แรบบิท x อนันดาลุยคอนโด-เซอร์วิสเรสซิเดนซ์จับนักลงทุน HNWIs

แรบบิท x อนันดาลุยคอนโด-เซอร์วิสเรสซิเดนซ์จับนักลงทุน  HNWIs

แรบบิท x อนันดาเจาะนักลงทุน กลุ่มมั่งคั่งทั่วโลก ลุยคอนโด-เซอร์วิสเรสซิเดนซ์หรูสุขุมวิท 38 บิลเลียนแนส์โรว์ เมืองไทยพร้อมดึงเชฟมิชลินเสิร์ฟ Fine Dining

KEY

POINTS

  • แรบบิท โฮลดิ้งส์ และ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมกันพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท บนทำเลสุขุมวิท 38
  • ประกอบด้วย"The Residences 38"คอนโดมิเนียมระดับอัลตร้าลักชัวรี และเซอร์วิสเรสซิเดนซ์แบรนด์หรู "La Clef" ครั้งแรกในเอเชีย
  • มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้มีความมั่งคั่งสูง (HNWIs) และนักลงทุนต่างชาติ
  • ชูจุดเด่นบริการ Private Fine Dining จากเชฟระดับมิชลิน และการออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก

ในวันที่่ “ทำเลทอง” หรือซูเปอร์ไพร์มแอเรีย ไม่ได้วัดกันด้วยราคาแพงที่สุด! แต่ต้องหมายถึงการใช้ชีวิตเหนือระดับที่สุดเช่นกัน โครงการมิกซ์ยูสใจกลางสุขุมวิทของ “แรบบิท โฮลดิ้งส์” จึงไม่ได้มาแค่ในรูปแบบคอนโดมิเนียมทั่วไป แต่ได้ยกระดับการใช้ชีวิตที่หรูหราราวโรงแรม 5 ดาว ภายใต้แบรนด์ “The Residences 38” ถูกวางตำแหน่งเป็น “คอนโดอัลตร้าลักชัวรี” พร้อมกับเซอร์วิสเรสซิเดนซ์แบรนด์หรู “La Clef” ครั้งแรกในเอเชีย ที่มีมูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท บนที่ดินแปลงหายากในซอยสุขุมวิท 38 ติดรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อ ที่กำลังจะกลายเป็นเส้นทางของเหล่าเศรษฐี และผู้มั่งคั่งจากทั่วทุกมุมโลก

“โครงการนี้ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือจุดหมายปลายทางแห่งการใช้ชีวิต”

กวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ความแตกต่างของ The Residences 38 ไม่ได้อยู่ที่ทำเลหรือสเปกวัสดุ แต่คือ ปรัชญาในการสร้างสรรค์โครงการ ที่นี่ไม่ได้ขายเพียงห้องพัก แต่ขาย “ประสบการณ์แห่งการใช้ชีวิต” (Life Experience) ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การจับมือกับ บริษัท เทอร์เทิล ทเวนตี้ทรี จํากัด (Turtle 23) ในกลุ่มบีทีเอสกรุ๊ป  ผู้บริหารเชฟระดับมิชลิน สร้างสรรค์ Private Fine Dining Experience ซึ่งหาไม่ได้จากโครงการใดในกรุงเทพฯ
 

"สิ่งที่พิเศษที่สุดของโครงการคือการนำ Passion เกี่ยวกับอาหารมาสร้าง World-Class Dining Experience ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย เพียงโดยสารลิฟต์จากบ้านจะสามารถสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารส่วนตัวระดับโลก ซึ่งโครงการได้สร้างประสบการณ์เหนือระดับผ่าน Chef Man Private Kitchen เสริมภาพลักษณ์ให้โครงการนี้ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่เป็น Destination แห่งการใช้ชีวิตและอาหารระดับโลก"

ทางด้าน ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรานำศาสตร์แห่งอาหารมาผสานกับสถาปัตยกรรม เพื่อสร้างมิติใหม่ของการอยู่อาศัยที่แตกต่างจากคู่แข่งที่มีจากเจ้าของ”

บนชั้น 11 ของอาคาร จะเป็นพื้นที่สำหรับ Chef’s Table ส่วนตัว นำโดย “เชฟ Wai Yin Man” แห่ง Chef Man และ “เชฟ Takashi Sasaki” แห่ง Kappo Takashi โดยเปิดให้เฉพาะผู้พักอาศัยได้ลิ้มรสอาหารระดับมิชลินในความเป็นส่วนตัวสูงสุด

