มรดกเมืองเก่า ในหุบเขาเร้นลับ @แพร่

มรดกเมืองเก่า ในหุบเขาเร้นลับ @แพร่

งดงามในเชิงช่าง ความเชื่อ และสถาปัตยกรรมจากไม้สักอันทรงคุณค่า

“คำแก้ว คำแก้วขึ้นมายะกานกัน” เสียงเจ้านายเรียกหาสาวใช้ให้รีบขึ้นมาทำงานบนเรือนโดยรีบด่วน ปรากฏในห้วงคำนึงครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนอยู่ในคุ้มเจ้าหลวงหรือบ้านเก่าที่ไหนสักแห่ง

รถกำลังเดินทางเข้าไปตัวเมือง จ.แพร่ เมืองไม้สักที่มีอายุยาวนานนับพันปี อุดมไปด้วยวิถีชีวิตวัฒนธรรมท้องถิ่นชาวล้านนาที่ยังคงมีชีวิตชีวา เมื่อหลอมรวมกับลมหายใจของคนรุ่นใหม่ก่อให้เกิดเสน่ห์น่าหลงใหลชวนมาชม

 

8

 

มรดกไม้สัก

รถวิ่งผ่านทุ่งนาสีเขียวสลับกับสองข้างทางป่ารกครึ้ม ขึ้นเขาลงเขาเลาะเลี้ยวไปตามถนนรูปตัวเอส จนมาหยุดที่เขตกำแพงเมืองเก่า ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ ความมีสง่าราศีปรากฏขึ้นสู่สายตา เมื่อเราก้าวเข้าไปในรั้วเขตบ้านของ คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ สถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป อาคารไม้สองชั้น มีประตูหน้าต่าง 72 บาน บนชายคาประดับด้วยไม้ฉลุลายหลังคามุงด้วยไม้แป้นเกล็ด สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2435 โดย เจ้าหลวงพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย เราเดินผ่านประตูหนึ่งเข้าไป มีความหมายว่า “หากท่านมีความเจ็บไข้อยู่ ท่านจะหายป่วยไข้” แต่ละประตูในที่นี้จะมีความหมายแตกต่างกันไป

6

“อาคารนี้เวลาเดินชมจะมีอาการสั่นๆ เพราะไม่ได้ลงเสาเข็ม จึงต้องเน้นกำแพงหนาช่วยรับน้ำหนักไว้ ห้องแรกเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของโบราณ เดิมเป็นห้องบ่าวไพร่ จีบหมาก เจียนพลู ซอยยาขอบ (ยาเส้น) ตรงพื้นห้องมีช่องเล็กๆ เปิดปิดได้ ไว้เรียกคนรับใช้ที่อยู่ใต้ถุนเรือนด้านล่าง สร้างเป็นห้องเก็บของและเป็นที่อยู่อาศัยของคนรับใช้ เวลาเจ้าหลวงท่านจะเรียกคนรับใช้ขึ้นมาทำงานด้านบน ท่านก็จะเรียกหรือ ‘เอิ้น’ ผ่านทางช่องนี้” การุณ ยาโน (น้องโจ) มัคคุเทศก์จิตอาสา เล่าถึงความเป็นมาให้ฟัง

4

ผ่านมาสมัยรัชกาลที่ 5 เกิดจลาจล กบฏเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ เจ้าหลวงลี้ภัยไปอยู่หลวงพระบาง ห้องข้างล่างแปรสภาพเป็นคุก ช่องลับนี้จึงใช้หย่อนข้าวหย่อนน้ำให้นักโทษแทน เราเดินผ่านประตูที่มีความหมายว่า “ประตูนี้จะพบชัยชนะทุกสิ่งทุกอย่าง” ออกไป พบกับรูปภาพเก่าโบราณ เห็นถึงการแต่งกายและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในยุคนั้น 7

