ต่างชาติแห่ลงทุน‘สมุย’ร้อนแรง ‘คอนโด-วิลล่า’ เปิดสูงสุดรอบ 15 ปี

อสังหาฯเกาะ‘สมุย’ร้อนแรง! ดีมานด์ต่างชาติยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย จีน และอิสราเอลแห่ลงทุน ‘คอนโด-วิลล่า’ เปิดสูงสุดรอบ 15 ปี ทำเลย่านบ่อผุด เฉวง ละไม ฮอตไม่หยุด
KEY
POINTS
- ตลาดอสังหาริมทรัพย์บนเกาะสมุยกลับมาเติบโตอย่างร้อนแรง โดยมีนักลงทุนต่างชาติเป็นกำลังซื้อหลักกว่า 90% โดยเฉพาะจากยุโรป รัสเซีย และจีน
- การเปิดตัวโครงการวิลล่าใหม่ในปี 2568 คาดว่าจะสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมก็มีการเปิดตัวโครงการใหม่และมียอดขายสูง
- ทำเลยอดนิยมที่มียอดขายสูงคือหาดบ่อผุด เฉวง และละไม เนื่องจากติดทะเลและใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้มีอัตราการขายเฉลี่ยสูงเกิน 70%
- ราคาคอนโดในทำเลพรีเมียมพุ่งสูงเกิน 200,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ยังถือว่าน่าสนใจเมื่อเทียบกับภูเก็ตหรือพัทยา และสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าได้ดี
แม้จะเคยเงียบเหงาไปช่วงโควิด-19 แต่ปัจจุบัน “เกาะสมุย” จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับมาเปล่งประกายในฐานะจุดหมายปลายทางที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งท่องเที่ยวธรรมดาอีกต่อไป ทว่าได้กลายเป็น ทำเลทองด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมและวิลล่าระดับกลางถึงบน ซึ่งกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายใต้แรงขับจากนักลงทุนต่างชาติ
ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า ครึ่งแรกของปี 2568 ในสมุยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในกลุ่มคอนโดและบ้านพักตากอากาศรวมกว่า 21 โครงการใหม่ รวมเกือบ 400 ยูนิต ขณะที่ยอดขายรวมของคอนโดและวิลล่าที่อยู่ระหว่างขายมีอัตราการดูดซับเฉลี่ยเกิน 70% แล้วในหลายพื้นที่
“กำลังซื้อต่างชาติเป็นพลังหลักที่ขับเคลื่อนตลาดสมุยในปัจจุบัน โดยเฉพาะนักลงทุนจากยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย จีน และอิสราเอล ซึ่งมองเห็นทั้งศักยภาพและความคุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว”
บ่อผุด เฉวง ละไม ฮอตไม่หยุด
ในมิติทำเลที่ดึงดูดความสนใจสูงสุด หาดบ่อผุด เฉวง และละไม ยังครองแชมป์ด้านความนิยมทั้งสำหรับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุนปล่อยเช่า โดยจุดเด่นของทำเลเหล่านี้คือ “ติดทะเล” ใกล้แหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมทำให้ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มผู้พักอาศัยระยะยาวและกลุ่มนักท่องเที่ยว ปัจจุบันในพื้นที่เกาะสมุยมีโครงการคอนโดที่อยู่ระหว่างการขายเพียง 3 โครงการ รวม 876 ยูนิต มูลค่าลงทุนกว่า 3,661 ล้านบาท โดยมีอัตราการขายเฉลี่ยสูงถึง 79.79% เหลือเพียง 177 ยูนิตรอการขาย
ที่น่าสนใจคือ มีโครงการคอนโดแห่งหนึ่งในย่านบ่อผุด ซึ่งพัฒนาโดยนักลงทุนจีน มียอดขายเกิน 70% ภายในเวลาไม่ถึงปี บางโครงการสามารถปิดการขายได้ภายใน 9 เดือนหลังเปิดตัว สะท้อนถึงดีมานด์ที่ยังแข็งแกร่ง
คอนโดใหม่ราคาเฉียด 2 แสนบาท/ตร.ม.
