จันจิ ไกอา หรือ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย นักแสดง นักร้อง ลูกครึ่งจีน-ฟิลิปปินส์ หนึ่งสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป GAIA ที่มีเพลงแรกชื่อว่า Audition (เลือกได้) แล้วได้นักร้องเกาหลี Jay Park มาร่วมร้องด้วย จันจิเริ่มต้นงานในวงการบันเทิงด้วยการเป็นแดนเซอร์ให้กับ เบิร์ด ธงไชย, บี้ สุกฤษฎิ์, ชิน ชินวุฒ, แกงส้ม เดอะสตาร์ มีผลงานมิวสิควิดิโอเพลง ฉันทนา/เบิร์ด ธงไชย, เพลงคืนดีคืนเดียว/ตูมตาม เดอะสตาร์ เพลง ณ บัดนาว, กลัวที่ไหน, รักจับใจ/บี้ สุกฤษฎิ์, เพลงคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง/ ชิน ชินวุฒ และเป็นดีเจให้กับ MAX 94.5 แล้วก็เป็นแดนเซอร์ D-DANCE
ผลงานการแสดงละคร มีเรื่อง ‘หน้ากากนางเอก’ ‘สงครามแย่งผู้ To Be Continued’ ‘บุษบาเปื้อนฝุ่น’ และภาพยนตร์เรื่อง ‘แคท อ่ะ แว้บ แบบว่ารักอ่ะ’ และ ‘อาม่า’ ล่าสุดหมดสัญญากับเวิร์คพอยท์ก็มาเซ็นต่อกับบรอดคาซท์ แสดงละครเรื่องแรกให้กับช่อง 3 เรื่อง ‘ฟ้าฝากรัก’ จันจิบอกว่า เกร็งมาก ตื่นเต้นมาก เหมือนเป็นน้องใหม่ แถมยังเล่นบทร้ายอีกต่างหาก
“ตอนนี้มีละครกับทางบรอดคาซท์ค่ะ กำลังออนแอร์อยู่ แล้วก็กำลังจะมีผลงานกับ pptv จะเปิดเร็วๆ นี้ แต่ได้ถ่ายทำไปเรียบร้อยแล้ว เข้าซีนกับนักแสดงแล้ว อยากให้รอดูว่าจะเรื่องราวเป็นยังไง นักแสดงมีใครบ้าง ส่วนเรื่องฟ้าฝากรัก จันจิเล่นเป็นดาลัด เป็นเพื่อนกับพระเอก ซึ่งพอนางเอกเข้ามา เราก็ต้องแย่งชิงกับนางเอก ทำให้จากคนดีๆ กลายเป็นคนไม่ดี ไม่ยากค่ะ สนุก ค่ะ ฟีดแบคก็ออกมาดีค่ะ คนบอกว่าร้ายดีค่ะ ดูโรคจิต ร้าย ดูนิสัยไม่ดี”
ในจอดูเป็นคนร้ายๆ เพราะบทบาทการแสดง แล้วนอกจอ ถ้ามีเวลาส่วนตัวล่ะ ชอบทำอะไร ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
“ส่วนมากจะไปทะเล ที่ผ่านมา ได้ไปฟรีไดฟ์ครั้งแรก ที่เป็นเบสิคเลย ที่เกาะเต่าค่ะ ไปกับคุณแม่ด้วย จำชื่อหาดไม่ได้แล้วค่ะ เป็นของบิ๊กบับเบิล ก็สนุกดีค่ะ สภาพอากาศช่วงนั้นมีมรสุมเบาๆ เราก็จะเมาคลื่นหน่อย ตอนว่ายก็เมาคลื่นทำให้อ๊วกแตกไปหลายรอบ”
พอถามถึงสถานที่ที่ประทับใจมากที่สุดที่ผ่านมาในชีวิต ก็หนีไม่พ้นทะเลอีก
“ต่างประเทศที่ชอบคือ มัลดีฟค่ะ ตอนนั้นได้ไปฟรีด้วย เพราะว่าทางเพื่อนได้สปอนเซอร์ ไปแล้วก็สนุกค่ะ เป็นสถานที่ที่สวยงามสำหรับพักผ่อน แล้วเวลาโดนแดด ผิวก็จะสวย เหมือนแดดเขาเป็นยังไงไม่รู้ โดนแดดแล้วผิวจะเป็นสีแทนทองๆ มันไม่ดำเหมือนแดดประเทศไทย มันจะออกทองๆ อีกอย่างธรรมชาติของเขาก็ดีด้วย ได้เห็นปลาโลมาด้วย ก็เลยประทับใจค่ะ”