“ผู้หญิงที่ออกเรือนแล้วจะเกล้าผมตรงท้ายทอย ที่ไม่แต่งงานจะเกล้ากลางศีรษะ มีการเล่น ปี่จุง ด้วย มีพ่อค้าแม่ค้าชาวจีนมาค้าขายที่นี่ ด้านหลังของคุ้มเจ้าหลวงฯคือจวนผู้ว่าฯ ลายฉลุไม้ที่สวยงามเป็นฝีมือของช่างชาวจีนจากกวางตุ้งที่ได้มาสร้างพระราชวังวิมานเมฆ เจ้าหลวงเมืองแพร่ว่าจ้างให้มาสร้างที่นี่ด้วย ด้านบนเพดานมีช่องขึ้นไปเก็บพระพุทธรูป เวลาขึ้นไปก็เอาบันไดไม้ไผ่พาด แล้วขนหีบสมบัติขึ้นไปเก็บไว้” น้องโจเล่าต่ออย่างฉะฉาน

ที่ห้องบุตรธิดาลูกหลานท่าน มีชิ้นงานจำลองการปักผ้าของ แม่เจ้าบัวไหล เพื่อทำเป็นผ้าห่อพระคัมภีร์ ชาวแพร่มีประเพณีห่อพระคัมภีร์ที่วัดสูงเม่น แม่เจ้าบัวไหลใช้ดิ้นเงินดิ้นทองปัก (ของจริงท่านปักแล้วก็ห่อพระคัมภีร์ถวายไปแล้ว) ใกล้ๆ กันมีจักรเย็บผ้าซิงเกอร์รุ่นแรกๆ ที่ใช้มือหมุน ไม่มีที่เหยียบด้านล่างอย่างที่เคยเห็น

5

 

“นี่คือเตียงของเจ้าเวียงชื่น ชื่อบุตรธิดาท่านจะไพเราะมาก เจ้ากาบคำ, เจ้าสุพรรรณวดี, เจ้ายวงคำ, เจ้าดวงแก้ว, เจ้าหอมนวล และเจ้าอินแปลง ส่วนห้องน้ำห้องครัวจะแยกไว้ด้านหลัง เจ้าหลวงท่านมีหลานปู่เป็นลูกครึ่งด้วย ธิดาท่านไปสมรสกับผู้จัดการบริษัทอีสต์เอเชียติ๊กชาวเดนมาร์กที่มาสัมปทานไม้ สมัยนั้นมีการสมรสเพื่อดองเมืองกัน”

แต่ไม่ว่าจะสืบเชื้อสายจากเจ้าเมืองแพร่มาอย่างไร จะสังเกตได้ว่าไม่มีนามสกุล ณ แพร่ ปรากฏเหมือนสายตระกูลอื่น เนื่องจากสมัยที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พระราชทานนามสกุล ไม่มีเจ้าเมืองแพร่ไปขอพระราชทานนามสกุล ด้วยที่นี่มีเหตุจลาจลพอดี

เมื่อเข้าไปที่ห้องบรรทมของเจ้าหลวง ข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่ครบ ที่น่าสนใจคือขาพระแท่นบรรทมจะถูกยกให้สูงขึ้น ด้วยความเชื่อว่า เจ้าจะต้องนอนที่สูง ในห้องนั้นมีหีบกำปั่นเหล็ก มีปืนแก๊ป, ปืนปาสตัน, ปืนลูกซองสั้น, ดาบอาคม, ดาบเงินคู่กาย, ไม้ตะพดงาช้าง, ขอสับหัวช้างลงอาคม (เชื่อว่าใครถูกผีเข้าให้เอาไม้นี้ไปแตะศีรษะจะช่วยได้) มีชุดจำลองของเจ้าเมืองแพร่. กระจกคันฉ่องบานใหญ่. หวีเก่างาช้างที่เป็นของท่านจริงๆ ถัดมาเป็นห้องนอนพระชายา มีพระแท่นของแม่เจ้าบัวไหล ชุดจำลองของแม่เจ้าบัวไหล ด้านหลังมีพระรูปของแม่เจ้าบัวไหลและรูปธิดา และมีผ้าซิ่นอายุ 100 ปี อยู่ด้วย

