'เสนาดีเวลลอปเม้นท์' แข็งแกร่งทุกวิกฤติ พร้อมต่อยอดสู่ผู้นำที่อยู่อาศัยครบวงจร

'เสนาดีเวลลอปเม้นท์' แข็งแกร่งทุกวิกฤติ พร้อมต่อยอดสู่ผู้นำที่อยู่อาศัยครบวงจร

"เสนาดีเวลลอปเม้นท์" แข็งแกร่งในทุกวิกฤติ ไม่หยุดการเป็นแบรนด์อสังหาฯ ก้าวสู่การเป็น "ผู้นำโซลูชันการอยู่อาศัยครบวงจร"

"อสังหาริมทรัพย์" หนึ่งในเซ็กเตอร์สำคัญของกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูง ยิ่งกว่านั้นยังสำคัญต่อการดำรงชีพของมนุษย์เพราะเป็น 1 ในปัจจัยสี่สมรภูมิตลาดที่อยู่อาศัย เต็มไปด้วยผู้เล่นมากหน้าหลายตา ทุนเล็ก-ใหญ่ มีแบรนด์หลากหลายเป็นทางเลือกให้ ผู้บริโภคที่ต้องการมีบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวเฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" เป็นหนึ่งในนักพัฒนาอสังหาฯ หรือดีเวลลอปเปอร์ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากยืนหยัดในตลาดยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ เรื่องราวของ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" เริ่มจากผู้ก่อตั้ง ธีรวัฒน์ ธัญลักษณ์ภาคย์ ผู้ปลุกปั้นอาณาจักรอสังหาฯ ให้เติบโต และส่งต่อ DNA ความอึด อดทน และใจนักสู้ให้กับ "ทายาท" อย่าง ดร.ยุ้ย-ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ที่เติบโตมากับการเห็นพ่อเผชิญวิกฤติ และลงมือฝ่าฟันทุกปัญหาด้วยตัวเองเส้นทางของเธอแม้เริ่มต้นจากสายวิชาการ แต่เมื่อถึงเวลาสานต่อกิจการครอบครัวเธอก็ก้าวขึ้นมาเป็นหญิงเหล็ก นำเสนาสร้างการเติบโตต่อเนื่องร่วมกับ นายธีรวัฒน์ รวมเวลากว่า 40 ปีที่สองรุ่นได้หล่อหลอมองค์กรให้แข็งแกร่ง มั่นคง ผ่านทุกวิกฤติสะท้อนความมุ่งมั่นและความศรัทธาในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้นานพอจนกลายเป็นความสำเร็จอย่างยั่งยืนการรักษาเครดิตดีเอ็นเอสืบทอดธุรกิจ

เมื่อต้องรับบทนำทัพอสังหาฯ ผศ.ดร.เกษรา ได้เรียนรู้การทำงาน สั่งสมประสบการณ์ให้กับการเป็นดีเวลลอปเปอร์เต็มขั้น เพราะตระหนักว่า "อสังหาริมทรัพย์" เป็นการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้บริโภค หรือ B2C ที่เป็น "สินทรัพย์" หรือ Asset สำคัญในชีวิตเฉกเช่นกับ "ความรู้" ที่เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญา 

"ช่วงชีวิตของคน ไม่มีโอกาสทำทุกอย่างตามที่ใจชอบ...ใครจะโชคดีขนาดนั้น หากต้องเลือกในสิ่งที่เหมาะสม อาจไม่รักที่สุด แต่เหมาะสม สามารถทำให้รักได้ และตอนนี้รัก ชอบธุรกิจอสังหาฯแล้ว และโชคดีที่คุณพ่อทำธุรกิจนี้ ซึ่งอสังหาฯ คล้ายกับการเป็นอาจารย์คือ มอบ Asset สำคัญในชีวิตคน ทำให้เราชอบธุรกิจนี้ได้ไม่ยาก" ธุรกิจอสังหาฯ ยังมีข้อดีสำหรับผู้ประกอบการคือ "กฎหมายค่อนข้างเต็มรูปแบบ" การสร้างที่อยู่อาศัยหมวดต่างๆ กฎหมายมีความนิ่งไม่ต้องมีกฎกติกาใหม่บังคับใช้เว้นการให้สิทธิ์ใช้ที่ดินระยะยาว (Leasehold : FYI ที่ภาคอสังหาฯ ต้องการเห็นการปรับเปลี่ยน) สำหรับภารกิจรับไม้ต่อในฐานะ “ทายาท” ดีเอ็นเอจากบิดาผู้ก่อตั้งธุรกิจ ถ่ายทอดให้ "ผศ.ดร.เกษรา" คือการ "รักษาเครดิต " กับทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (STAKEHOLDER) ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหนี้ ผู้ลงทุน คู่ค้า ลูกค้า "เราให้ความสำคัญกับการรักษาเครดิตมาก โดยเฉพาะหนี้เจ้าหนี้ทุกประเภทผู้ลงทุน ไม่ว่าองค์กรเราจะเป็นสถานะ หรือ state ไหน"

