UHG ไลฟ์สดขายห้อง!ปรับดีไซน์เน้นห้องใหญ่รับยุโรป-มิดเดิลอีสต์

UHG พลิกเกม ไลฟ์สดขายห้อง! โรงแรมในเครือเดอะ ควอเตอร์เจาะกลุ่มGEN Z พร้อมปรับดีไซน์เน้นห้องใหญ่รับดีมานด์ลูกค้ายุโรป-มิดเดิลอีสต์มาเที่ยวกับครอบครัว
KEY
POINTS
- UHG ปรับกลยุทธ์รับมือนักท่องเที่ยวจีนลดลง โดยหันมาเจาะตลาดกลุ่มยุโรปและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง
- ปรับดีไซน์ห้องพักให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เตียงเสริมและอ่างอาบน้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่
- ใช้กลยุทธ์การตลาดใหม่โดยการไลฟ์สดขายห้องพักผ่าน TikTok ในราคาพิเศษ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่และช่วยระบายห้องว่างในช่วงวันธรรมดา
ในโลกธุรกิจที่ความแน่นอนเป็นเรื่องล้าสมัย “ความยืดหยุ่น” และ “การปรับตัว” กลายเป็นทุนสำคัญในการอยู่รอด โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่อ่อนไหวกับทุกความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจและการเมืองโลก
วุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จำกัด หรือ UHG ผู้พัฒนาอาคารสำนักงานฮิลล์ และโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ เป็นตัวอย่างของการปรับตัวเชิงรุก ที่ไม่เพียงแค่รับมือ แต่ยัง “อ่านเกมขาด” และใช้โอกาสในความเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างการเติบโต
“วันนี้ การปรับตัวไม่ใช่ทางเลือก แต่คือเงื่อนไขของการอยู่รอด”
เมื่อจีนหายไป ยุโรปและตะวันออกกลาง เข้ามาแทน หนึ่งในคลื่นใหญ่ที่กระทบธุรกิจโรงแรมไทย คือจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดย UHG รายงานว่าลดลงถึง 15% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า ถือเป็นแรงสั่นสะเทือนสำคัญในแผนรายได้ของโรงแรมไทย
วุฒิพล ไม่รอให้กระแสลากไป แต่ปรับเป้าหมายใหม่ หันไปเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปและตะวันออกกลาง กลุ่มที่กำลังเติบโตและมีกำลังใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะ “กลุ่มครอบครัว” ที่มีพฤติกรรมการพักอาศัยต่างจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง ไม่ผ่านทัวร์กรุ๊ป (Free Independent Traveler : FIT)
ปรับเมนู - ขยายห้องใหญ่
การปรับกลยุทธ์ไม่ใช่แค่เปลี่ยนโฟกัสในแผนการตลาด แต่หมายถึงการเปลี่ยนรายละเอียดระดับ “จานอาหารเช้า” ไปจนถึง “ขนาดห้องพัก”
“นักท่องเที่ยวยุโรปนิยมอาหารเช้าที่ให้พลังงานเยอะ ต้องมีขนมปังชิ้นใหญ่ ส่วนครอบครัวตะวันออกกลางก็ต้องการห้องพักใหญ่ขึ้นและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ”
โรงแรมจึงต้องปรับเมนูอาหารเช้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เตียงเสริม อ่างอาบน้ำ และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับเด็กและครอบครัว พร้อมออกแบบ lay-out ห้องพักให้รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ในบางสาขา
ไลฟ์สด TikTok ขายห้องพัก
