สธ.เตือนใช้ “กัญชา”ผิดวิธี มีผลต่อจิตประสาท

สธ.เตือนใช้ “กัญชา”ผิดวิธี มีผลต่อจิตประสาท

สธ.เตือนใช้กัญชา กัญชงทางที่ไม่เหมาะสม  มากเกิน-ผิดวิธี เกิดผลต่อจิตประสาทได้  กำชับใช้ในกรอบกฎหมาย ลั่น “การสูบ”ไม่ใช่คำแนะนำการใช้ทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ในการแถลงข่าว  “มหกรรม 360 องศา ปลดล็อกกัญชา ประชาชนได้อะไร”ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 มิ.ย.2565 ที่จ.บุรีรัมย์ นพ.เกียรติภูมิ  วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า  กัญชาเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพยายาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งนโยบายของสาธารณสุข คือ กัญชาเสรีทางการแพทย์ เป็นการส่งเสริมสุขภาพ ในการรักษาโรค โดยสธ.ได้ดำเนินการออกประกาศกระทรวงสาธาราณสุข มีผลให้ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2565 พืชกัญชา กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป  
        ในส่วนที่จะต้องควบคุมเช่นเดียวกัน เพราะว่าเป็นพืชที่มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ต่อทางจิตประสาทด้วย ต้องระวังไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชนืและเกิดโทษตามมา ประชาชนต้องมีความรู้การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ จึงพยายามรณรงค์ให้มีความเข้าใจว่าใช้กัญชาได้ทุกชิ้นส่วน ที่ไม่ใช่สารสกัด อยากให้ประชาชนได้ใช้ในการดูแลสุขภาพเพราะเป็นพืชที่มีประโยชน์ ใช้รักษาและดูแลได้หลายอย่าง เช่น มะเร็ง คลื่นไส้อาเจียน ลมชัก เป็นต้น ซึ่งเป็นการนำไปใช้ทางการแพทย์เป็นยา หรือน้ำมันกัญชา   

นอกจากประโยชน์ที่ได้แล้ว ผลข้างเคียง  ผลเสียก็มี ถ้าใช้อย่างไม่เข้าใจ  หากใช้มากเกินไป ใช้ผิดวิธี ใช้เกินจากที่กำหนดไว้ อาจจะทำให้มีปัญหาต่อระบบจิตประสาทได้ ซึ่งไม่ได้อยากให้เกิดเช่นนั้น อยากให้มีการใช้กัญชาในทางที่เกิดประโยชน์และอย่างเข้าใจมากกว่า  สธ.จึงต้องมีการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนให้มากที่สุดในการนำกัญชาไปใช้ให้เกิดประโยชน์

        “ต้องมีการเฝ้าระวัง  มีกฎหมาย โดยกำลังจะออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การนำไปใช้ทางที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น นำไปสูบ นำไปใช้ทางสันทนาการ เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ๆ ทำไม่ได้ เพราะว่ากลิ่นและควันจะเป็นเหตุรำคาญได้ จะผิดกฎหมาย หรือใช้เกินกว่าที่กำหนดในกฎหมายปลดล็อกจากยาเสพติด ก็จะมีโทษตามกฎหมายยาเสพติด”นพ.เกียรติภูมิกล่าว    

    ผู้สื่อข่าวถามว่าร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยังไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร มีมาตรการควบคุมการใช้ทางที่ไม่เหมาะสมอย่างเพียงพอแล้วหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า พยายามจะใช้กฎหมายที่มีอยู่ ในส่วนของพรบ.การสาธารณสุข กำหนดให้กลิ่นและควันของกัญชาเป็นเหตุรำคาญ จะมีโทษตามกฎหมายนี้  อยู่ระหว่างเสนอรอรมว.สาธารณสุขลงนาม อย่างไรก็ตาม  ขอให้ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ เป้นเรื่องสำคัญ ประชาชนจต่องเข้าใจว่ากัญชาที่สนับสนุนคือกัญชาทางการแพทย์และกัญชาในครัวเรือน เช่น การประกอบอาหาร ส่งเสริมสุขภาพ และเศรษฐกิจพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดเหตุที่จะทำให้เกิดโทษทางจิตประสาท เป็นทิศทางที่สนับสนุน
     ถามถึงรูปแบบการใช้ทางที่ไม่เหมาะสมที่จะส่งผลต่อจิตประสาท นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า  เช่น การเอาไปสูบ หรือทำเป็นสารสกัด หรือทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ ซึ่งอยากให้ใช้เป็นทางการแพทย์ตามที่มีการสนับสนุน

       ต่อข้อถามช่วงนี้เป็นเหมือนสูญญากาศที่ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชงยังไม่ออก อาจมีการใช้ปิดวิธีในกลุ่มเยาวชน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า  ต้องช่วยกันทั้งครู ผู้ปกครอง เหมือนอย่างเหล้า บุหรี่หรืออื่นๆที่มีสารต่อร่างกายและจิตใจ ซึ่งหากกัญชามีความรุนแรงมาก ก็คงนำมาใช้ไม่ได้ ทางการแพทย์ก็คงไม่ยอม แต่ถ้ามีประโยชนฺและสามารถควบคุมดูแลและใช้ประโยชนฺอย่างวจริงจัง ทุกคนต้อง่วมมือกัน
     ถามต่อว่าวันนี้เป็น วันงดสูบบุหรี่โลก กังวลหรือไม่ว่า การสูบกัญชาจะเป็นปัญหาซ้ำรอย นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สธ.ไม่ได้ส่งเสริมในเรื่องการสูบ แต่ส่งเสริมให้ใช้ทางการแพทย์ เป็นผลิตภัณฑ์ 
       ด้านนพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า  หลังวันที่ 9 มิ.ย. ประชาชนสามารถจดแจ้งปลูกกัญชาได้ใน 3 ช่องทาง คือ 1.แอปพลิเคชั่น ปลูกกัญ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ และพร้อมออกใบรับจดแจ้งในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ 2.เว็บไซต์ปลูกกัญ และ 3.องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)/กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานสาธารณสุข
       ผู้สื่อข่าวถามว่าช่อดอกจะไม่ใช่ยาเสพติดด้วย ซึ่งในการสูบจะใช้ช่อดอก สธ.มีคำเตือนอะไรหรือไม่  นพ.วิทิต กล่าวว่า  ทางการแพทย์ในเรื่องการสูบยังไม่มีคำแนะนำในการใช้
      ถามอีกว่าจะเกิดอันตรายอะไรหรือไม่ในการนำไปสูบ นพ.วิทิต กล่าวว่า  กัญชา กัญชง เป็นเหมือนสมุนไพรตัวหนึ่ง  ทุกอย่างจะมีข้อดีคือประโยชน์และข้อเสียคือโทษ รวมทั้งผลข้างเคียงด้วย ถ้าใช้ถูกวิธี ถูกคน ถูกโรค ถูกอาหารก็มีประโยชนฺถ้าใมช้ผปืดก๋เกดิดโทษเหมือนกัน เช่นมีเหล้าที่บ้าน เอาสไปดื่ม  บางคนยบอกดื่มน้อยช่วยไหลเวียนเลือด ดื่มมากก็ติดเหล่าเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จะต้องรณรรงค์การช้กัญชาอย้างเข้าใจ ซึ่งกฎระเบียบอาจะป้องปรามได้ในบางเรื่อง สุดท้ายคือประชาชนที่จะต้องใช้ในการดูแลตัวเองและคนในครอบครัวด้วย