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า พร้อมยกตัวอย่างจากยุคคุณพ่อ ที่เริ่มจากการขายลอดช่องแผงเล็กๆ ในตลาดบางรัก ขยับสู่การค้าไม้ และเข้าสู่วงการอสังหาฯ ด้วยเงินทุนเพียง 6,000 บาท บวกกับการยืมเงินทุนจากผู้อื่น (เจ้าหนี้) การรักษาเครดิต จึงเป็นสิ่งสำคัญที่หล่อหลอมและวางรากฐานความแข็งแกร่งขององค์กรจนมาถึงวันนี้ ก้าวที่แกร่งของ เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เส้นทางธุรกิจอสังหาฯ กว่า 40 ปี "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากทาวเฮ้าส์อย่างเดียว รุกบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ก้าวสู่ "คอนโดมิเนียม" เพราะอ่านเกมตลาดเทรนด์ความต้องการที่อยู่อาศัยได้เฉียบขาด โดยเฉพาะการเห็นภาพความเป็นเมืองที่ขยายตัว ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยเปลี่ยนปัจจุบัน บริษัทฯ กลายเป็น "ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม" ราคาจับต้องได้ หรือ Affordable ระดับราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาท 

ถ้าไม่ทำคอนโดมิเนียม การเติบโตแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะดีเวลลอปเปอร์ในกลุ่มท็อป 10 หรือท็อป 15 ล้วนมีคอนโด อยู่ในพอร์ตขณะที่ทั้งตลาดที่อยู่อาศัยคอนโดก็มีสัดส่วนสูงถึง 65% แต่เสนาเข้าตลาดคอนโดค่อนข้างช้าในตอนนั้น แม้หลายแบรนด์รุกกันหมดแล้ว ทว่าตลาดยังไม่ชัดเจนว่า หากไม่ทำคอนโดจะอยู่ไม่ได้ กระทั่งเมื่อพิจารณาวิถีความเป็นเมืองและเทรนด์การอยู่อาศัย ก็ชัดเจนว่าคนไม่อาจซื้อบ้านต่อเนื่องได้ จึงตัดสินใจก้าวเข้าสู่ตลาดคอนโดเต็มตัว จนปัจจุบันสัดส่วนคอนโดอยู่ที่ 70% ของพอร์ตเสนา และกลายเป็น "Saving Zone" ที่ช่วยให้องค์กรยืนได้อย่างมั่นคง 

เสริมทัพโซลูชันที่อยู่อาศัย LivNex - RentNex ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังเผชิญความท้าทายใหญ่จาก เศรษฐกิจ กำลังซื้อที่ชะลอตัว ซ้ำเติมด้วย "หนี้ครัวเรือนสูง" และธนาคารพาณิชย์เข้มการปล่อยสินเชื่อ จึงมีผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อหรือ Rejection rate ปรับตัวสูงขึ้น   

ผศ.ดร.เกษรา ชี้แจ้งว่า เสนา ใส่ใจทุกเส้นทางการซื้อที่อยู่อาศัย หรือ Journey ของลูกค้าอย่างใกล้ชิด 4-5 ปีมาแล้ว โดยเฉพาะจับจุดการยกเลิกการซื้อบ้าน คอนโดฯ ในเชิงลึก ตั้งแต่จอง ดาวน์ โอน ตรวจสอบห้องชุด เกิดจากอะไร และเกิดเวลาไหน "ความฝันของทุกคนคืออยากมีบ้านดีเวลลอปเปอร์เมื่อก่อนทำสินค้าทุกอย่างดู Lead นำคนเข้ามาดูโครงการ มาซื้อ และโอนเท่าไหร่ ทำ 3 คอลัมน์ แต่ตอนนี้ต้องดูการยกเลิก เพราะที่ผ่านมาพบว่าหายไปค่อนข้างมาก การยกเลิกไม่ได้เกิดขึ้นธรรมชาติ หรือ organic เพราะเริ่มมีมากเกินไป จากคนที่คิดจะโอนได้ 10 ราย กลับยกเลิก 5 ราย จึง pay attention จุดนี้อย่างจริงจัง"

