เปิดวิชั่นซีอีโอ ‘สิงห์ เอสเตท’ วาง 4 แกนสร้างฐานเติบโตยั่งยืน

เปิดวิชั่น ‘ชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์’ ซีอีโอสิงห์ เอสเตท ชูธุรกิจสร้างรายได้แบบประจำเน้นกำไร ฝ่าวิกฤติความผันผวนเศรษฐกิจ -การเมือง-สงครามการค้า
KEY
POINTS
- 'เปิดวิสัยทัศน์ซีอีโอคนใหม่ สิงห์ เอสเตท วางยุทธศาสตร์ 4 แกนหลัก เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตที่ยั่งยืน
- ประกอบด้วย Stability , Strength , Synergy และ Sincerity
- กลยุทธ์มุ่งสร้างสมดุลพอร์ตธุรกิจที่มีทั้งรายได้ประจำ และไม่ประจำเพื่อลดความผันผวน พร้อมรักษาวินัยทางการเงิน
ทศวรรษที่ 2 ของ “สิงห์ เอสเตท” ก้าวสู่บทใหม่ที่ต้องเผชิญความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก ความระส่ำระสายด้านเงินทุน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม ท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้
ชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ซีอีโอคนใหม่ มุ่งวาง “รากฐานที่มั่นคง” ผ่านยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ด้วยวิสัยทัศน์ “Enriching (Your) Life การสร้างคุณค่าให้ชีวิต”
ชัยรัตน์ ย้ำว่า “เติบโตอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป” องค์กรต้องยืนอยู่บนฐานที่แข็งแรงพอจะรับมือความผันผวน พร้อมส่งต่อคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างยั่งยืน คือที่มาของยุทธศาสตร์ “A Stable Foundation Drives Sustainable Growth” และ 4S “Stability-Strength-Synergy-Sincerity” เครื่องยนต์หลักของสิงห์ เอสเตท จากนี้
ความท้าทายใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ รายได้ที่แปรผันตามวัฏจักรเศรษฐกิจ แต่ สิงห์ เอสเตท ได้เปรียบด้วยพอร์ตที่ครอบคลุม ทั้งโรงแรม ที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ และนิคมอุตสาหกรรม สร้างรายได้แบบประจำ (Recurring Income) และไม่ประจำ (Non-recurring Income)
ในปีที่เศรษฐกิจแกว่งแรง! รายได้ประจำเป็น “กันชนหลัก” โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและสำนักงานที่สร้างกระแสเงินสดคงที่ ช่วยประคองผลประกอบการ เสริมฐานกำไร เพื่อให้บริษัทมีพลังเพียงพอในการลงทุนด้านอื่น
ส่วนธุรกิจรายได้แบบไม่ประจำ เช่น ที่อยู่อาศัย นิคมอุตสาหกรรม ต้องอาศัยจังหวะตลาด และความยืดหยุ่นในการลงทุน ตัวอย่างชัดเจนคือโครงการคอนโดมิเนียมริมเจ้าพระยา “ONE RIVER พระราม 3” ซึ่งเปิดตัวในปีที่การแข่งขันสูง แต่มียอดขายทะลุ 95% ภายในเวลาไม่นาน สะท้อนความแม่นยำในการอ่านตลาด และพลังพันธมิตร วัน เรียลเอสเตท
ภาพรวมจึงชัดเจนว่า Stability (ความมั่นคง) ไม่ใช่เพียงการรักษาสมดุล แต่คือ การวางหมากให้พอร์ตทำงานประสานกันเป็นระบบ เพื่อให้ทุกก้อนรายได้กลายเป็นเสาหลักเสริมกัน และกัน
วินัยการเงิน “หัวใจ” เติบโตระยะยาว
ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวน วินัยทางการเงินจึงเป็นเสมือน “สายคาดนิรภัย” ขององค์กร สิงห์ เอสเตท ระดมทุนต่อปีระดับหมื่นล้านบาท ทั้งจากธนาคาร และตลาดทุน โดยคงสัดส่วนเงินกู้ต่อหุ้นกู้ที่ 80:20 และมุ่งสู่ 70:30 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
แม้เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดหุ้นกู้เพียง 4 ปี แต่กลับระดมทุนได้กว่า 10,000 ล้านบาท เพราะนักลงทุนเชื่อมั่นในองค์กรที่พิสูจน์ผลงานมาแล้วในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ธุรกิจโรงแรมทั่วโลกสั่นสะเทือน แต่บริษัทรักษาวินัยการชำระหนี้ได้อย่างครบถ้วน ภายใต้ 3 ปัจจัยหลัก 1.จำนวนเงินที่ออกจำหน่ายต้องเหมาะสม สร้างความน่าเชื่อถือในการชำระคืน 2.อัตราดอกเบี้ยเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ผู้ถือหน่วยได้รับ และเหมาะสมกับสภาวะตลาด 3.รักษาช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย เพื่อเข้าถึงลูกค้าธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์
