ร้องกลั้น.. อันตรายที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจ

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงเคยประสบกับปัญหาลูกร้องไห้ ซึ่งการร้องไห้ของเด็กมีสาเหตุบางอย่าง เช่น หิว ง่วง ไม่สบายตัว ความเจ็บปวด ถูกขัดใจ เนื่องจากการร้องไห้เป็นการสื่อสารของเด็ก แต่สิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเป็นกังวลคืออาการร้องกลั้น (breath – holding spell) ที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย
แพทย์หญิงจรินทรณ์ วงศ์ภากร กุมารแพทย์เฉพาะทางทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า การร้องกลั้น เป็นอาการร้องไห้หนักๆ ของทารก เป็นช่วงจังหวะเหมือนกลั้นหายใจนิ่งไปประมาณ 10 – 20 วินาที จนอาจทำให้ตัวเขียว ปากเขียว และหมดสติไป เกิดได้จากหลายสาตุ เช่น เด็กมีความโกรธ ตกใจ หรือถูกขัดใจ เมื่อเด็กสื่อสารด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ตอบสนองเด็กทันที ทำให้เด็กเรียนรู้ในการทำพฤติกรรมนี้บ่อยขึ้น อาการร้องกลั้นสามารถพบได้บ่อยในเด็กเล็กตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี และอาการจะค่อยๆ ลดลงเมื่อโตขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือสมองของเด็ก ยกเว้นเด็กที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคระบบหลอดเลือด
เมื่อลูกร้องกลั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องตั้งสติและทำใจให้สงบ เพราะอาการนี้ไม่ได้ทำอันตรายกับลูก แต่ต้องหาวิธีรับมือ ดังนี้
- ควบคุมสติอารมณ์ ตั้งสติและทำใจให้สงบ อย่าตื่นตระหนก แล้วค่อยๆ หาทางรับมือต่อไป
- กอดสัมผัสเพื่อปลอบโยน จะช่วยให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและบรรเทาความเจ็บปวด
- หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของลูก แทนการห้ามหรือขัดใจลูก เช่น ของเล่น ชวนคุย เดินเล่นชมนกชมไม้
- อุ้มลูกมาแนบไว้ที่อก เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้มหัวฟาดพื้นหรือแมลงกัดต่อย
- ห้ามเขย่าลูก เพราะอาจทำให้ลูกบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามเด็กในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่กำลังพัฒนาเรื่องของสมองและการควบคุมตนเอง ทั้งอารมณ์และพฤติกรรมการแสดงออก ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ คือการเรียนรู้และทำความเข้าใจกับลูกน้อย
ปัจจุบัน ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว มีทีมกุมารแพทย์เฉพาะทาง พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ คอยดูแลและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ และยังมีอีกหลายโรคที่สามารถป้องกันได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงในวันข้างหน้านะคะ
แพทย์หญิงจรินทรณ์ วงศ์ภากร
กุมารแพทย์เฉพาะทางทารกแรกเกิดและปริกำเนิด
ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว











