สมาคมบ้าน-คอนโดหวังดรีมทีมเศรษฐกิจแก้หนี้ เร่งฟื้นเชื่อมั่น

สมาคม‘บ้าน-คอนโด’หวังดรีมทีมเศรษฐกิจอนุทิน เดินหน้าลุยนโยบายQuick Win เร่งแก้ปัญหาหนี้ ฟื้นเชื่อมั่นประชาชน นักลงทุน สานต่อโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” กระตุ้นใช้จ่าย
ในห้วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของการเมืองประเทศไทย หลัง “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” ได้รับการโหวตขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ภายใต้รัฐบาลเสียงข้างน้อยและกรอบเวลาเพียง 4 เดือนก่อนเลือกตั้งใหม่ สิ่งที่ตามมาหลังการประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรี คือการจับตา “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ที่นายอนุทินดึง “คนนอก” มาเข้าร่วมอย่าง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอ ปตท. นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว นักการทูตมากประสบการณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาพรวมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งมีการดึงคนนอก 3 คน เข้ามาร่วมคณะทำงานด้วย ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ อยู่แล้ว ไม่ว่านายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รวมทั้งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีประสบการณ์ด้านต่างประเทศอยู่แล้ว และด้วยข้อจำกัดด้านเวลาของรัฐบาลเพียงแค่ 4 เดือน จึงมองว่าน่าจะทำให้การบริหารงานไม่ต้องมานับหนึ่งหรือมาเรียนรู้งานกันใหม่
“คณะรัฐมนตรีใหม่ชุดนี้คือทีมที่ ‘ไม่ต้องนับหนึ่ง’ เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์ตรงในด้านที่รับผิดชอบ จึงเชื่อว่าจะเดินหน้านโยบายได้ต่อเนื่องแม้เวลาจะมีไม่มาก”
เชียร์ต่อยอด “คุณสู้เราช่วย”
หนึ่งในประเด็นที่สะท้อนแรงคาดหวังของภาคอสังหาริมทรัพย์คือ การสานต่อโครงการดีจากรัฐบาลก่อน โดยเฉพาะนโยบายที่ช่วยให้ประชาชนฐานรากสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัย ผ่านสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ เช่น โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ที่ได้รับเสียงตอบรับในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
“เรื่องที่ทำไว้ดีแล้วไม่ต้องรื้อ เรายินดีหากรัฐบาลชุดใหม่จะต่อยอด โดยเฉพาะการเปิดทางให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่ออย่างเท่าเทียม”
พร้อมกันนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่เร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาที่อ่อนไหวอย่างกรณี ปัญหาพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการลงทุน หากปล่อยให้ยืดเยื้อ หรือกลายเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างประเทศ
หนุนดึงคนเก่งสร้างความเชื่อมั่น
ด้าน ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย สะท้อนมุมมองเชิงกลยุทธ์ โดยมองว่าการดึงบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญจากภาคเอกชนเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่แค่เพื่อบริหารจัดการช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่เป็นการ “โชว์เครดิต” เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะตามมา
“นี่คือโอกาสทองของรัฐบาลใหม่ ที่จะพิสูจน์ฝีมือให้เห็นผลงานจริง แม้จะมีเวลาเพียง 4 เดือนก็ตาม”
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องเลือกเดินนโยบายในแนวทาง “Quick Win” ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ชัดเจนในเวลาอันสั้น เช่น มาตรการส่งเสริมการลงทุน การฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และการตรึงเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมของการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีจะได้รับเสียงตอบรับเชิงบวก แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามข้อจำกัดด้านเวลาและงบประมาณ ที่ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจต้องดำเนินอย่างรอบคอบ “รัฐบาลอนุทิน” จึงอาจต้องเลือกทำเฉพาะสิ่งจำเป็น และหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายประชานิยมที่สร้างภาระทางการคลัง เช่น การแจกเงิน หรือมาตรการลดหย่อนภาษีแบบกระจาย หากไม่มีกลไกควบคุมชัดเจน
“มาตรการใดที่ออกมา ต้องเน้นสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะสั้น โดยไม่ทำลายวินัยการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว”
4 เดือน ชี้ชะตาอนาคตการเมือง-เศรษฐกิจ
แม้รัฐบาลนี้จะถือเป็น “รัฐบาลเฉพาะกิจ” ด้วยเสียงข้างน้อยและวาระสั้น แต่การเริ่มต้นอย่างมีทิศทาง พร้อมทีมเศรษฐกิจที่มากประสบการณ์ ถือเป็นจุดแข็งที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบได้ หากบริหารจัดการอย่างมีเป้าหมาย
ภาคอสังหาริมทรัพย์จึงไม่เพียงคาดหวังว่าจะมีนโยบายกระตุ้นออกมาเท่านั้น แต่ต้องการเห็นความชัดเจน ความต่อเนื่อง และความเป็นมืออาชีพ ในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ที่จะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้จริง ก่อนที่เสียงของประชาชนจะสะท้อนกลับมาอีกครั้งในคูหาเลือกตั้ง
“รัฐบาลอนุทิน” กับภารกิจ 120 วัน ก่อนเลือกตั้งอาจไม่สามารถปฏิวัติเศรษฐกิจได้ทั้งหมด แต่สามารถ “ปูทาง” และ “ส่งสัญญาณ” ถึงทิศทางที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นใหม่ให้ตลาด และนักลงทุน ภายใต้ทีมเศรษฐกิจที่มากด้วยประสบการณ์ภายใต้เวลาที่จำกัด