การออกแบบโดย Antonio Citterio สถาปนิกผู้สร้าง The Bulgari Hotel Milan พร้อมด้วย PIA Interior และ SHMA ยังช่วยเติมเต็มทั้งความหรูหรา ความสงบ และพื้นที่สีเขียวในแบบ “มหานครที่ยังเชื่อมโยงกับธรรมชาติ”
 

แบรนด์หรู La Clef ครั้งแรกในเอเชีย

นอกจากคอนโดแล้ว โครงการยังผนวก เซอร์วิสเรสซิเดนซ์แบรนด์ La Clef Bangkok by The Crest Collection ภายใต้การบริหารของ The Ascott แบรนด์โรงแรมหรูจากฝรั่งเศส ที่จะเข้ามาเปิดตัวในไทยเป็นแห่งแรก รวม 115 ยูนิต รองรับการพักระยะยาวของชาวต่างชาติและนักลงทุนต่างประเทศ โดยชั้น 12-23 จะเป็นพื้นที่ของเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ 

ส่วนคอนโดลักชัวรีอีก 56 ยูนิต ตั้งแต่ชั้น 24-36 ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 22.9 ล้านบาท ไปจนถึง 246 ล้านบาท เจาะกลุ่มมั่งคั่งสูง หรือ High Net Worth Individuals (HNWIs) และนักลงทุนต่างชาติที่มองหาอสังหาริมทรัพย์เป็น “บ้านหลังที่สอง” หรือ “สินทรัพย์เพื่อการพักผ่อนหลังเกษียณ” ซึ่งทางอนันดาเป็นผู้บริหารโครงการในรูปแบบ Professional Services and Management Consultancy

ทองหล่อ 38 จากทำเลทอง สู่ย่านมิลเลียนแนร์

ทำเล “สุขุมวิท 38” กำลังจะกลายเป็น “Billionaire Row” ของจริง เมื่อภายใน 1-2 ปีข้างหน้า โครงการระดับอัลตร้าลักชัวรีหลายแห่งกำลังทยอยปักหมุด ทั้ง Porsche Design Tower และ The Okura Residences

“เราเลือกทำเลนี้ เพราะคือ Rare Location ที่เชื่อมเมือง เชื่อมชีวิต และเชื่อมความหรูหราได้อย่างลงตัว”

ด้วยอัตราการขายเบื้องต้นแล้วกว่า 20% จากจำนวนยูนิตทั้งหมด โดย 80% ของผู้ซื้อเป็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่จากเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อินเดีย ซึ่งสนใจลงทุนหรือย้ายถิ่นฐานถาวรมาไทย การันตีถึงศักยภาพทำเลและความเชื่อมั่นในแบรนด์ผู้พัฒนา คาดว่าจะปิดยอดขายได้ 50% ภายในสิ้นปี 2568 และสามารถปิดโครงการได้ทั้งหมดในปี 2569

มิกซ์ยูส ไม่ใช่แค่ “อยู่” แต่ต้อง “สัมผัส”ได้

The Residences 38 คือบทพิสูจน์ว่า “อสังหาฯ ระดับอัลตร้าลักชัวรี” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทรัพย์สินเพื่ออยู่อาศัยอีกต่อไป แต่คือการลงทุนใน รูปแบบของการใช้ชีวิต การนำเชฟมิชลินมาสร้าง Private Kitchen การเลือกแบรนด์โรงแรมฝรั่งเศสระดับโลกมาสร้างเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ รวมถึงการออกแบบทุกตารางนิ้วให้สอดคล้องกับปรัชญา L’Art de Vivre- ศาสตร์แห่งศิลปะการใช้ชีวิต

“เรากำลังสร้างคอนเซปต์ใหม่ของอสังหาฯ ที่ไม่ได้วัดด้วยขนาดห้องหรือวัสดุ แต่ด้วยประสบการณ์ที่คนจะได้รับ” ชานนท์ กล่าว

ในวันที่เศรษฐีกลุ่มมิลเลียนแนร์ไม่ได้มองหาคอนโด แค่เพราะ “อยากมี” แต่เพราะ “อยากอยู่” โครงการเช่น The Residences 38 คือคำตอบใหม่ของอนาคตที่ “ความหรูหรา” ไม่ได้วัดด้วยราคา แต่ด้วย “ประสบการณ์” ที่มากกว่า