แม้ราคาคอนโดเฉลี่ยในสมุยจะอยู่ราว 60,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร แต่โครงการบางแห่งที่อยู่ในทำเลพรีเมียม หรือออกแบบแนวรีสอร์ทหรู ริมชายหาด ราคากลับพุ่งสูงเกิน 200,000 บาทต่อตารางเมตรได้แล้ว
“ราคาคอนโดในสมุยยังน่าสนใจมาก หากเทียบทำเลท่องเที่ยวอื่นอย่างภูเก็ตหรือพัทยา ขณะที่ศักยภาพการเติบโตยังเหลืออีกมาก โดยเฉพาะการปล่อยเช่ารายวันหรือรายเดือน”
จากแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะมีคอนโดใหม่ทยอยเข้าสู่ตลาดอีกอย่างน้อย 2 โครงการ รวมอุปทานใหม่ทั้งปีราว 276 ยูนิต ซึ่งถือว่ายัง “ต่ำกว่าดีมานด์” อยู่มาก
วิลล่าทะลักเปิดใหม่พุ่งสูงสุดรอบ 15 ปี
ไม่เพียงแค่คอนโด แต่ตลาด “บ้านพักตากอากาศ” หรือวิลล่ากำลังขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยครึ่งแรกของปี 2568 มีการเปิดตัววิลล่าใหม่ถึง 18 โครงการ รวม 179 ยูนิต คาดว่าครึ่งหลังปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 15 โครงการ รวมยูนิตทั้งปีอาจแตะ 330 ยูนิต ซึ่งสูงสุดในรอบ 15 ปี อุปทานรวมวิลล่าที่อยู่ระหว่างขายมี 597 ยูนิต จาก 52 โครงการ คิดเป็นมูลค่าลงทุนรวมกว่า 14,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.56% จากครึ่งปีก่อนหน้า
“สมุยกำลังกลายเป็น Destination สำหรับกลุ่ม Ultra-wealthy ที่ต้องการบ้านตากอากาศติดทะเล พร้อมไลฟ์สไตล์ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งเพื่อการพักผ่อนและเก็งกำไร”
ยอดขายโซน “บ่อผุด-เฉวง” แรงสุดเกิน 67%
จากรายงานระบุว่า พื้นที่หาดเฉวง–บ่อผุด มียอดขายวิลล่าสูงสุดถึง 67.91% ตามมาด้วยหาดละไม 48.79% และแม่น้ำ 36.26% ซึ่งเป็นทำเลใกล้หาดหรือจุดท่องเที่ยวหลักทั้งสิ้น โดยหลายโครงการเลือกใช้กลยุทธ์เสนอขายแบบ Leasehold เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้ง่ายขึ้น และพบว่าบางโครงการสามารถขายหมดทั้ง 46 ยูนิตภายในเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น
แม้สมุยจะเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต แต่ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่กลับเป็น นักลงทุนต่างชาติถึงกว่า 90% โดยในกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงจากชาติยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เช็ก รวมถึงออสเตรเลีย รัสเซีย และอิสราเอล ส่วนคนไทยที่ซื้ออสังหาฯ บนสมุยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจในพื้นที่ หรือกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ โดยมีสัดส่วนเพียง 10–15% ของตลาดทั้งหมดเท่านั้น
“สมุยไม่ใช่แค่บ้านพักผ่อน แต่เป็นสินทรัพย์ลงทุนระยะยาว ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีในระดับ 5-8% ได้ไม่ยาก หากเลือกทำเลและโครงการที่เหมาะสม”
ดีมานด์ยังไหลเข้า-แบรนด์ใหญ่บุกตลาด
กระแสการลงทุนในสมุยที่ยังคงร้อนแรง ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มวางแผนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เช่น ศุภาลัย เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านพักตากอากาศระดับลักชัวรีริมหาดสมุย ราคา 17.59-26.59 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 8 ยูนิต ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการบ้านริมทะเลแบบส่วนตัว
แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก แต่ตลาดอสังหาฯ ในสมุยยังสะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนผ่านยอดขาย การเปิดตัวโครงการใหม่ และราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลายประการสนับสนุนให้ตลาดสมุยยังเติบโตต่อไป ทั้งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการบ้านหลังที่สองในเมืองตากอากาศที่ปลอดภัยและเงียบสงบ
ตลาดคอนโดและวิลล่าบนเกาะสมุย อยู่ในจังหวะการเติบโตสูงสุดในรอบหลายปี และการเข้ามาของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ ยิ่งตอกย้ำศักยภาพของสมุยในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกเพื่อการลงทุนอสังหาฯ ในระยะยาว