 

1

 

มรดกช่างฝีมือ

ย้อนอดีตไปกับเรือนไม้สักแล้ว ต้องเดินทางไปดูวิธีการแกะสลักบ้าง เราเดินทางต่อไปที่ บ้านวังหลวง อ.หนองม่วงไข่ แหล่งเรียนรู้สำหรับคนที่สนใจงานแกะสลักไม้

“ศูนย์นี้เริ่มมาจากโครงการหมู่บ้านโอทอปนวัตวิถี ผมทำงานแกะสลักมาตั้งแต่อายุ 13-14 เริ่มจากเป็นคนกวาดขยะก่อน พออายุ 16-17 ก็เริ่มฝึก แม่ผมเสียไปตอนผมอายุ 8 ขวบ ทำให้ต้องดิ้นรน หาอะไรทำ ซึมซับมากับงานช่าง ส่งตัวเองจนเรียนจนจบปวส.คอมพิวเตอร์ธุรกิจที่อาชีวะ แล้วไปทำงานอยู่ 6 เดือน รู้สึกว่าชีวิตมันขาดหาย โหยหาสิ่งที่เราเป็นอยู่ ก็กลับบ้านมาเริ่มทำในสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ไปไหนอีกเลย แกะสลักอย่างเดียว ผมเป็นลูกน้องพี่คำแสนมา 10 ปี เพิ่งแยกตัวออกมาเมื่อปี 54 มีแนวคิดว่า 10 ปีแรกเป็นเรื่องของการฝึกฝน 10 ปีที่สองเป็นช่วงของการหาประสบการณ์ 10 ปีให้หลังคือการสร้างสรรค์งาน นี่คือการส่งผ่านมรดกจากรุ่นสู่รุ่น” สล่าหนุ่น เสวต ใจกระเสน พูดถึงตัวเองและศูนย์แห่งนี้ให้ฟัง 2

ข้อดีของ Facebook ทำให้ สล่าหนุ่น มีตลาดที่เปิดกว้างมาก มีลูกค้าจากหาดใหญ่ติดต่อสั่งงานมาโดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ส่วนไม้ที่นำมาแกะสลัก เขาจะไปหาซื้อจากโรงเลื่อย ถ้าไม้แพง ราคาก็ขึ้นไปตามไม้ ส่วนมากแล้วงานฝีมือเป็นงานที่ขึ้นอยู่กับความพอใจ ราคาก็แล้วแต่จะตกลงกัน สล่าหนุ่นเอาอุปกรณ์และไม้มาให้เราลองแกะสลักดู เราทำร่องขอบตัวปลา เริ่มจากมือซ้ายถือสิ่ว (ตัวV) มือขวาถือค้อน จากนั้นตอกลงไปบนสิ่ว ถ้าตั้งสิ่วตรงไปมันจะลงลึก ถ้าตั้งสิ่วนอนเกินไปก็ไม่เข้าเนื้อไม้ จึงต้องเอียงๆ 45 องศา ยากเหมือนกันนะนี่

“กว่าจะเป็น ต้องใช้เวลานานครับ ใจไม่รักทำไม่ค่อยได้ มีสามเณรมาฝึกแกะสลักที่นี่ 10 คน 8 วัน ทำได้ แค่ 2 คน อีก 8 คนไม่ผ่าน เหมือนกับรุ่นผม 5-6 คน มีผมทำได้คนเดียว บางคนวาดเก่งมากแต่แกะไม่ได้ ดูแบบไม่ออก ตีแบบไม่แตก มีรูปแบนๆ ใบเดียวต้องมาแกะสามมิติ อยู่ที่การเรียนรู้ ศิลปะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกดูสวยงาม โลกนี้ถ้าไม่มีศิลปะ ก็เหมือนก้อนหิน อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี บอกไว้”