“ช่องทางระดมทุนจากธนาคาร และหุ้นกู้มีความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน การรักษาสมดุลของการระดมทุนผ่าน 2 ช่องทาง เป็นกุญแจสำคัญสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน”
เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านระเบียบวินัยทางการเงิน แม้แต่ละหน่วยธุรกิจไม่มีบทบาทโดยตรงในการจัดหาเงินทุน แต่ผู้บริหารของแต่ละหน่วยธุรกิจต้องมีเป้าหมายรักษาอัตราส่วนทางการเงิน เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อกำไร เพื่อรักษาเสถียรภาพโดยรวม ไม่ปล่อยให้ “ตัวเลขการเงิน” เป็นหน้าที่ของฝ่ายการเงินเพียงฝ่ายเดียว ผู้บริหารทุกหน่วยธุรกิจต้องร่วมรับผิดชอบรักษาความแข็งแรงขององค์กร เพื่อผลักดันการปรับอันดับเครดิตในอนาคต
“2 เจน” ร่วมขับเคลื่อนองค์กร
หนึ่งในจุดเด่นของ สิงห์ เอสเตท คือ โครงสร้างบุคลากรที่ต่างจากองค์กรไทยส่วนใหญ่ โดยพนักงานกว่า 60% เป็น Gen Y-Z ผู้จัดการขึ้นไปเกือบครึ่งขององค์กร ทำให้บริษัทมี “หัว” และ “ขา” ใกล้เคียงกัน โครงสร้างคล้ายทรงกระบอก ความท้าทายคือจะสร้างสมดุลระหว่าง “ประสบการณ์” ของรุ่นใหญ่ และ “ความกล้า-ความคิดสร้างสรรค์” ของรุ่นใหม่ได้อย่างไร
ชัยรัตน์ มองว่า ประสบการณ์ คือ “กระดูกสันหลัง” ขององค์กร ไอเดียของคนรุ่นใหม่คือ “ล้อ” และ “เครื่องยนต์” ที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า ต้องสร้างพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่กล้าตั้งคำถาม ผู้บริหารต้องเรียนรู้ที่จะรับฟัง และเริ่มต้นการสนทนาด้วยคำถามมากกว่าคำตอบ เพื่อเปิดโอกาสให้ความคิดหลากหลายผสานกันอย่างเป็นระบบ
ในยุคที่การพัฒนาโครงการไม่สามารถหว่านแหไปตลาดกว้างเหมือนเดิม ต้องยิงตรงลูกค้าเฉพาะ 40-50 ครอบครัว การเปิดรับไอเดียจากคนรุ่นใหม่จึงเป็น “อาวุธลับ” อีกภารกิจสำคัญคือ การปรับโครงสร้างจาก “ทรงกระบอก” เป็น “ทรงพีระมิด” เปิดเส้นทางเติบโตให้คนรุ่นใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่บริหารได้เร็วขึ้น แม้ไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่คือการวางฐานผู้นำรุ่นถัดไปให้พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาว
ความยั่งยืนต้องจริงใจ ไม่ใช่ภาพลักษณ์
สำหรับ สิงห์ เอสเตท ความยั่งยืนไม่ใช่ “ค่าใช้จ่าย” แต่คือ “การลงทุน” ที่สร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างโปรเจกต์ “CROSSROADS Maldives” เป็นตัวอย่างชัดเจน การอนุรักษ์เต่าทะเล และโลมาไม่เพียงรักษาระบบนิเวศ แต่เป็น “มูลค่าเชิงธุรกิจ” เมื่อแขกโรงแรมสามารถสัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติที่สมบูรณ์ นั่นคือความยั่งยืนที่จับต้องได้
หรือโครงการ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว” ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย บนพื้นที่ 625 ไร่ ไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ แต่คือ การใช้ไม้พันธุ์ถิ่น เพื่อเพิ่มอัตราการรอด และเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนจริง ผูกเชื่อมกับโครงการ “Green Button” ในเครือโรงแรม SAii ที่เปิดโอกาสให้แขกมีส่วนร่วมลดพลังงานผ่านการเลือกไม่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน กลไกที่นำทรัพยากรที่ประหยัดได้กลับมาสร้างประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
ชัยรัตน์ ย้ำว่า ความยั่งยืนจะมีพลังก็ต่อเมื่อ “ธุรกิจ” และ “สิ่งแวดล้อม” เติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่กิจกรรมที่ทำเพื่อภาพลักษณ์ชั่วครั้งคราว
“4 แกนหลัก” ไม่ใช่เพียงกรอบกลยุทธ์ แต่คือ วิธีคิดใหม่ของสิงห์ เอสเตท สร้างสมดุลพอร์ตธุรกิจ แหล่งเงินทุน การเติบโตของคน ความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม คือ รากฐานที่องค์กรต้องการปลูกให้แข็งแรงเพื่อรับแรงเสียดทานจากโลกธุรกิจยุคใหม่ และไม่ใช่แค่เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต แต่ สิงห์ เอสเตท กำลังวางโครงสร้างเพื่อ “กำหนดอนาคตของตัวเอง” บนความมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