ทั้งนี้ Insight พบการจองแล้วยกเลิก 15 วัน เป็นเพราะมาจองลำพังไร้ครอบครัวมาร่วมพิจารณาเมื่อจะซื้อจริงเจอคัดค้าน กรณีการทำสัญญากับธนาคารพาณิชย์ เป็นโหมด “เข้าสู่โลกจริง” มี 3 สิ่ง เกิดขึ้น คือ 1.ลูกค้ากลัวและยกเลิกไปเอง 2.ถูกแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อ หรือกู้ไม่ผ่าน และ 3.กู้ผ่าน แต่ตรวจห้องแล้วไม่พึงพอใจ ยกเลิกแต่ละขั้นตอน บริษัทฯ มีแนวทางแก้ปัญหาที่แตกต่างกันโซลูชันที่ "เสนา" ใช้เป็นอาวุธ หรือกลยุทธ์การตลาดแก้ปัญหา คือลุยนวัตกรรมทางการเงิน "LivNex-เช่าออมบ้าน" ตอบโจทย์ลูกค้า เพียงทำสัญญาเช่าออมกับบริษัทฯ สามารถแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่ในโครงการได้เลยไม่มีเงินดาวน์ หรือรอการอนุมัติสินเชื่อจากแบงก์ ถือเป็นการแก้จุดเจ็บปวด หรือ Pain Point ใน 3 Bad ได้แก่ Bad Credit Bad Income และ Bad Confidence เปิดทางสร้างโอกาสให้คนไทยที่กู้ไม่ผ่านยังมีบ้านได้จริง "สาเหตุใหญ่ของการยกเลิกตอนนี้มาจาก 2 ตัวแปรสำคัญ คือเศรษฐกิจ และกู้ไม่ผ่าน เราจึงทำ LivNex มาแก้ตรงนี้ ทำอย่างไรให้ลูกค้าที่ชอบโครงการเรา อยู่กับเราจนจบ"

"เสนา" ยังมีอีกโซลูชันตอบโจทย์ลูกค้าอย่าง "RentNex" หรือ "เช่าตรง" ที่ออกแบบมาตอบโจทย์ Generation Rent และคนที่ยังไม่พร้อมซื้อบ้านหรือกู้ไม่ผ่าน ให้สามารถเช่าบ้านหรือคอนโดเสนาได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย เหมือนการเช่าทั่วไปแต่ได้มาตรฐานคุณภาพเสนา เพิ่มความยืดหยุ่นให้การใช้ชีวิต และเปิดโอกาสให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัยตามต้องการ ถือเป็นการปฏิวัติตลาดที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง "LivNex กลายเป็นพอร์ตโฟลิโอที่สำคัญ เพราะมีลูกค้าอยู่กว่า 1,000 ยูนิต ส่วน RentNex มีลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง และตอนนี้สิ่งสำคัญในการทำตลาดที่อยู่อาศัย จุดยากที่สุดสำหรับเสนาคือการทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสนใจเรา จากนั้นเราขอเป็นทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ จะ LivNex RentNex หรือ ซื้อ เรามีหลากรูปแบบให้เลือก นี่คือการปรับตัว การดิสรัปของเรา" ยกระดับที่อยู่อาศัยด้วยมาตรฐานญี่ปุ่น บ้านดีต่อลูกบ้าน-โลก ในการพัฒนาอสังหาฯ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์" ไม่เพียงสร้างบ้าน คอนโด สานฝันคนอยากที่อยู่อาศัย แต่ยังยกระดับโครงการในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นอย่าง "ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป" ยักษ์ใหญ่อสังหาฯจากประเทศญี่ปุ่น สู่การ "ร่วมทุน" ภายใต้ "เสนา ฮันคิว" ซึ่งปัจจุบันสร้างการเติบโตร่วมกันเกือบ 1 ทศวรรษ ช่วยต่อจิ๊กซอว์ "ความเชื่อมั่น" หรือ SENA TRUST กับคุณภาพ และมาตรฐานในแบบฉบับแดนซามูไร

