ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

“พีระพงศ์ จรูญเอก”ซีอีโอออริจิ้น ฉายา“เจ้าพ่อคอนโดยังก์เจน” ที่นำเสนอไลฟ์สไตล์คอนโดตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ล่าสุดผุด“ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์”ปักหมุดเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองไทยพร้อมไดเวอร์ซิฟายธุรกิจเชื่อมเมกะเทรนด์หนุนออริจิ้นเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์

“พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อคอนโดยังก์เจน” ที่นำเสนอไลฟ์สไตล์คอนโดหลากหลายเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เป็น Smart Generation จากความสำเร็จตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาจนกลายเป็น Benchmark ในการทำงานที่ไม่เคยหยุดนิ่งของผู้บริหารคนนี้ 

และเมกะโปรเจกต์แฟลกชิพ ล่าสุดที่จะสะท้อนโลกของออริจิ้น นั่นคือ ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ (ORIGIN THONGLOR WORLD) มิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 15,000ล้านบาทที่ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างครบวงจรในที่เดียว ไม่ว่าจะกิน เที่ยว พักผ่อน มีทั้งสปา ร้านอาหาร แม้แต่การรักษาพยาบาลมีครบหมดไม่ต้องไปไหนไกลเพราะย่านทองหล่อ 10 เป็นแหล่งศูนย์รวมของร้านที่มีไลฟ์สไตล์ชั้นนำครบถ้วน

“เราต้องการเนรมิต ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ ให้เป็นมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิต การทำงาน และไลฟ์สไตล์ของชีวิต ความพิเศษของที่นี่คืออยู่ในซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพฯ และทองหล่อซอย 10 เป็นจุดศูนย์กลางของทองหล่อ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างซอยเอกมัยกับซอยทองหล่อ”
 

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

ORIGIN THONGLOR WORLD  เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 3 อาคาร ประกอบด้วย  อาคาร A อยู่เยื้องกับดองกิ ทองหล่อด้านล่างเป็น 10 th avenue ไลฟ์สไตล์มอลล์ 4 ชั้น ด้านบนเป็น 10 th avenue Exclusive Service Office พร้อมสะพานเชื่อมตรงกลางที่จะเป็น Core ไลฟ์สไตล์ ฟาซิลิตี้ มีพื้นที่ 5,000 ตร.ม. จะมี OXYGEN LOUNGE สปา ยิม ฟิตเนส สระว่ายน้ำ รูฟท็อป ซิการ์บาร์

ส่วนอาคาร B มี 2 โปรดักส์ไฮไลต์ ข้างบน คือ “Origin Perstige” เพนท์เฮ้าส์ จำนวน 60 ยูนิต ส่วนด้านล่างเรียกว่า “Origin Courtyard” ทำเสมือนมีบ้าน 2 ชั้น ซึ่งคอนโดมิเนียมพร้อมคอร์ทยาร์ดขนาดใหญ่! ไม่เคยมีโครงการลักษณะนี้มาก่อน

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

ส่วน “แฮมตัน เซอร์วิสเรซิเดนซ์” สเปกเทียบเท่าโรงแรม 5-6 ดาว บนไพร์มโลเคชั่นเพื่อรองรับกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานและพำนักในไทยระดับไฮเลเวลของญี่ปุ่น หรือบรรดาซีอีโอ

อีกหนึ่งจุดขาย คือการเป็น Universal Investment Property หรือ UIP โดยดึง 3 องค์ประกอบที่นิยมในการเช่า ได้แก่ ไลฟ์สไตล์มอลล์ เซอร์วิส ออฟฟิศ รวมถึง เซอร์วิส เรสซิเดนซ์ โดยถือกรรมสิทธิ์เป็นฟรีโฮลด์

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

ความน่าสนใจคือนำผลตอบแทนจากการเช่าของทั้ง 3 ส่วน มาเฉลี่ย รีเทิร์นให้กับผู้ซื้อ ยกตัวอย่าง ชอบออฟฟิศก็ซื้อออฟฟิศ แต่ก็จะได้รับค่าเช่าเฉลี่ยเกิดจากรีเทลเกิดจากเรสซิเดนซ์ด้วยเท่ากับเป็นการเฉลี่ยความเสี่ยง เป็น“เสน่ห์” ดึงดูดผู้ซื้ออย่างหนึ่ง