เราเดินทางต่อไปดูงานแกะสลักโดยช่างไม้ยอดฝีมืออีกคนหนึ่งที่ ต.เวียงทอง อ.สูงเม่น บ้านช้างไม้ ของ สล่า เรวัฒ อินประสิทธิ์ ในบ้านมีงานแกะสลักช้างเยอะแยะมากมาย ที่โดดเด่นมากๆ คือผิวของไม้แกะสลักออกมาดูเหมือนผิวหนังของช้างจริงๆ ละเอียดมากๆ เป็นช้างที่เหมือนมีชีวิตจนรู้สึกได้

3

 

“ผมเคยศึกษากับอาจารย์ คำอ้าย เดชดวงตา ศิลปินผลงานดีเด่นด้านทัศนศิลป์ (แกะสลักไม้) ที่ อ.งาว จ.ลำปาง ผมใช้เนวทางของอาจารย์มาตลอด แล้วก็มีแนวทางของตัวเองด้วย ส่วนใหญ่ใช้จินตนาการ เริ่มจากทำโครงสร้างทั้งหมดก่อน อย่างชิ้นนี้ที่เพิ่งลาออกจากศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยมาใหม่ๆ ผมอยู่มา 8-9 ปี คิดถึงเพื่อนๆ ก็เลยทำงานชิ้นนี้ขึ้นมา อีกอย่างหนึ่งตอนเด็กๆ ในชุมชนผมมีช้างเป็นร้อยๆ เชือก แทบทุกหลังคาเรือนจะมีแต่ช้าง งานชิ้นนี้เป็นไม้ท่อนเดียว ช้างเดินต่อๆ กันไป เอางวงเกี่ยวกัน ต้องออกแบบแต่ละเชือกๆ ไป ใช้เวลาเป็นเดือน ทำเสร็จแล้วก็ย้อมมะเกลือ ไม้สักเป็นไม้ของ จ.แพร่ เป็นไม้ที่ดีที่สุดในประเทศ ส่วนเรื่องราคา อยู่ที่ความพอใจ เคยขายได้มากสุด 3 แสน อยากได้งานแบบไหนคุยกันได้ ถ้างานไม่ละเอียดระดับหมื่นก็ทำให้ได้” ว่าแล้วอาจารย์ก็คว้าสิ่วคว้าค้อนไปสาธิตการแกะสลักให้ดู

10  

มรดกแห่งพระพุทธ

วันรุ่งขึ้น เราเดินทางไปยัง ต.ในเวียง อ.เมือง เพื่อไปชมความสวยงามของ วัดจอมสวรรค์ วัดพม่าที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีหลังคา 9 ชั้น 5 ซุ้ม ก้าวเข้ามาในวัดก็พบกับคำทักทาย ไมส่งค้า (ภาษาไทยใหญ่ แปลว่า สวัสดี) จากอาจารย์ ปาณสิน สองแคว มาต้อนรับ พร้อมนำชมให้ความรู้เกี่ยวกับวัดที่สวยงามแห่งนี้

