10จังหวัดยอดฮิตเปิดโรงแรมใหม่พุ่งสวนทางนักท่องเที่ยวหด

10จังหวัดยอดฮิตเปิดโรงแรมใหม่พุ่งสวนทางนักท่องเที่ยวหด

REIC เผย 10 จังหวัดที่ เปิดโรงแรมใหม่มากที่สุดในครึ่งแรกปี68 สวนทางนักท่องเที่ยวหด จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะชาวจีนที่ลดลงถึง 34.1%

แม้อุปสงค์ลดลงจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่การขอเปิดโรงแรมใหม่ในบางจังหวัดยังเติบโตแรง สะท้อนการวางเกมล่วงหน้าของผู้ประกอบการท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยอยู่ในจุดก้ำกึ่งระหว่างการ “ฟื้นตัว” และ “ฟันฝ่า”

 ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ชี้ให้เห็นภาพรวมที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้ง จำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดลง -4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงถึง -34.1%แต่ในขณะเดียวกัน อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมทั่วประเทศกลับเพิ่มขึ้น เป็น 60.8% จาก 59.1%  ถามคือ... ทำไม?

 

เมื่ออุปสงค์ชะลอ แต่อุปทานเริ่มขยับ

    ในด้าน อุปทาน REIC รายงานว่า การเปิดโรงแรมใหม่ทั่วประเทศลดลง -34.6% และจำนวนห้องพักใหม่ลดลง -32.2%แต่ภาพที่น่าสนใจกว่าคือ “การเติบโตเฉพาะจุด” โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ - ปริมณฑล ที่มีการขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมเพิ่มขึ้นถึง +230.7%และเมื่อเจาะลึกไปยังจังหวัดที่มีจำนวน ห้องพักที่ขออนุญาตประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด ในครึ่งแรกของปี 2568

เราจะพบกับจังหวัด 10 อันดับแรกที่น่าสนใจ ซึ่งรวมกันคิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ของทั้งประเทศ

 

10 อันดับจังหวัดที่มีห้องพักใหม่มากที่สุดในครึ่งปีแรก 2568

  • กรุงเทพมหานคร
  • ชลบุรี
  • ระยอง
  • เชียงใหม่
  • ภูเก็ต
  • กระบี่
  • สมุทรปราการ (+366.7% YoY)
  • นครราชสีมา
  • ขอนแก่น
  • ประจวบคีรีขันธ์

ในบรรดาจังหวัดเหล่านี้ สมุทรปราการโตแรงที่สุดกว่า +366.7% ส่วนจังหวัดที่เห็นการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญคือ ชลบุรี ที่หดตัวถึง -63%

“ตัวเลขนักท่องเที่ยวอาจลดลง แต่ผู้ประกอบการที่มองเกมระยะยาว ยังเร่งขยับตัว เพื่อจับโอกาสล่วงหน้า”

 กรุงเทพฯศูนย์กลางที่ร้อนแรง แต่เริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว

แม้กรุงเทพฯ จะมีห้องพักใหม่มากที่สุด แต่ในแง่ของ อัตราการเข้าพักเฉลี่ยกลับลดลงเล็กน้อย -0.7% สวนทางกับภาคอื่นที่เติบโตสะท้อนภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และความเสี่ยงจาก อุปทานส่วนเกิน

นักท่องเที่ยวจีนหาย แต่อินเดีย-รัสเซียโตแรง

ในเชิงอุปสงค์ แม้ยอดนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซียลดลง แต่กลับมีการเติบโตของนักท่องเที่ยวจากอินเดีย (+13.8%)รัสเซีย (+12.4%) และอังกฤษ (+17.9%)ซึ่งอาจกลายเป็นตลาดสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวไทยในอนาคต

การที่บางจังหวัดยังมีผู้ประกอบการเดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่ แม้ภาพรวมอุปสงค์จะไม่สดใส แสดงให้เห็นถึงการวางแผนล่วงหน้าที่มองไปยัง “การฟื้นตัวในอนาคต” 

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่เริ่มมีการแข่งขันสูง เช่น กรุงเทพฯ และบางจังหวัดในภาคใต้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมี กลยุทธ์ที่แตกต่าง ไม่ใช่แค่ราคาหรือทำเล แต่รวมถึงประสบการณ์ การบริการ และการเชื่อมโยงกับตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่

    “ตลาดโรงแรมวันนี้ไม่ใช่การแข่งกันเปิดใหม่ แต่คือการแข่งกัน 'อยู่ให้รอด และเติบโตในจังหวะที่ใช่’”

ใครที่ลงทุนโดยมองแค่ตัวเลขอัตราการเข้าพัก อาจพลาดจุดเปลี่ยนในระยะยาวแต่ใครที่เข้าใจพฤติกรรมใหม่ของนักท่องเที่ยว และวางแผนแบบมียุทธศาสตร์ อาจกลายเป็นผู้ชนะในเกมที่เปลี่ยนแปลงนี้