"ทองหล่อ Never Die ไม่มีพื้นที่ไหนมาแทนทองหล่อได้ ซึ่งปัจจุบันไม่มีพื้นที่ขนาด 13 ไร่ในทองหล่ออีกแล้ว แค่รวม 2-3 ไร่ได้ก็เก่งแล้ว ยิ่งวิกฤติโรคระบาดมาพิสูจน์ได้ว่า ทองหล่อ ก็คือ ทองหล่อ ขณะที่โครงการย่านอื่นต้องลดราคา แต่โครงการในทองหล่อไม่ลด! เพราะมีดีมานด์ไม่มีเฉพาะคนไทย คนต่างชาติก็อยากมาอยู่ และไม่ใช่เฉพาะ Expat ญี่ปุ่น เท่านั้น เศรษฐีจากฮ่องกง สิงคโปร์ ก็ต้องการเข้ามาพักอาศัยในย่านนี้ เพราะเป็นย่านที่น่าอยู่ที่สุด เจริญที่สุดทำให้ราคาไม่ตกไม่ว่าจะเป็นเช่าหรือขาย "

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

แน่นอนว่าเป้าหมายใหญ่ของ พีระพงศ์ ต้องการเนรมิต  “ORIGIN THONGLOR WORLD” ให้เป็นไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์คใจกลางทองหล่อและเป็น Landmark in Thailand เหมือนกับ Marina Bay Sandsในสิงคโปร์ กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในเมืองไทย

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

นับเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจท่ามกลางความท้าทายในโลกที่มีความไม่แน่นอน การสร้างหลักประกันทางธุรกิจ ด้วยการวางรากฐานเพื่ออนาคต โดยลงทุนในธุรกิจใหม่ที่รองรับเทรนด์ธุรกิจในอนาคตเพื่อเสริมความมั่นคงขององค์กร ถือเป็นแนวทางที่ “เจ้าพ่อคอนโดยังก์เจน” ให้ความสำคัญ ด้วยการ “ ไดเวอร์ซิฟาย” ธุรกิจให้เชื่อมโยงกับ”เมกะเทรนด์ ” ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก

ก่อนหน้านี้ ออริจิ้น ร่วมทุนกับ JWD สร้างคลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ Smart Warehouse ที่มีหุ่นยนต์จัดของในคลังสินค้ารองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  ฟู้ดดิลิเวอรี อีกเทรนด์หนึ่งที่ใกล้ตัวคือเรื่อง “สุขภาพ” ได้ร่วมกับพาร์ตเนอร์ตั้ง “ออริจิ้น เฮลท์แคร์” ให้บริการผ่าน เทเลเมดิซีน ผ่านแอปฯ ออริจิ้น คอนเน็ค เป็นต้น

“วันนี้เราสนุกกับการไดเวอร์ซิฟายธุรกิจใหม่ หลังจาก 6 ปีที่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถมีส่วนแบ่งในตลาดคอนโดมิเนียมสูงถึง 15-20% ถือว่าสูงมากแล้ว สิ่งที่เราทำคือรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ แล้วเติบโตปีละ 5-10% พอแล้ว สิ่งที่เราอยากทำต่อก็คือไดเวอร์ซิฟายธุรกิจใหม่ ล่าสุดได้ผลักดัน บริทาเนีย เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ปลายปีที่ผ่านมา ออริจิ้นกลายเป็นซูเปอร์โฮลดิ้งส์จากการที่สปินออฟบริษัทลูก”

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

ปัจจุบันมีบริษัทลูกในเครือ 97 บริษัทแบ่งเป็นกรุ๊ป เช่น ไฟแนนซ์ ประกัน นายหน้าในการขายประกัน มีธุรกิจปรับโครงสร้างหนี้ล้อไปเทรนด์ที่หนี้มีจำนวนเยอะขึ้นด้วย นอกจากนี้มีกลุ่มลิฟวิ่งเซอร์วิส กลุ่มรีเคอริ่งอินคัม กลุ่มโรงแรม ปัจจุบันมีโรงแรม 10 แห่ง จะเปิดให้ครบในปีนี้ 5 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนา 4,000 ห้อง คาดว่า ใน 3 ปีข้างหน้าจะก้าวสู่ “TOP5” ในอุตสาหกรรมโรงแรม เพราะมีเซอร์วิสเรสซิเดนอีก 10 แห่ง รวมกับโรงแรมประมาณ 10,000 ยูนิต

