11 ปี ‘CPN Residence ’เปิดพอร์ต 6.57 หมื่นล้านยึดหัวหาดบ้านเดี่ยว

CPN Residence กางแผนรุกแนวราบเต็มสูบ ปักธง 13 ทำเลรอบกรุงเทพฯ ผ่าน 4 แบรนด์บ้านเดี่ยวครบทุกเซ็กเมนต์ ต่อยอดโมเดล Mixed-Use ของอาณาจักรเซ็นทรัล
ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังคัดคุณภาพมากกว่าปริมาณ การเคลื่อนตัวของ “เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์” หรือ CPN Residence จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะนี่ไม่ใช่เพียงการขยายพอร์ต แต่คือการประกาศบทบาทใหม่ของผู้เล่นที่มองตัวเอง “ไม่ใช่แค่ผู้พัฒนาโครงการ” แต่เป็นผู้สร้างไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในแบบที่แตกต่าง
ร.อ.กรี เดชชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN Residence เผยว่า ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา CPN Residence ได้ปักหมุดพัฒนาแล้วกว่า 51 โครงการ 16,000 ยูนิต มูลค่ารวม 65,700 ล้านบาท ครอบคลุมหัวเมืองเศรษฐกิจทั่วประเทศ แต่ “เกมใหญ่” ที่กำลังเดินหน้า คือการรุกกรุงเทพฯ ด้วยโครงการบ้านเดี่ยวแบบครบทุกเซ็กเมนต์ รวมมูลค่ากว่า 25,340 ล้านบาท ใน 13 ทำเลศักยภาพรอบเมือง
“ความสำเร็จของเราไม่ได้เกิดจากการสร้างบ้านให้เสร็จ แต่เกิดจากการสร้างวิถีชีวิตที่ดีขึ้น”
จาก Escent สู่ ตลาดบ้านเดี่ยว
การเดินทางของ CPN Residence เริ่มต้นจากคอนโดฯ แบรนด์ Escent ในเชียงใหม่–ขอนแก่น–ระยอง ซึ่งปิดการขายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขยายสู่กว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ และต่อยอดสู่การพัฒนาบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ อย่างเป็นระบบ ชูคอนเซปต์เดียวกันว่า
“บ้านที่ดีต้องอยู่ได้ดี และอยู่ได้จริงในระยะยาว”
นี่คือรากฐานที่นำมาสู่ 4 แบรนด์บ้านเดี่ยว ซึ่งสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะ แต่คงมาตรฐาน “Best of Best” ไว้ครบถ้วน
4 แบรนด์ 4 บุคลิก—เสริมภาพจำให้ชัดเจน
- นิยาม (Super Luxury 25–40 ล้านบาท)หรูหราสง่างามในสไตล์ Modern Classic
- บ้านนิรดา (Luxury 20–30 ล้านบาท)เน้นความเป็นส่วนตัวสูง สะท้อนความภาคภูมิใจในการใช้ชีวิต
- บ้านนินญา (Premium 10–20 ล้านบาท)โมเดิร์นผสานธรรมชาติ เหมาะกับครอบครัวยุคใหม่
- บ้านนิรติ (Upper Class 7–15 ล้านบาท)โดดเด่นเรื่องสภาพแวดล้อมร่มรื่น ปลอดภัย สำหรับครอบครัวเริ่มต้น
ทั้ง 4 แบรนด์ทำงานร่วมกันในบทบาทเดียวคือ การสร้างมาตรฐาน “บ้านเซ็นทรัล” ให้เห็นเด่นชัด ทั้งโครงสร้าง คุณภาพงานก่อสร้าง ความปลอดภัย และบริการหลังการขาย
3 กลยุทธ์เปิดเกมรุกแนวราบ
ร.อ.กรี อธิบายถึงการขยายตัวของ CPN Residence ว่าเกิดจาก 3 กลยุทธ์สำคัญ
1. Location-Led Strategy
เลือกทำเลที่มีศักยภาพสูงและออกแบบให้เป็น “พื้นที่อยู่อาศัยคุณภาพ”
2.Brand Portfolio Strategy
สร้างเอกลักษณ์แต่ละแบรนด์ให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าโดยไม่ทับซ้อน
3. Customer-Centric Experience
ยกระดับประสบการณ์อยู่อาศัยตั้งแต่ก่อนซื้อ–หลังส่งมอบ พร้อมสิทธิพิเศษแบบครบไลฟ์สไตล์จากเครือเซ็นทรัล
“เราไม่ใช่แค่ขายบ้าน แต่สร้างประสบการณ์ Eat–Play–Stay–Shop ให้ลูกค้ารู้สึกว่าอยู่อย่างดีขึ้นจริง”
Best of Best จุดต่างที่ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่
CPN Residence เลือกวางมาตรฐานความปลอดภัยและโครงสร้างในระดับสูงกว่าตลาด ด้วยองค์ประกอบสำคัญ เช่น
- การทดสอบเสา Seismic Test
- ระบบก่อสร้างอิฐมวลเบา Conventional System
- พื้นจอดรถแบบ Slab on Beam
- ระบบกันน้ำท่วมครบวงจร
- ระบบความปลอดภัย 7 ระดับ ตั้งแต่ Double Gate, LPR, VMS จนถึง Magnetic/Shock Sensor
ขณะเดียวกัน บริการลูกบ้านยังเชื่อมต่อกับ Ecosystem ของเครือเซ็นทรัล ตั้งแต่สิทธิ์จอดรถพิเศษในศูนย์การค้า ส่วนลดจาก Tops–Robinson–PowerBuy จนถึงบริการนิติบุคคลมืออาชีพและแพลตฟอร์มดูแลหลังการขาย
ปักธง 13 ทำเลรอบกรุงเทพฯ
ปัจจุบัน CPN Residence เปิดโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ แล้ว 13 โครงการใน 4 โซนหลัก ตั้งแต่แจ้งวัฒนะ–ดอนเมือง–บางนา–กรุงเทพกรีฑา ไปจนถึงบรมราชชนนี–พระราม 2
ครึ่งหลังปี 2568 บริษัทเดินหน้าเปิดตัว 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 4,100 ล้านบาท ได้แก่
- บ้านนินญา กรุงเทพกรีฑา–มอเตอร์เวย์
- บ้านนินญา รามอินทรา 83 (เตรียมเปิดตัวปลาย พ.ย.)
ทั้ง2โครงการถูกออกแบบจาก “รูปแบบการใช้ชีวิตจริง” ของครอบครัวยุคใหม่และเกาะทำเลตะวันออกที่กำลังเติบโตสูง
การรุกแนวราบไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดขาย แต่เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการต่อยอดโมเดล Retail-Led Mixed-Use Development ซึ่งเป็นหัวใจของเซ็นทรัลพัฒนา เชื่อมบ้าน–ศูนย์การค้า–โครงการมิกซ์ยูสเข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ครบวงจร
“การขยายพอร์ตบ้านเดี่ยวคือก้าวสำคัญในการยกระดับชีวิตลูกค้า ภายใต้แนวคิด Imagining Better Living แบบยั่งยืน”







