กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยกศาสตร์ "นวดน้ำมัน" ลังกาสุกะ รองรับกลุ่มประเทศมุสลิม

กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยกศาสตร์ "นวดน้ำมัน" ลังกาสุกะ รองรับกลุ่มประเทศมุสลิม

กรมการแพทย์แผนไทยฯ reunion 3 ไฮไลท์ สมุนไพร-อาหาร-นวด ยกศาสตร์การ "นวดน้ำมัน" ลังกาสุกะ องค์ความรู้เฉพาะจากแถบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รองรับกลุ่มประเทศ "มุสลิม"

การกลับมาพบกันของ สมุนไพร  นวดไทย อาหารไทย ไฮไลท์ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หยิบยกความโดดเด่นและผลักดันให้อัตลักษณ์ของไทยขับเคลื่อนสู่เวทีโลกจนได้รับการยกย่องจาก ยูเนสโก

 

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไม่รอช้าเตรียมส่งนวดไทยโกอินเตอร์อีกครั้ง พร้อมเปิดตลาดกลุ่มประเทศ มุสลิม กับศาสตร์ "นวดน้ำมัน" ลังกาสุกะ ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิมจากดินแดนภาคใต้

 

นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์  รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า จากแนวคิด “สร้างเศรษฐกิจไทย ด้วยกัญชาไทย นวดไทย อาหารไทย" เป็นคอนเซ็ปต์ของการจัดงาน มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 การนำเรื่องสมุนไพรไทย  นวดไทย อาหารไทย เป็นการโคจรมาพบกันของไฮไลท์

 

กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยกศาสตร์ \"นวดน้ำมัน\" ลังกาสุกะ รองรับกลุ่มประเทศมุสลิม

 

เริ่มจาก Product Champion  สมุนไพร กระชายดำ ไพล ขมิ้นชัน บัวบก ซึ่งจะเป็น สมุนไพร พื้นฐานที่เคยส่งเสริมไปสู่สากลมีการต่อยอดการพัฒนาวิจัยที่ดีเพื่อรองรับความน่าเชื่อถือ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พยายามส่งเสริมผู้ประกอบการไม่หยุดนิ่งกับนวัตกรรมทั้งแบบ ทาน ทา  แผ่นปิด ทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร และ นวดสปา   

 

สำหรับ Product Champion  มีความสัมพันธ์กับเรื่อง อาหาร นวดไทย นำมาใช้กับขั้นตอนของแต่ละประเภท ด้านอาหารไทย  กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  มีการส่งเสริมอาหารไทยเป็นยา มีการนำสมุนไพรไทย เครื่องเทศมาปรุงอาหาร

จนจังหวัดเพชรบุรีได้รับยกย่องจาก ยูเนสโก เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมอาหาร ด้วยคอนเซ็ปต์ของงาน สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยสมุนไพรไทย  ได้เห็นผู้ประกอบการที่เติบโตจนสามารถกลับมาเป็นพี่เลี้ยงช่วยรุ่นน้อง และมีวิสาหกิจชุมชนหลายแห่งเข้มแข็งด้วยตัวเอง แต่สมุนไพรบางเรื่องก็ต้องยอมรับว่าต้องใช้เวลาคงไม่ได้สำเร็จภายในปีเดียวต้องทำงานหนัก     

 

กว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและสร้างความยอมรับ ซึ่งกรมจะพยายามเข้าไปส่งเสริมเรื่องของการตลาด การประชาสัมพันธ์ เป็นโปรแกรมพัฒนาผู้ประกอบการ
นายแพทย์ขวัญชัย  กล่าวเพิ่มเติมว่า การนวดไทยยังอยู่ในความประทับใจหลังจากที่เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก ถือว่าเป็น 1 ใน 3 สิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเมืองไทยเกิดความชื่นชอบ ได้แก่

1.อาหารไทย

2. มวยไทย

3.นวดไทย

 

กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยกศาสตร์ \"นวดน้ำมัน\" ลังกาสุกะ รองรับกลุ่มประเทศมุสลิม

 

ดัน การนวด รับนักท่องเที่ยว

 

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 เริ่มคลี่คลายการฟื้นเรื่องของการนวดให้กลับมาอีกครั้ง เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ  ไม่ว่าจะเป็น นักท่องเที่ยวจีน ชอบการนวดฝ่าเท้า ญี่ปุ่น เน้นความสะอาด กลิ่นรส อินเดีย เน้นแนวโยคะ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อาทิ บาห์เรน  โอมาน การ์ตา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น ชอบการนวดไทย

