ศบค. ย้ำ "โควิด-19" เตือนภัยระดับ 3 แต่ยังต้องเฝ้าระวังสูง

ศบค. ย้ำ "โควิด-19" เตือนภัยระดับ 3 แต่ยังต้องเฝ้าระวังสูง

ศบค. ย้ำ แม้ สธ. จะลดระดับการเตือนภัย "โควิด-19" ลงมาอยู่ที่ระดับ 3 แต่ยังต้องเฝ้าระวังสูง ขณะที่ การติดเชื้อ อาการหนัก เสียชีวิต ภาพรววมประเทศลดลง แต่ยังคงเน้นย้ำการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม เนื่องจากผู้เสียชีวิตวันนี้ 59 ราย 100% เป็นกลุ่ม 608 และกว่า 70% ไม่ได้รับวัคซีน

วันนี้ (12 พ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงข่าว “สถานการณ์โควิด-19” จากประเด็นที่ สธ. ลดระดับเตือนภัยทุกจังหวัดจากระดับ 4 เป็นระดับ 3 เป็นการพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลกและประเทศไทย ไม่ว่าจะการติดเชื้อ ภาวะปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจ แนวโน้มลดลงและทรงตัว

 

ในช่วงการประเมินเป็นระดับ 3 สธ. มีการระบุในการประเมินเปิดกิจการกิจกรรม จากการผ่านช่วงล็อกดาวน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นการเตือนภัยระดับ 5 สูงสุด หลังจากนั้น ลดมาเป็นระดับ 4 ที่ยังมีการปิดสถานที่เสี่ยงสูง สถานประกอบการบางประเภท และโรงเรียน

 

"การที่ สธ. ประกาศเป็นระดับ 3 ยังต้องเฝ้าระวังสูง ยังจำกัดการรวมกลุ่มและยังไม่ถึงขั้นผ่อนคลาย ที่ประชาชนจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในบางพื้นที่ยังมีการรายงานติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน จากการผ่อนคลายมาตรการเร็วเกินไป หรือ ประชาชน นักท่องเที่ยว ลดหย่อนมาตรการ ย้ำว่าเรายังอยู่ระดับ 3"

 

ไทยติดเชื้อ อาการหนัก เสียชีวิต ลดลง

 

ทั้งนี้ "สถานกาณณ์โควิด-19" ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อ 8,019 ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อในประเทศ 7,950 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 3 ราย จากเรือนจำ 66 ราย ติดเชื้อสะสม 4,353,237 ราย เสียชีวิต 59 ราย เสียชีวิตสะสม 4,246,499 ราย รักษาตัวอยู่ 77,427 ราย อาการหนัก 1,353 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 673 ราย 

 

"กลุ่มปอดอักเสบ พบว่า ในทุกจังหวัดมีทิศทางเดียวกัน คือ เส้นกราฟลดลงไม่ว่าจะติดเชื้อรายวัน ปอดอักเสบ อาการหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ ลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตด้วย" 

เสียชีวิต 70% ไม่ได้รับวัคซีน

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ ศบค. เป็นห่วง คือ ผู้เสียชีวิต วันนี้ 59 ราย ทั้งหมด เป็น 100% คือกลุ่ม 608 ทั้งสิ้น ในจำนวนนี้ 41 รายไม่ได้รับฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มแรก ถือเป็น 70% เป็นความเสี่ยงสำคัญ ขณะที่ ผู้เสียชีวิต 3 ราย เพิ่งได้รับวัคซีนเข็ม 1 และ กว่า 15 รายได้รับวัคซีนเข็ม 2 นานเกิน 3 เดือนแล้ว ยังไมได้รับเข็มกระตุ้น ทำให้ติดเชื้อ อาการหนัก รุนแรง เสียชีวิต โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 21 ราย มาจากภาคอีสาน ดังนั้น ต้องรณรงค์การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั่วประเทศด้วย

 

ยึดมาตรการสาธารณสุขไทยเป็นหลัก

 

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในต่างประเทศ เราไม่สามารถยึดประเทศใดเป็นต้นแบบได้ เพราะพี่น้องประชาชนหลายส่วน มีการนำข่าวมานำเสนอว่าผับบาร์ในประเทศต่างๆ เปิด บางประเทศไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย เน้นย้ำว่าต้องยึดประกาศของ ศบค. และ สธ. ไทย เป็นหลัก

