7 เช็กลิสต์ก่อนจ้างผู้รับเหมา สร้างบ้านในฝันไม่กลายเป็นฝันร้าย

7 เช็กลิสต์ก่อนจ้างผู้รับเหมา สร้างบ้านในฝันไม่กลายเป็นฝันร้าย

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน แนะ 7 เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจจ้างผู้รับเหมาป้องกันความเสี่ยง “ทิ้งงาน-ได้บ้านไม่มาตรฐาน” กลายเป็นฝันร้ายของคนอยากสร้างบ้านในฝัน

ในวันที่ผู้คนต่างไขว่คว้าหาบ้านในฝัน การเลือก “บริษัทรับสร้างบ้าน” ดูเหมือนจะเป็นเพียงอีกหนึ่งขั้นตอนในกระบวนการก่อสร้างชีวิต แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่หลายคนมักมองข้าม ตั้งแต่บริษัทไร้มาตรฐาน ไปจนถึงผู้รับเหมาทิ้งงานกลางคัน ทิ้งไว้เพียงโครงเหล็กและความผิดหวัง

อนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน  กล่าวว่า ความเสียหายเหล่านี้ไม่เพียงสูญเงิน สูญเวลา หากแต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมทั้งระบบ “แต่ทุกอย่างป้องกันได้ หากผู้บริโภครู้เท่าทันและตรวจสอบให้รอบด้านก่อนจ้าง

ตลาดแข่งขันสูง แต่ความเสี่ยงก็สูงตาม

อนันต์กร อธิบายว่า ปัจจุบันตลาดรับสร้างบ้านไทยเต็มไปด้วยผู้ประกอบการหลากหลาย ตั้งแต่บริษัทใหญ่ระดับประเทศไปจนถึงผู้รับเหมารายย่อย แม้จะเป็นข้อดีที่เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค แต่ในอีกด้านก็ซ่อน “ความเสี่ยง” ไว้มากมาย หากผู้ว่าจ้างขาดข้อมูลหรือไม่ตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

“การสร้างบ้านคือการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตของคนส่วนใหญ่ก่อนเลือกบริษัท ควรตรวจสอบระบบงาน สัญญา และผลงานที่ผ่านมาอย่ามองแค่ภาพลักษณ์หรือการโฆษณาเพียงอย่างเดียว”
 

 7 เช็กลิสต์ สร้างความมั่นใจก่อนตัดสินใจจ้าง

เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ HBA แนะนำ “7 วิธีตรวจสอบก่อนว่าจ้าง” เพื่อสร้างเกราะคุ้มกันตั้งแต่ต้นทาง ได้แก่

1.ตรวจสอบสถานะนิติบุคคลและประวัติการดำเนินงาน ของบริษัท

2.ดูว่าเป็นสมาชิก HBA หรือไม่ เพื่อยืนยันว่าผ่านมาตรฐานตามเกณฑ์สมาคม

3.สัญญาต้องเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยยึดตาม “ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ปี 2569”

4.งวดงานต้องสัมพันธ์กับงวดเงิน จ่ายตามความคืบหน้างานจริงเท่านั้น

5.ชำระเงินกับนิติบุคคลโดยตรง เพื่อให้ตรวจสอบและมีหลักฐานได้

6.ตรวจผลงานจริงของบริษัท ขอชมบ้านตัวอย่างหรือสอบถามลูกค้าเก่า

7.เก็บหลักฐานทุกขั้นตอน ทั้งสัญญา ใบเสนอราคา ใบเสร็จ และภาพถ่ายหน้างาน

 มองลึกกว่าหน้าตา ต้องเห็นระบบภายใน

อนันต์กร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมากให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และการตลาด แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ “ระบบบริหารจัดการงานก่อสร้าง ความรับผิดชอบ และความโปร่งใสของบริษัท” ซึ่งเป็นหัวใจของงานที่ได้มาตรฐาน

“บ้านที่ดีไม่ได้เกิดจากการเลือกแบบที่สวยแต่เกิดจากการเลือกบริษัทที่มีระบบมาตรฐานและความรับผิดชอบ”

นอกจากบทบาทในการแนะนำผู้บริโภคแล้ว สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านยังมุ่งยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความรู้ การพัฒนาเกณฑ์คุณภาพ และการส่งเสริมธรรมาภิบาลทางธุรกิจ เพื่อให้ตลาดรับสร้างบ้านไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นธรรม และยั่งยืน เพราะในที่สุดแล้ว การสร้างบ้านไม่ใช่เพียงเรื่องของวัสดุหรือแบบแปลน หากแต่คือการสร้าง ‘ความมั่นใจ’ ที่จะอยู่ร่วมกับมันไปทั้งชีวิต