ทุกโครงการยังการันตีแบรนด์ "เสนา ฮันคิว" ให้เป็นที่ประจักษ์ "ด้านแบรนด์และคุณภาพโครงการจะเห็นว่าฮันคิวฯ คือดีเวลลอปเปอร์ญี่ปุ่นรายเดียวที่สร้างแบรนด์ร่วมหรือ Co-brand ในไทย บนอาคารคอนโดฯ จะมีชื่อแบรนด์ โลโก้ของเสนาและฮันคิวฯ เพราะฮันคิวฯ มีบทบาทเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ไม่ใช่แค่นักลงทุน และต้องการมีส่วนช่วยขับเคลื่อนตลาดในไทยด้วย" บริษัทฯ ยังยกระดับการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ดีต่อลูกบ้านและโลกตอกย้ำบทบาท ผู้นำที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนด้วยการประกาศชัดแนวคิด "คาร์บอนต่ำ" ที่ก้าวล้ำกว่าที่อื่น ภายในโครงการไม่เพียงสร้างการตระหนักรู้เรื่องการลดคาร์บอน แต่ยังพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้ลูกบ้านรับรู้และติดตามได้อย่างต่อเนื่อง ภารกิจลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโลก

คือสิ่งที่ ผศ.ดร.เกษรา ยืนหยัดทำด้วยความตั้งใจจริง "ในฐานะผู้นำ สิ่งที่ยากที่สุดคือการยืนหยัดอยู่กับความยั่งยืน เพราะความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องอาศัยความจริงจัง ความต่อเนื่อง และการพัฒนาทุกวันให้ดียิ่งขึ้น เป็นความท้าทายที่เราต้องทำให้สำเร็จ ภารกิจลดคาร์บอนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในโครงการที่อยู่อาศัย Low Carbon จึงไม่ใช่แค่เป้าหมายแต่คือพันธกิจที่ต้องเกิดขึ้นจริงและทุกวันคือโอกาสที่จะทำให้มันดีขึ้น" เพราะจุดยืนและวิสัยทัศน์ของเสนาไม่เคยเปลี่ยน คือการสร้าง Lifelong Trusted Partner ไม่ใช่เพียงการสร้างที่อยู่อาศัยแต่คือการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าและสังคม หากเปรียบเป็นการบริการ เสนาอยากเป็นเหมือน Low Cost Airline ชั้นดี ที่ไม่เพียงทำให้การเดินทางเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ลูกค้าวางไว้วางใจ ได้รับการดูแลตั้งแต่ก้าวแรก ส่งถึงจุดหมายอย่างมั่นใจ ตรงเวลา บริการดี และคุ้มค่าแต่ข้อดีที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งสำหรับ เสนา นั่นหมายถึงการทำให้คนไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านที่ดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าได้จริง และที่สำคัญยังไม่ลืมที่จะชวนทุกคนร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน เหมือนกับที่เสนามุ่งมั่นทำให้ "ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านได้จริง" สำหรับเสนา Lifelong Trusted Partner หมายถึงการเดินเคียงข้างลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นความฝันอยากมีบ้านไปจนถึงการอยู่อาศัยจริง การดูแลหลังการขาย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ครอบครัวเติบโต และยังรวมถึงการส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับสังคมและโลก เสนาจึงไม่ใช่แค่ผู้พัฒนาโครงการ แต่คือพันธมิตรที่พร้อมดูแลและเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าและสังคมในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะวันนี้หรืออนาคต" วินัยการเงิน พันธมิตรญี่ปุ่น กลยุทธ์สู่การเติบโต

การผนึกพันธมิตรเสริมแกร่งผ่าน เสนา ฮันคิว เกือบ 1 ทศวรรษ สร้างมูลค่าโครงการถึง 84,300 ล้านบาท ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่า 3 สิ่งบริษัทได้มาต่อยอดการเติบโต ประกอบด้วย 

