ภูเก็ตศูนย์กลางที่อยู่อาศัยระดับโลก 3ทำเลทอง กะรน ฉลอง เกาะแก้ว

ภูเก็ตไม่ใช่แค่ “เกาะท่องเที่ยว” แต่กลายเป็นศูนย์กลางการอยู่อาศัยระดับโลก โซนใต้ของเกาะ กำลังขึ้นแท่น3ทำเลทอง กะรน ฉลอง เกาะแก้ว
KEY
POINTS
- ภูเก็ตกำลังเปลี่ยนบทบาทจากเมืองท่องเที่ยวสู่ศูนย์กลางการอยู่อาศัยระดับโลก โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเปลี่ยนทิศทางจากโซนเหนือไปยังโซนใต้ที่มีศักยภาพสูง
- บทความชี้ 3 ทำเลทองในโซนใต้ที่น่าจับตา ได้แก่ กะรน ศูนย์กลางพูลวิลล่าหรูริมหาด, ฉลอง ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์และเกาะแก้ว ชุมชนครอบครัวชาวต่างชาติและการศึกษา
การเติบโตของตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต กำลังเคลื่อนตัวสู่โซนใต้อย่างชัดเจน จากแรงขับเคลื่อนด้านนโยบายภาครัฐ โครงสร้างพื้นฐาน และดีมานด์จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ พร้อมบทวิเคราะห์เชิงลึกจาก “โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า” ผู้นำตลาดพูลวิลล่าระดับลักชัวรีในภูเก็ต
ณ วันนี้ “ภูเก็ต” ไม่ได้เป็นเพียงเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอีกต่อไป หากแต่กำลังกลายเป็นจุดหมายของนักลงทุนและกลุ่ม Ultra High Net Worth Individuals (UHNWI) ที่มองหาบ้านหลังที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตัวเลขจากสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ระบุชัดถึงความคึกคักของภูเก็ตในปี 2568 ด้วยนักท่องเที่ยวสะสมกว่า 2.4 ล้านคน (ช่วง ม.ค.–พ.ค.) และสร้างรายได้สะสมถึง 149,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึง “ดีมานด์แท้จริง” ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม Long-Stay, Digital Nomad และ Expat ที่เลือกภูเก็ตเป็นบ้านถาวร
"ภูเก็ตกำลังเปลี่ยนบทบาท จากเมืองท่องเที่ยว มาเป็นศูนย์กลางการอยู่อาศัยและการลงทุนระดับโลก" อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ, ประธานบริหาร โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต
แม้ “โซนเหนือ” ของภูเก็ตจะเป็นทำเลทองมาอย่างยาวนาน แต่ราคาที่ดินที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง กำลังทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาจับตามอง “โซนใต้” ซึ่งยังเต็มไปด้วยศักยภาพที่รอการปลดล็อก
โซนใต้ 3ทำเลดาวรุ่งที่น่าจับตา
กะรน: สวรรค์แห่งหาดทรายและวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในภูเก็ต กำลังกลายเป็น “Luxury Beachfront Hub” สำหรับพูลวิลล่าระดับไฮเอนด์ที่ดึงดูดนักลงทุนยุโรปและรัสเซีย
ฉลอง: จุดเชื่อมต่อหลักสู่ทะเลอันดามัน ผ่าน “ท่าเรือฉลอง” ที่เป็นเกตเวย์สู่การท่องเที่ยวทางทะเลระดับลักชัวรี พร้อมรองรับ Expat ด้วยไลฟ์สไตล์ครบครัน
เกาะแก้ว: คอมมูนิตี้ครอบครัวต่างชาติที่เติบโตเร็วที่สุดของภูเก็ต ด้วยจุดแข็งด้าน “การศึกษา” ใกล้โรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง และความเป็นส่วนตัวของที่อยู่อาศัย
โครงสร้างพื้นฐาน - นโยบายรัฐ - ความยั่งยืน จุดเปลี่ยนสำคัญ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น โครงการถนนเชื่อมสนามบิน, รถไฟรางเบา, ท่าเรือยอช์ตนานาชาติ และ Boat Taxi กำลังสร้างการเชื่อมโยงใหม่ให้ภูเก็ตใต้เป็นทำเลที่ “เข้าถึงง่ายแต่ยังคงความสงบ”
ประกอบกับ นโยบาย LTR Visa และ Destination Thailand Visa (DTV) ที่เอื้อต่อการพำนักระยะยาว ยิ่งปลุกตลาดอสังหาฯ ให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เลือก Work From Anywhere
ขณะเดียวกัน แนวโน้ม Wellness Economy และ การออกแบบแบบ Green Design – Smart Home เริ่มเป็นจุดแข็งของโครงการอสังหาฯ ใหม่ ที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อระดับบนทั่วโลก
โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า กับ 3 โครงการชูโรง ที่สะท้อนยุทธศาสตร์ “โซนใต้”
ในฐานะผู้นำตลาดพูลวิลล่าระดับลักชัวรี โบทานิก้าฯ ไม่เพียงอ่านเกมขาด แต่ยังเร่งเดินเกมรุก ด้วยการเปิดตัว 3 โครงการใหม่ในทำเลศักยภาพโซนใต้ รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท
1. Botanica Modern Sea Karon – กะรน
พูลวิลล่าติดหาดแบบพาโนรามา ราคาเริ่มต้น 47.8 ล้านบาท
“ที่นี่เราออกแบบเพื่อดึงวิวธรรมชาติให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน”
2. Botanica Chalong Bay – ฉลอง
วิลล่าหรูใกล้ท่าเรือและโรงเรียนนานาชาติ เริ่มต้น 29.5 ล้านบาท
“ทำเลฉลองจะเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์คนเมืองและคนเรือ”
3. Botanica Majestia – เกาะแก้ว
โครงการ Low Density สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ใกล้ British International School เริ่มต้น 38 ล้านบาท
“โครงการนี้ตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการความเงียบสงบและการเดินทางสะดวก”
โซนใต้คือโอกาสใหม่ของนักลงทุน
ด้วยปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายภาครัฐ เทรนด์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ และกลุ่ม Expat ที่เติบโต โซนใต้ของภูเก็ตกำลังก้าวขึ้นมาเป็น “ไพรม์โลเคชันใหม่” ที่ราคาที่ดินยังไม่สูงจนเกินไป แต่ให้ผลตอบแทนปล่อยเช่าเฉลี่ยถึง 8% ต่อปี
“วันนี้คือช่วงเวลาเหมาะสมที่สุดในการลงทุนในโซนใต้ เพราะศักยภาพที่ยังไม่ถูกใช้จนเต็ม และความต้องการที่กำลังพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ”
การเติบโตของภูเก็ตในวันนี้ไม่ใช่แค่การขยาย “แนวชายหาด” แต่คือการปรับทิศใหม่ของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในภูเก็ตตอนใต้ ที่มีทั้ง ทะเล – การศึกษา – ไลฟ์สไตล์ – โครงสร้างพื้นฐาน – และชุมชน Expat คุณภาพ
หากภูเก็ตคือเพชรเม็ดงามของประเทศไทย โซนใต้ก็คือ “เหลี่ยมใหม่” ที่กำลังส่องประกายให้ทั้งเกาะเจิดจรัสยิ่งขึ้นบนเวทีโลก