 

เพราะแต่ละประเทศแม้ผ่อนคลาย แต่การติดเชื้อสูง เช่น สหรัฐ ติดเชื้อกว่า 83.9 ล้านราย เสียชีวิตราว 1 ล้านราย เสียชีวิตรายใหม่ 226 ราย เยอรมนี เสียชิวต 227 ราย อิตาลี 115 ราย บลาซิล 111 ราย ดังนั้น เราติดตามสถานการณ์โลกได้แต่ต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเรา

 

ขณะที่ เอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ติดเชื้อรายใหม่ 4.3 หมื่นราย เสียชีวิต 29 ราย  ญี่ปุ่น ติดเชื้อรายใหม่ 3.9 หมื่นราย เสียชีวิต 51 ราย จะเห็นว่า การติดเชื้อสูง แต่อัตราตายต่ำ เพราะการฉีดวัคซีนครอบคลุมค่อนข้างสูง ประชาชนไทย ที่เริ่มมีการเดินทางไปหลายประเทศ ต้องยึดมาตรการของ สธ. ไทยเป็นหลัก เช่น คนไทยจะไป ยุโรป สหรัฐ เห็นว่าประเทศเหล่านั้นไม่สวมหน้ากากอนามัย จึงไม่สวมด้วย กลับมาพบการติดเชื้อในที่สุด

10 จังหวัด ติดเชื้อสูงสุด 

 

  • กทม. 2,747 ราย 
  • ร้อยเอ็ด 253 ราย 
  • ชลบุรี 248 ราย 
  • บุรีรัมย์ 229  ราย 
  • สมุทรปราการ 195 ราย 
  • นครราชสีมา 189 ราย 
  • มหาสารคาม 177 ราย 
  • อุบลราชธานี 168 ราย 
  • ขอนแก่น 147 ราย 
  • สุรินทร์ 140 ราย 

 

10 จังหวัดรายงานปอดอักเสบสูงสุด

 

สำหรับรายงานจังหวัดที่มีผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวใน รพ. สูงสุด 10 อันดับ ได้แก่

  • กทม. 135 ราย 
  • นครราชสีมา 72 ราย 
  • อุบลราชธานี 50 ราย 
  • พิษณุโลก 47 ราย 
  • สุพรรณบุรี 46 ราย 
  • ชัยภูมิ 44 ราย 
  • อุดรธานี 41 ราย 
  • ขอนแก่น 40 ราย 
  • เชียงใหม่ 39 ราย 
  • นครสวรรค์ 36 ราย 

 

กทม. 135 ราย แต่หากเทียบกับอัตราการครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 16.80% ถือว่าไม่น่าเป็นห่วง มีอัตราครองเตียงรองรับการเจ็บป่วยหนักได้ แต่ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากเสี่ยงสูง คนใกล้ชิดรายงานติดเชื้อ สูงอายุ โรคประจำตัว ขอให้เร่งตรวจและเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็ว

 

เพราะปัจจุบันพบว่า การรักษามีประสิทธิภาพ แต่จากการเสียชีวิต 59 ราย มีกว่า 3 ราย พบเชื้อในวันที่เสียชีวิต และ 9 รายที่เสียชีวิตหลังพบการตรวจการติดเชื้อเพียง 3 วันเท่านั้น ดังนั้น ขอให้เร่งระดับกลุ่มเมสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ ให้หน่วยงานราชการในพื้นที่ค้นหาผู้มีความเสี่ยง

 

ไทยฉีดวัคซีนสะสม 135 ล้านโดส 

 

จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 11 พ.ค. 2565) รวม 135,106,059 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น 

  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 56,457,657 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 51,781,651 ราย
  • จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 26,866,751 ราย

 

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 11 พฤษภาคม 2565

ยอดฉีดทั่วประเทศ 167,579 โดส

  • เข็มที่ 1 : 20,768 ราย
  • เข็มที่ 2 : 54,557 ราย
  • เข็มที่ 3 : 92,254 ราย

 

ศบค. ย้ำ \"โควิด-19\" เตือนภัยระดับ 3 แต่ยังต้องเฝ้าระวังสูง