  1. เงินทุน
  2. สมอง
  3. ใจ 

ขยายความ 3 ปัจจัย คือ "เงินทุน" คือพลังที่ช่วยให้เราก้าวข้ามข้อจำกัดขยายธุรกิจ และพัฒนาโครงการใหม่ๆ ได้อย่างมั่นคง "สมอง" คือองค์ความรู้และนวัตกรรมจากญี่ปุ่น ที่เสริมมาตรฐานการก่อสร้างและคุณภาพโครงการให้ก้าวสู่ระดับสากล แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ "ใจ" กำลังใจ และความจริงใจที่พิสูจน์ได้ในวันที่เราต้องเผชิญวิกฤติอย่างวันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวทุกอย่างเต็มไปด้วยความกังวลไม่รู้ว่าควรแก้ปัญหาอะไรเป็นลำดับแรก ทั้งลูกบ้าน พนักงาน หรือแม้แต่เรื่องประกันภัย ท่ามกลางความโกลาหล สิ่งแรกที่ได้รับคืออีเมลจากฮันคิวฯ ที่เขียนว่า "เราจะยืนเคียงข้างคุณเสมอ" คำสั้นๆ แต่เปี่ยมด้วยพลังนี้ทำให้เราเชื่อมั่นว่า พันธมิตรแท้ไม่ได้ดูที่ผลกำไร แต่ดูที่การยืนหยัดเคียงข้างกันในวันที่ยากที่สุด เงินทุนสำคัญ และปี 2568 อสังหาฯ เผชิญความท้าทายรอบทิศ เศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อชะลอ หนี้ครัวเรือนสูงฯ การยืนหยัดท่ามกลางมรสุม

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวเพิ่มเติมว่า "วินัยการเงิน” สำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่ว่าจะเป็นการ “ประหยัดอย่างมาก" การเคลื่อนธุรกิจต้องประเมินความเสี่ยงถี่ถ้วนขึ้น มีความระมัดระวังการในซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการวิเคราะห์ฉากทัศน์เศรษฐกิจจะไป "จุดต่ำสุด" แค่ไหนก่อน "เลือกตัดสินใจ" ดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลต่อธุรกิจอสังหาฯ "เสนาฯ" แสดงศักยภาพด้านการเงินด้วยการเลือกชำระคืนหุ้นกู้รุ่น SENA259A มูลค่า 1,530 ล้านบาท ที่ครบกำหนดวันที่ 15 กันยายน 2568 ก่อนล่วงหน้า สะท้อนวินัยการเงินที่มั่นคง การวางแผนทางการเงินที่รอบคอบ และการรักษาเครดิตอย่างต่อเนื่อง การคืนเงินก่อนถือเป็นสัญญาณชัดเจน ถึงสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง และความพร้อมรองรับทุกสถานการณ์จากนั้น จึงเดินหน้าเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 2/2568 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.80% ระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน ผ่าน 16 สถาบันการเงินชั้นนำ "แทนที่จะ Rollover หุ้นกู้ เราเลือกประกาศคืนเงิน 1,530 ล้านบาทก่อน จากนั้นจึงออกขายหุ้นกู้ชุดใหม่ทันทีภายใน 2 วัน แสดงให้เห็นว่าเสนามีเงินพอในการชำระคืน แม้ไม่ได้ขายสินค้าใหม่เลยเราก็ยังอยู่ได้ และการคืนเงินก่อนยังช่วยสร้างความสบายใจให้นักลงทุนที่ ซื้อหุ้นกู้ของเรา เพราะสามารถนำเงินที่ได้รับคืนไปลงทุนต่อในรุ่นใหม่ได้โดยไม่ต้องเตรียมเงินเพิ่ม" 

"กระแสเงินสดคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะกำไรไม่ได้หมายความว่าจะมีกระแสเงินสดเสมอไป การร่วมทุนกับฮันคิวฯ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยรักษาสภาพคล่อง ของธุรกิจ ขณะเดียวกันการขับเคลื่อน ธุรกิจอสังหาฯ วันนี้ต้องระมัดระวัง และพร้อมปรับตัวให้เร็วทันกับทุกการเปลี่ยนแปลง สำหรับเสนา เราไม่เคยคิดว่าต้องเติบโตที่สุด แต่อยากเป็น บริษัทฯ ที่สำเร็จและเติบโตอย่างมั่นคง Go along with the curve, stay a bit above the curve หรือการเติบโตไป ตามเส้นโค้งของตลาด พร้อมก้าวนำเหนือเส้นโค้งอยู่เสมอ" ผศ.ดร.เกษรา กล่าวปิด