“โควิด-19” ยังน่าห่วง เศรษฐกิจยิ่งน่าวิตก

“โควิด-19” ยังน่าห่วง เศรษฐกิจยิ่งน่าวิตก

สถานการณ์โควิดในปัจจุบันยังเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงหลังพบ โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งหาวิธีรับมือ บวกกับยอดผู้ติดเชื้อที่ยังเพิ่มขึ้น ทำให้ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

สถานการณ์โรคระบาดในไทย โควิด-19 ยังคงออกฤทธิ์ออกเดช ไม่สามารถประมาทได้เลย ตัวเลขคนติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แถมยังเจอสายพันธุ์ย่อยน้องใหม่ “BA.2.75”  ซึ่งพบในคนไทยแล้ว 1 ราย ยืนยันโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

สายพันธุ์ย่อยน้องใหม่ BA.2.75 เป็นสายพันธุ์ที่หลบภูมิคุ้มกันเก่งขึ้น พบครั้งแรกที่ต่างประเทศตั้งแต่ต้นปี มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในอินเดียช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีรายงานตรวจพบจากทั่วโลกแล้ว จำนวน 359 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2565)

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายว่า โควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 มีการกลายพันธุ์บน spike protein หลายตำแหน่งที่ต่างจากสายพันธุ์ย่อย BA.2 ทำให้เกิดการหลบภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นภายหลังการติดโรคโควิด-19 หรือจากการฉีดวัคซีน โอกาสการติดเชื้อซ้ำจึงมีสูง มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น

ขณะเดียวกัน เมื่อรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ก็จะเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายได้มากขึ้นด้วย องค์การอนามัยโลก จัดให้ BA.2.75 อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล ที่ต้องจับตาดู

การแตกหน่อสายพันธุ์ย่อยของโควิด ไม่ใช่เรื่องเล็กที่รัฐบาลจะมองข้าม และไม่ใช่เรื่องที่พวกเราทุกคนจะประมาท รัฐบาลต้องชี้แจงข้อเท็จจริงของการแพร่ระบาดในช่วงเวลาแบบนี้ให้ชัดเจน เพื่อที่ประชาชนทุกคนจะได้มีความระแวดระวังเพิ่มมากขึ้น

หากรัฐยังไม่สื่อสารข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ยังยืนยันตัวเลขการติดเชื้อที่มีวันละแค่หลักพัน ทั้งที่รู้กันอยู่ว่าตัวเลขจริง “มีเยอะมากกว่านั้น” เรามองว่าการสื่อสารข้อเท็จจริงกับประชาชน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะโควิด-19 ที่ลากยาวมากกว่า 2 ปี ประชาชนเขาปรับตัวได้แล้ว คงไม่ตื่นตระหนก กักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน หรือคิดแทนไปก่อนแล้วว่าจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก 

ขอเพียงประชาชนได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นข้อเท็จจริง เรามองว่า ดีเสียอีก ประชาชน ผู้บริโภค ธุรกิจบริการ จะได้เพิ่มความระมัดระวังตัวเองมากขึ้น ไม่ละเลย ไม่ประมาท ขณะที่ การบริหารจัดการของหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง

โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ก็ควรต้องมีวิธีการรับมือผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้นให้เพียบพร้อม การส่งต่อผู้ป่วย การประสานงานระหว่างหน่วยงานต้องราบรื่นไม่ติดขัด สิทธิในการรักษาต้องมีความชัดเจน อย่าทำให้ประชาชนสับสน การรักษาโควิดในกลุ่มบุคคลทั่วไป ยังเป็นเรื่องที่รัฐต้องสื่อสารให้ชัดเจน และต้องให้บริการกับประชาชนได้จริง 

ประเทศไทยยังเผชิญวิบากกรรมใหญ่ ที่ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย ทั้งวิกฤติจากโรคระบาดที่ยังน่าเป็นห่วง วิกฤติเศรษฐกิจที่ยังน่าหวั่นวิตก ทีมรัฐบาล ทีมประเทศไทย ต้องหาทางผ่านวิบากกรรมครั้งนี้ไปให้ได้แบบเจ็บตัวน้อยที่สุด

เพื่อประคองตัวเดินต่อได้ท่ามกลางวิกฤติที่ทั้งโลกเจอ อยู่ที่ว่าประเทศไหน จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ ประคองตัวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้มากกว่ากัน ใครแข็งแกร่งกว่าก็ “รอด” ใครอ่อนแอก็แพ้ไป