“วัดจอมสวรรค์เป็นวัดไทยใหญ่ ศิลปะพม่ามัณฑะเลย์ หรือ พุกาม แบ่งเป็น 3 ส่วน เขตพระพุทธ, เขตพระสงฆ์, เขตฆราวาสชาย ฆราวาสหญิง ตามเสามีการ ปิดคำ ด้วยทองคำเปลว จารึกภาษาไทยใหญ่และพม่าโบราณไว้ว่า “จุลศักราช 1276....” มีทั้งหมด 34 เสา ผ่านกาลเวลามาร้อยกว่าปีก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม พ่อจองนันตา ได้มาบูรณะไว้เมื่อปีพ.ศ. 2467 เพื่อถวายเป็นความดีแก่บรรพชน เป็นพุทธบูชาแด่รุกขเทวดา คนและผี ให้ถึงซึ่งนิพพาน เสาปิดทองแบบนี้มีในวิหารแบบไทยใหญ่ เพื่อความสว่างไสวในเรื่องของแสง ตัวลายของดอกพุดตาน, ดอกโบตั๋น, ดอกฝ้าย ที่อยู่บนเสาปิดคำนั้นจะไม่เหมือนกัน เขตกุฏิสงฆ์เป็นสี่เหลี่ยมมีลงรักปิดกระจก มีฉลุทองเหลืองเป็นใบองุ่น ฝั่งตะวันออกเป็นของเจ้าหลวง ฝั่งตะวันตกเป็นของเจ้าราชวงศ์, เจ้าราชบุตร ตามธรรมเนียมไทยใหญ่เวลาทำสังฆกรรมแล้วจะมีการกรวดน้ำ ตรงพื้นมีช่องเปิดออกทะลุลงไปด้านล่าง เพื่อกรวดน้ำให้กับ เทวดา, คน และผี (ไตรภูมิ) แต่ถ้าเป็นไทยลื้อที่กรวดน้ำจะอยู่ด้านมุมเสา” อ.ปาณสิน กล่าวเสริม

11

เรากรวดน้ำเสร็จแล้ว เดินกลับมามองขึ้นไปบนเพดาน เห็นจักรราศีของพม่าหรือไทยใหญ่ 8 วัน 8 ช่อง วันอาทิตย์พญาครุฑ, วันจันทร์เสือ วันอังคารสิงโต, วันพุธกลางวันช้างมีงา, วันพุธกลางคืนช้างไม่มีงา, วันพฤหัสหนูตะเภา, วันศุกร์หนู, วันเสาร์พญานาค ที่สำคัญ คนที่มาวัดนี้ส่วนมากจะกอดเสาต้นที่ 12 เสาแห่งความดีก่อนกลับเพื่อรับความโชคดีกลับไป

13

“สีดำๆ ที่เห็นนั้นเรียก ปิดเงิน ภาษากลางเรียกว่าเงินหางหรือปิดหาง ตัวจองพารา(บุษบก) อยู่ที่วัดนี้ร้อยกว่าปี แต่ตัวพระกับบัลลังก์เพิ่งจะเดินทางมาเมื่อปีที่แล้ว อยู่ๆ พระบัวเข็ม ก็เดินทางมาจากย่างกุ้ง (พระอุปคุตบัวเข็ม) เป็นศิลปะสิบสองปันนากับรัฐฉาน มีดอกจอกเป็นสัญลักษณ์กับนกยูง พระพุทธบัวเข็มแกะสลักจากไม้ต้นโพธิ์ ในวัดไทยใหญ่จะมีดอกจอกแสดงถึงความรุ่งเรืองร่ำรวย ไม่ล่มไม่จม ไม่ว่าจะอยู่ในน้ำสภาพแบบไหน ดอกจอกก็จะรับแสงดวงอาทิตย์แรกก่อนเสมอ และอยู่ด้านบนตลอด”

12

บนยอดชายคา เรามองเห็น ตัวเหงา สามชั้น เขตพระพุทธจะมีคอสองอยู่สองชั้น เขตพระสงฆ์จะมีคอสองอยู่สามชั้น นี่คืออารามแบบไทยใหญ่ มีเขตใช้สอยทั้งสงฆ์และศาสนพิธีอยู่ด้วยกัน ตรงไหนมีแกะสลักลายผ้าลุนตะยา(ลายน้ำไหลแบบพม่า)ที่ชายน้ำ ตรงนั้นผู้หญิงสามารถอยู่ได้