 

รวมถึงมีประเทศใหม่ล่าสุด ซาอุดิอาระเบีย ที่ต้องการให้นวดไทยไปเปิดตลาด ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีศาสตร์นวดน้ำมันลังกาสุกะ เป็นภูมิปัญญาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส คาดว่าเหมาะกับกลุ่มประเทศมุสลิม รวมถึงมีพันธมิตรในตลาดต่างประเทศที่ต้องการแรงงานนวดไทยไปทำงานซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเดินทางไปทำงานต่างแดนมากกว่า 10,000 คน

“กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เน้นย้ำว่าคงจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานเชื่อมโยงความร่วมมือกับทั้งเครือข่ายผู้ประกอบการ สมาคมอุตสาหกรรมสมุนไพร สมาคมสปา เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนต่างๆ และอีกมากมาย ซึ่งจะทำงานร่วมกันเป็นทีม Thailand แล้วจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ เชื่อว่าจะเป็นพลังที่ทำให้ประเทศไทยเราฟื้นฟูเศรษฐกิจได้”

 

ด้าน นายนัศรุดดีน เจตนรากุล แพทย์แผนไทยจังหวัดนราธิวาส  เปิดเผยว่า การนวดน้ำมันลังกาสุกะเป็นองค์ความรู้เฉพาะจากแถบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศมาเลเซียบางส่วน เป็นองค์ความรู้แบบภูมิปัญญาชาวบ้านมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยวัตถุประสงค์ของการนวดจะใช้รักษาอาการปวดเมื่อยทั่วไปและใช้สำหรับนวดสตรีหลังคลอดเป็นหลัก

 

แม้การนวดในประเทศไทยมีทั้งแบบเชลยศักดิ์และการนวดแบบราชสำนักเริ่มต้นการนวดจากส่วนเท้าก่อน แต่องค์ความรู้การนวดแบบลังกาสุกะจะแตกต่างออกไปมีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง

 

องค์ประกอบแรก การนวดน้ำมันลังกาสุกะจะเริ่มจากส่วนหน้าท้องเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นประสาทต่างๆ และไปจบที่ศีรษะ ใช้เวลาการนวดประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงสำหรับการนวดทั้งตัว    

 

องค์ประกอบที่ 2 น้ำมันนวด กว่าจะเป็นน้ำมันนวด มีการนำสมุนไพรต่างๆ ที่เกี่ยวกับการคลายกล้ามเนื้อมาสกัดกับน้ำมันพืช จนได้น้ำมันนวดที่พัฒนาจนได้รับการรับรองจากสถาบันฮาลาล และ GMP ในน้ำมันนวดมีเคล็ดลับสำคัญ คือ การนำยี่หร่าดำหรือ ฮับบะตุซเซาดาอ์เป็นสูตรเฉพาะ ซึ่งยี่หร่าดำเป็นสมุนไพรที่ถูกใช้เพื่อรักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลโดยเฉพาะแถบประเทศมุสลิม

 

สุดท้าย การนวดน้ำมันลังกาสุกะ ยังมีตัวช่วยสำคัญอย่างก้อนเส้า ซึ่งการนวดทั่วไปเลือกใช้ลูกประคบที่เป็นสมุนไพร แต่สำหรับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะใช้ก้อนหินไปเผาไฟเพื่อนำมาประคบบริเวณจุดปวด ความร้อนจากก้อนหินจะไปช่วยให้น้ำมันซึมซาบเข้าสู่ร่างกายเพื่อรักษาอาการได้ดีขึ้น องค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างเป็นของคู่กันในการนวดน้ำมันลังกาสุกะ

 

กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยกศาสตร์ \"นวดน้ำมัน\" ลังกาสุกะ รองรับกลุ่มประเทศมุสลิม

 

ผู้สนใจสัมผัสศาสตร์การ นวดน้ำมัน ลังกาสุกะจากต้นตำรับจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถร่วมงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 19  เหลือระยะเวลาการจัดแสดงอีก 2 วัน  ตั้งแต่วันนี้ถึง 10  กรกฎาคม  พ.ศ.2565 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 11-12  

 

พบกับกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ โซนจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีมาตรฐาน การแจกเมล็ดและต้นกัญชา การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง   การแจกต้นพันธุ์สมุนไพรหายาก  ตลาดนัดความรู้ เป็นต้น  

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม  กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร.  0-2149-5649, Facebook Fanpage มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ หรือ เว็บไซต์ คลิก