“Passion ผมทุกวันนี้คือสร้างบริษัทลูกให้เข้าตลาดฯ อย่างมืออาชีพปีละอย่างน้อย 1 บริษัท ภายใต้ธีมพหุจักรวาล (Origin Multiverse) ในการดำเนินธุรกิจ ใน 10 ปีข้างหน้า คนจะรู้จักออริจิ้นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์ เพราะมีธุรกิจเฮลท์แคร์ พลังงาน โลจิสติกส์ คลังสินค้า บริการที่ดูแลที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้า ”

ในมุมของ พีระพงศ์ ต้องมี VISION ก่อนถึงจะรู้ว่าไปทางไหนดี ทำอย่างไรให้ถึงจุดหมาย เปรียบเหมือนเป็นหางเสือในการนำพาธุรกิจส่วน Passionคือรู้แล้วว่าจะไปไหน ระหว่างทางที่ไปรู้สึกสนุก เพราะมันมีความรักที่จะทำตรงนี้สำคัญ เพราะวิชั่นมันไกลแล้วระหว่างทางไม่มีPassionจะเลิกมันง่ายๆ Work and Play สมัยใหม่มันต้องอยู่ด้วยกัน มันต้องทำแล้วสนุกไม่ฝืน Passion อะไรที่เรารักไม่ต้องแยกออกจากกัน ถ้าสิ่งที่เรารักและทำมันสนุกด้วยผมว่ามันจะได้ผลงานที่ดีเลิศ

“ผมโชคดีที่ VISION อยู่ใน Passion พอดี คือเรารักในงานที่เราทำ ทำให้ไม่เหนื่อย มีพลังตลอดเวลา ยกตัวอย่างระหว่างนั่งรถเห็นที่ดินแปลงไหนน่าสนใจส่งปักหมุดพิกัดไปให้ทีมงานศึกษาดูบวกภาพที่ผมเห็นว่า มีโอกาสความเป็นไปได้ไหม”

ถอดสูตรพีระพงศ์ จรูญเอกจากเจ้าพ่อคอนโดยังก์เจนเป็นมากกว่าดีเวลลอปเปอร์!

พีระพงศ์ กล่าวว่า สูตรการบริหารงานและชีวิตพยายามผสมผสานให้ไปด้วยกัน บางครั้งที่มีทริปไปต่างประเทศเพื่อดูงานก็จะพาลูกๆไปด้วย เพราะเขากับภรรยาทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงแยกกันไม่ออกระหว่างครอบครัวกับงาน เพราะเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งออริจิ้นเติบโตมาพร้อมกับลูกๆ จึงเหมือนเป็นลูกคนหนึ่งที่ต้องดูแล ทำให้งานกับเรื่องส่วนตัวถือเป็นเรื่องเดียวกัน

“ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมีเงินเท่าไร เพราะถ้าทำเพื่อเงินถ้ามีเงิน 100 ล้านก็คงพอไปแล้วแต่ขณะนี้ธุรกิจหลายหมื่นล้านบาทก็ยังสนุกกับมันอยู่ไม่จำเป็นว่า จะสิ้นสุดเมื่อไรก็สนุกไปอีกแบบ ผมเป็นคนที่คิดในแง่บวก ผมมองว่าทุกสเตปของเราได้มากกว่าเสีย ผมยังรู้สึกยังก์แอทฮาร์ทยังวิ่ง5 กิโลได้ทุกวัน และยังสนุกกับการใช้ชีวิตทุกวัน”

พีระพงศ์ กล่าวย้ำว่า การจัดการแบบยืดหยุ่นไม่ได้ยึดติดจะทำให้สามารถทำชีวิตให้สนุกกับทุกวันได้แม้ว่าวันนั้นจะเหนื่อยมาก ดังนั้นชีวิตผมไม่ต้องจัดสรรมากล้อไปกับคลื่นและจังหวะของชีวิต เพราะถ้าเราพยายามว่ายทวนน้ำไปอีกฝั่งหนึ่งมันจะยากไป แต่ถ้าเราไปตามน้ำไปจะไม่เหนื่อย