สธ. เผย คนไทยกว่า50 % มีปัญหาสุขภาพช่องปาก

สธ. เผย คนไทยกว่า50 % มีปัญหาสุขภาพช่องปาก

สธ. เผย เด็กไทยกว่า 50%มีปัญหาฟันผุ มากกว่า 60 %ของผู้ใหญ่มีปัญหาโรคเหงือกอักเสบ อัตราการเข้าถึงบริการทันตกรรมของคนไทยยังต่ำกว่า 10 %

​วันนี้ (21 กรกฎาคม 2565) กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จัดประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 8 พ.ศ. 2565 ภายใต้แนวคิด “ความเสมอภาคด้านสุขภาพช่องปาก : Equity in Oral Health” โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมด้วยนายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมอนามัย ร่วมงาน ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

​            นายสาธิต กล่าวว่า จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ปี 2560 พบว่า เด็กไทยกว่า 50%มีปัญหาฟันผุ และมากกว่า 60 %ของผู้ใหญ่มีปัญหาโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งการเข้าถึงบริการเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพช่องปากที่ดี แต่ปัจจุบันอัตราการเข้าถึงบริการทันตกรรมของคนไทยยังต่ำกว่า 10 %และมีความเหลื่อมล้ำระหว่างกองทุนหลักประกันสุขภาพ การสร้างความเสมอภาคด้านสุขภาพช่องปากจึงมีความสำคัญ เพราะทำให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับการดูแลด้านสุขภาพช่องปากอย่างเท่าเทียม เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงความไม่ยุติธรรมตามสิทธิ์อันพึงได้ของบุคคล

  ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข  โดยกรมอนามัย จึงได้จัดการประชุมวิชาการทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ครั้งที่ 8 “ความเสมอภาคด้านสุขภาพช่องปาก : Equity in Oral Health” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปาก ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพบริการ สร้างความรอบรู้ และส่งเสริมชุมชนให้มีความเข้มแข็ง  ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการดูแลในระดับปฐมภูมิ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเท่าเทียม

    นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากยังเป็นปัญหาที่สำคัญของคนไทย โดยพบว่าในเด็กอายุ 3 ปี 52.9% และเด็กอายุ 5 ปี  75.6 %มีประสบการณ์ฟันน้ำนมผุ ส่วนเด็กวัยเรียนและเยาวชนอายุ 12 ปี  52.0 %มีประสบการณ์การเกิดโรคฟันแท้ผุ ส่วนกลุ่มวัยทำงานอายุ 35 - 44 ปี มีปัญหาสภาวะปริทันต์ที่พบการอักเสบของเหงือก มีเลือดออกง่าย  51.0 %และปัญหาโรคฟันผุที่ยังไม่ได้รับการรักษา 43.3% สำหรับผู้สูงอายุ

     พบว่า มีฟันถาวรใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่ เพียง 56.1% ซึ่งการแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันนั้น นอกจากทันตบุคลากร จะมีส่วนสำคัญและจำเป็นอย่างมากแล้ว การดูแลสุขภาพช่องปากด้วยตนเองอย่างเหมาะสมและถูกต้องก็เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำ ด้วยการแปรงฟันสูตร 2-2-2 คือ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ตอนเช้าและก่อนนอน ควรแปรงฟันนาน ครั้งละ 2 นาทีขึ้นไป และให้งดกินอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้ช่องปากสะอาดได้นานที่สุด นอกจากนี้ควรใช้ไหมขัดฟันทุกวันอย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อให้สุขภาพช่องปากและฟันดีแบบครบสูตร