ซุ้มปยาธาตุ มีไว้เพื่อบอกสถานะของผู้สร้างวัดว่าได้รับอนุญาตจากเจ้าผู้ครองนครเมืองแพร่ให้ใช้ที่ดินในเขตล้านนานี้สร้างวัดได้ จะมีอยู่สองข้าง ถ้าสร้างด้วยเจ้าครองนครตรงยอดจะมีช่อฉัตร แต่ถ้าสร้างด้วยคหบดีคนธรรมดาจะมีแต่ซุ้มเรือนยอดเฉยๆ การปกครองในล้านนาจะมีเจ้าขัน 5 ใบคือ เจ้าหลวง, เจ้าอุปราช, เจ้าวงศ์บุรี, เจ้าราชบุตร, เจ้าราชวงศ์”

สิ่งที่สร้างบรรยากาศได้ดีมากๆ ของวัดแห่งนี้คือเสียงดนตรีจากน้องๆ โรงเรียนวัดสวรรค์นิเวศ ที่มาบรรเลงกันทุกเสาร์อาทิตย์ เพื่ออนุรักษ์สะล้อซอซึงให้คงอยู่สืบไป

=====================================

 

16

ลองลิ้มชมรส...กาแฟแพร่

กาแฟแพร่ มีมานานแล้ว หลายสิบปีก่อนอาจจะมีคนเคยได้ยินคำว่า กาแฟเด่นชัย มาบ้าง แต่ไม่ได้มีการส่งเสริมอย่างเป็นจริงเป็นจัง ครั้งนี้ เราได้มาชมงาน ตลาดเกษตรกร และ วันกาแฟแพร่ ที่บ้านวงศ์บุรี เราเดินชม, ชิม, ดื่ม ตลาดนัดคนเดินที่กาดกองเก่า มองดูการออกร้านมากมาย แล้วก็ได้ยินเสียงตามสายว่า...

 

15

“ตลาดเกษตรกรมีขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพ การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายด้านการตลาด ประชาสัมพันธ์กาแฟแพร่จากแหล่งเพาะปลูกและแหล่งรวบรวมผลผลิตกาแฟในเขต อ.เมืองแพร่, ร้องกวาง, ลอง, เด่นชัย, สอง และวังชิ้น เพื่อสนับสนุนเพิ่มศักยภาพการผลิตกาแฟให้สามารถแข่งขันทั้งภายในและภายนอกประเทศได้”พงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวเปิดงาน

เราเดินเลี้ยวเข้าไปชมร้านกาแฟจากอำเภอต่างๆ แล้วก็มาพบกับงาน แพร่คอฟฟี่คราฟท์ Pheae Es Yenn Battle 2019 การแข่งขันชงเครื่องดื่ม ESYENN (เอสเย็น) เฟ้นหารสชาติ ‘เอสเพรสโซ่เย็น’ เมนูกาแฟที่ดีที่สุดจากผู้เข้าแข่งขัน (จ.แพร่มีร้านกาแฟทั้งหมด 700 กว่าร้าน) การแข่งขันเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว เราแวะดื่มกาแฟรอดูผู้ชนะกันดีกว่า

17

“กาแฟแพร่ส่วนใหญ่ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นโรบัสต้า เพราะที่นี่มีระดับความสูง 300 เมตรจากน้ำทะเล ถ้าเป็นอาราบิก้าความสูงจะต้อง 1,000 เมตรขึ้นไป เราปลูกกาแฟมานานแล้ว แต่รสชาติยังต้องได้รับการพัฒนา พื้นที่เพาะปลูกมีหมื่นกว่าไร่ ปีหนึ่งได้ 200 ตัน ตอนนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ใช้กาแฟนอกจังหวัด รสชาติของกาแฟที่ควรทานจะเป็นระดับ มีเดียมโรสท์ ที่สีน้ำตาลในกาแฟเริ่มออกมาเคลือบเมล็ดกาแฟ กาแฟที่อร่อยคือกาแฟที่มีคาราเมลไม่ใช่กาแฟที่ขม ความขมเกิดจากการคั่วจนคาราเมลกลายเป็นน้ำตาลไหม้จะเริ่มขม