วุฒิพล เล่าว่า วิธีคิดแบบเดิมในการทำการตลาดสำหรับโรงแรมต้องเปลี่ยนไปให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ล่าสุดได้ลอง “เล่นของใหม่” อย่างการ Live สดขายห้องพักผ่าน TikTok ในช่วงเวลา 3-5 ทุ่ม เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออนไลน์ตลอดเวลา
ผลลัพธ์เกินคาด! ห้องพักใน โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ รามคำแหง และ สะพานควาย ถูกจองผ่านไลฟ์ในราคาพิเศษ 800 บาท จากราคาปกติ 1,200 บาท มีกำหนดเข้าพักในช่วงวันธรรมดา ช่วยระบายห้องว่างและสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มวัยรุ่นไทยได้เป็นอย่างดี
“ลูกค้ารุ่นใหม่พอเห็นราคาดีในไลฟ์สด ก็กดจองทันที ไม่รอจังหวะใกล้เวลาที่ต้องการพักเพราะราคาแพงขึ้น”
ความสำเร็จจากการทดลองครั้งนี้ ทำให้เขาเตรียมขยายโมเดลไปยังโรงแรมเดอะ ควอเตอร์หัวลำโพง เป็นลำดับถัดไป
ปรับออฟฟิศเป็นโรงแรม
การเปลี่ยนพฤติกรรมขององค์กรในยุคหลังโควิด ทำให้ความต้องการพื้นที่สำนักงานลดลง การแข่งขันรุนแรงขึ้น เพราะซัพพลายล้นตลาด ดังนั้น เมื่อผู้เช่ารายใหญ่ย้ายออกจากพื้นที่ ในทำเลลาดพร้าว วุฒิพล มองเห็นโอกาส “ฮิลล์ ลาดพร้าว” คือเคสสำคัญที่ถูกปรับจากอาคารสำนักงานมาเป็นห้องพักกว่า 200 ห้อง และรวมเป็น โรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว 400 ห้อง สามารถสร้างรายได้ใหม่ในทำเลที่ยังมีความต้องการการพักอาศัยระยะสั้นสูง
แม้จะปรับพื้นที่สำนักงานบางแห่งไปเป็นโรงแรม แต่เขายังไม่ละทิ้งตลาดสำนักงานโดยสิ้นเชิง กลับเร่งรีโนเวตอาคารสำนักงานในเครือ ให้ผ่านมาตรฐาน Fitwel ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองอาคารที่ใส่ใจต่อสุขภาพของผู้ใช้งานเพื่อรองรับกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่จากทั้งในและต่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพนักงานมากขึ้น
ท่ามกลางกลยุทธ์เชิงรุกหลายสาขาในเครือโรงแรมเดอะ ควอเตอร์ ทำให้ “แรงดีไม่มีตก” โดยเฉพาะ 3 สาขาทำเลทอง ได้แก่ ศาลาแดง อารีย์ และ ราชเทวี ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ยุโรป และญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งมาจากโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่โซนพระราม 4 และสีลมมากขึ้น ยิ่งทำให้โรงแรมในละแวกนี้ได้อานิสงส์
ปรับช้าตาย ปรับเร็วไปต่อได้
วุฒิพล กล่าวว่า “เราไม่ได้รอให้โลกกลับสู่สภาวะปกติ แต่ปรับตัวให้สอดรับกับความไม่ปกติที่กลายเป็นเรื่องธรรมดาในยุคนี้”
เริ่มจากการยืดหยุ่นในรูปแบบบริการ การทดลองแนวทางตลาดใหม่ และการบริหารพื้นที่ให้เกิดมูลค่าอย่างสูงสุด กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่พาองค์กรก้าวข้ามปีที่ท้าทายนี้ไปได้
“รายได้ปีนี้อาจไม่ได้โตตามเป้า 10% แต่เรายังมีกำไร ในวันที่หลายธุรกิจติดลบ เราถือว่า ยังโอเค”
การอยู่รอดในโลกธุรกิจไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด หรือว่า โดดเด่นที่สุด แต่ต้องเป็นธุรกิจที่ “ฟัง” ลูกค้าเก่งที่สุด และ “พร้อมเปลี่ยน” เพราะธุรกิจโรงแรมที่เข้าใจลูกค้าถึงจะอยู่รอดได้ ยิ่งเมื่อสัญญาณของโลกเริ่มขยับ เพราะในยุคที่ลูกค้าไม่ได้อยู่ที่เดิม วิธีขายก็ต้องไม่เหมือนเดิม และใครที่กล้าเปลี่ยนก่อน ย่อมมีโอกาสรอด!







