คุรุสภาเปิดอบรมวิชาชีพ ส.ค.นี้ ย้ำครูต้องปฎิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ

​รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รักษาการเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบุคลากรทางการศึกษามีพฤติกรรมเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ  มีข้อร้องเรียนผ่านทางคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมาการมาตรฐานวิชาชีพ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และทางสื่อต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่บุคลากรทางการศึกษา จึงต้องดำเนินการหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพที่กฎหมายกำหนด

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จึงจะจัดโครงการอบรมผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อเป็นเครือข่ายในการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 

 

• คุรุสภาเปิดรับสมัครผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาอบรมส.ค.นี้

​รศ.ดร.ประวิต  กล่าวต่อว่า  ในเร็ว ๆ นี้ คุรุสภาจะเปิดรับสมัครผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเข้ารับการอบรมในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนการดำเนินการจะใช้รูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

สำหรับผู้ที่เข้ารับการอบรมตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดจะได้รับวุฒิบัตรและสามารถได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านการอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นเครือข่ายจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษาของคุรุสภา ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในกระบวนการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ นำความรู้และประสบการณ์จากการฝึกอบรม ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และขอย้ำบุคลากรทางการศึกษาขอให้ปฎิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครู  5 ด้าน อย่างเคร่งครัด  

 

• ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแล้ว ประมาณ 9 แสนคน

“ปัจจุบันคุรุสภามีครูที่ถือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพประมาณ 9 แสนคน ในฐานะที่คุรุสภาเป็นองค์กรวิชาชีพที่ดูแล กำกับ การประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ จึงต้องดำเนินการเกี่ยวกับจรรยาบรรณของวิชาชีพในเชิงรุก เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์  ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพครูมากขึ้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจึงรีบดำเนินการตามกระบวนการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ ในการเข้าไปตรวจสอบ ดำเนินการสอบสวน และต้องตัดสินด้วยความเป็นกลาง” รศ.ดร.ประวิต กล่าว