จะว่าไป ถ้าเป็นเรื่องทะเล ประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้าใคร ในเรื่องนี้ จันจิก็เห็นด้วย
“ที่ประทับใจอีก นอกจากมัลดีฟแล้วก็จะมีทะเลที่ กระบี่ ภูเก็ต จันจิว่าสถานที่ทะเล ต้องประเทศไทยเลยค่ะ ที่ไปมาก็ประทับใจทุกที่เลยค่ะ อย่างล่าสุดได้ไปกับคุณแม่ด้วย ปกติไม่ได้อยู่กับคุณแม่ คุณแม่อยู่ฟิลิปปินส์ พอดีคุณแม่มา ก็เลยได้ไปเที่ยวด้วยกัน อย่างที่เกาะเต่า เราประทับใจในเรื่องของโมเมนท์มากกว่า ตอนที่เราไปมีมรสุมนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงด้านบน แม้ว่าจะไม่ได้ไปอะไรมากมาย นอกจากเรียนฟรีไดฟ์วิ่ง คุณแม่ก็ชอบถ่ายรูป ก็ไปเล่นน้ำ ก็ไม่ต้องมีอะไรที่พิเศษมาก แต่ก็ประทับใจ”
ส่วนสถานที่ในฝันที่อยากไปแต่ยังไม่ได้ไป ก็มีเหมือนกัน ไม่ใกล้ไม่ไกลในประเทศไทยนี่เอง
“จริงๆ แล้วจันจิอยากไปขึ้นดอย แต่เป็นคนไม่ถนัดเดินขึ้นเขา แต่อยากขึ้นค่ะ ถ้ามีโอกาส มีแรง ก็อยากจะไปสักครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นดอยไหนก็แล้วแต่ ภูกระดึง เคยขึ้นไป แต่ไปไม่ถึงครึ่งค่ะ ก็เหนื่อยแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่ว่าสักครั้งหนึ่งก็อยากจะขึ้นไปให้ได้”
เหตุการณ์ครั้งนั้น มีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในระหว่างทางด้วย นั่นก็คือ โดนแมลงทำร้าย
“มีตัวแมลงอะไรไม่รู้ รู้สึกว่าจะชื่อ ตัวคุ่น มันจะมากัด พอกัดแล้วผิวมันก็จะเป็นแบบเหมือนเป็นเลือด แล้วมันก็กระจายแดงๆ กว่าจะหายก็นานเหมือนกัน ก็เลยรู้สึกแย่เหมือนกัน”
และแม้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ทำน้อย แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยมที่มีให้กับตัวเองในชีวิตนี้
“การเดินทางท่องเที่ยวในความคิดของเราคือ การเก็บความทรงจำมากกว่า คือบางทีเราไปเที่ยวเพื่อจะถ่ายรูป เพื่อที่จะอัพโซเชียล แต่มัน... ซึ่งจริงๆ เราควรจะไปเที่ยวเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศให้มากขึ้น เพราะว่าเดี่ยวนี้คนเราน่ะ จะจำบรรยากาศไม่ค่อยได้ ไปถึงก็มักจะเอาแต่ถ่ายวิดีโอ ถ่ายรูป จนเราไม่สามารถจำในสมองได้ มันจำได้แค่ในมือถือ
เราก็เลยรู้สึกว่าการไปท่องเที่ยวก็คือการใช้ตา ตาเนื้อของเรานี่ล่ะ มอง ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นที่ๆ ไปง่ายไปยาก จันจิว่า การท่องเที่ยวคือการดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยที่ไม่ต้องใช้โซเชียลเป็นสื่อกลาง”
...เป็นการมองด้วยตาของตัวเอง และเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในความทรงจำให้นานที่สุด