กาแฟจะมีรสชาติเปรี้ยวทุกอันเพราะเป็นผลเชอรี่ เปรี้ยวมากน้อยแล้วแต่สายพันธุ์ บางคนหมัก 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมงแล้วแต่มวลสารของเมล็ดกาแฟ ต้องหาให้เจอว่าเมล็ดของเราเหมาะกับโปรเซสแบบไหน ส่วนที่เวลาทานแล้วมีกลิ่นบลูเบอรี่ กลิ่นส้ม มาจากการโปรเซสด้วย มาจากสายพันธุ์ด้วย ในโรบัสต้าจะไม่ได้แยกว่าเป็นอะไร แต่ในอราบิก้ามีเป็นร้อยๆ สายพันธุ์ ในบ้านเรา เชียงใหม่ เชียงราย จะเป็นสายพันธุ์ คาติมอร์ เชียงใหม่ 80 เชียงใหม่ 90 เป็นสายพันธุ์ของโครงการหลวงที่พัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อต้านราสนิมและให้ผลผลิตดี ปลูกในพื้นที่ 1100-1200 เมตรได้ คุณภาพโรบัสต้าของแพร่ค่อนข้างดี ปลูกในระดับ 400-800 เมตร ด้วยกระบวนการทั้งหมดยังไม่ดี การจัดงานวันนี้เพื่อให้เกษตรกรได้มาเรียนรู้และพัฒนาต่อไป” วิษณุ มั่นพรม เจ้าของร้านเฌอบาร์ (Jebar) ให้ความรู้เกี่ยวกับกาแฟและพูดถึงงานวันนี้ 

19

ในที่สุดเราก็ได้ผู้ชนะ นั่นคือร้าน เลอกองเก่า Café’ de PhraeRis “ปกติที่ร้านทำกาแฟหลากหลาย เป็นกาแฟนำเข้าจากเอธิโอเปีย, บราซิล เราเอากาแฟแพร่มาผสมปรากฏว่ามันดีขึ้นกว่าเดิม ให้ความละมุน ความหอมมากขึ้น เป็นกาแฟที่ดีเลย ถ้าได้รับการพัฒนาปรับปรุงก็น่าจะดียิ่งขึ้น เราเทสต์ในสัดส่วนที่ต่างกันจนได้ทั้งความหอม, รสชาติ และ ความละมุน ต้องขอบคุณกรรมการที่ให้โจทย์มา ทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น”วิม โชคชัย วันไสยา กับ อาร์ต โสภณ ดวงจันทร์ ผู้เป็นเจ้าของร้านบอกว่า “จุดเด่นกาแฟแพร่คือความเข้มข้น แล้วก็ความหอม รสชาติดี ตัวครีม่าสวย ตอนเทช็อต สวยมาก ตอนเปิดถุงกลิ่นก็โดดเด่นมาก เราศึกษากาแฟแพร่มาพักหนึ่งแล้ว ไปที่แม่ลัว, เด่นชัย, นาคูหา, ภูพระยาพอก เพื่อดูว่าชาวบ้านมีกาแฟอะไรบ้าง หนึ่งช่วยโปรโมทการท่องเที่ยว สองช่วยเหลือเกษตรกร เราเป็นคนชอบทานกาแฟอยู่แล้ว”

20

ใครที่อยากลองลิ้มรสรางวัลที่หนึ่ง เอสเย็น กาแฟเย็นผสมกาแฟแพร่ มาได้ที่ เลอกองเก่า Café’ de PhraeRis เขตเมืองเก่า ถนนกาดกองเก่า แยกประตูมาร (มีที่จอดรถด้วย) หยุดทุกวันพุธ เปิดเวลา 8.00-17.00 น.