เอสซีจี โฮมจับอินไซต์ปั้นโมเดล‘แคร์ ลิฟวิ่ง’เจาะสูงวัยยุคใหม่

‘เอสซีจี โฮม’จับอินไซต์'Young at Heart ปั้นโมเดล‘แคร์ ลิฟวิ่ง’เจาะสูงวัยยุคใหม่ ชูโซลูชันCare Living Solutions ที่ครอบคลุมทั้งการออกแบบ วัสดุ และเทคโนโลยี
เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ การปรับตัวของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “บ้าน” จึงกลายเป็นเรื่องเร่งด่วน และหนึ่งในองค์กรที่ขยับตัวเชิงกลยุทธ์อย่างน่าสนใจ คือ SCG HOME Experience ประกาศปักหมุดเป้าหมายใหม่ วางตัวเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยสำหรับกลุ่มผู้สูงวัยภายใต้แนวคิด “Care Living Destination” เปิดเกมรุกตลาดผู้สูงวัยยุคใหม่ ด้วยกลยุทธ์Care Living Ecosystem ผนึกพันธมิตรหลายมิติ ดันนวัตกรรมการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน พร้อมเปลี่ยนมุมมองไทยสู่ บ้านที่ออกแบบเพื่อคุณภาพชีวิต
พร้อมยกระดับร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สู่การเป็น Life Home Partner ที่เข้าใจผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงชีวิต ไม่ได้เป็นเพียงการรีแบรนด์ แต่คือการสร้างระบบนิเวศการอยู่อาศัย หรือ Care Living Ecosystem ที่เชื่อมต่อผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ ตั้งแต่การออกแบบ สุขภาพ เทคโนโลยี ไปจนถึงนวัตกรรมที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับความต้องการของผู้สูงวัยกลุ่มใหม่ที่เรียกว่า “Active Elder” ผู้สูงวัยที่ยังคงมีพลัง มีเป้าหมาย และต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระในบ้านของตนเอง
“เราไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่ร้านวัสดุก่อสร้าง แต่ต้องการเป็น Life Home Partner ที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงชีวิต”
ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด กล่าวว่า จากการศึกษาเชิงลึกของ SCG HOME Experience พบว่า กลุ่มผู้สูงวัยยุคใหม่ไม่ได้ต้องการเพียงการดูแล แต่ต้องการความ มั่นคงทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ บนพื้นฐานของ การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในบ้านที่ตนเองคุ้นเคย กลุ่ม “Active Elder” มีแนวคิดแบบ “Young at Heart” พวกเขาไม่มองว่าตนเป็นภาระ แต่ต้องการบ้านที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตด้วยตนเองได้นานที่สุด
ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาโซลูชันภายใต้ชื่อ Care Living Solutions ที่ครอบคลุมทั้งการออกแบบ วัสดุ และเทคโนโลยี โดยมีไฮไลต์ เช่น พื้นลดแรงกระแทก ป้องกันอุบัติเหตุจากการหกล้ม อุปกรณ์ห้องน้ำเพื่อความปลอดภัย เช่น ราวจับกันลื่น ระบบ Smart Living อาทิ Sensor แจ้งเตือนการล้ม, ปุ่มฉุกเฉิน SOS, ระบบหมุนเวียนอากาศ Active Airflow ที่สอดคล้องกับสรีระผู้สูงวัย
ผนึกพันธมิตรข้ามสายสร้างอีโคซิสเต็ม
SCG HOME Experience ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ แต่เป็น “ผู้เชื่อมโยง” เครือข่ายพันธมิตรเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจร โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ได้แก่ BAUEN เชี่ยวชาญด้านการรีโนเวทบ้านและห้องน้ำสำหรับผู้สูงวัย dooDeco ออกแบบภายในที่เหมาะสมกับวิถีชีวิต Active Elder ESARA Living พัฒนา “บ้านสำเร็จรูป” ที่สร้างรวดเร็ว อยู่สบาย และปลอดภัย ชีวิตดี (Chiwitdee) ไลฟ์สไตล์ชอปที่รวมสินค้าสำหรับผู้สูงวัย เน้นสุขภาพ ความปลอดภัย และความสะดวกในการใช้งาน ความร่วมมือนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการขายสินค้า แต่คือการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างให้กับสังคมสูงวัยของไทยอย่างแท้จริง
คลินิกหมอบ้าน Co-Creation ร่วมเครือข่าย
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้สูงวัยได้อย่างลึกซึ้ง คือ บริการคลินิก “หมอบ้าน” ซึ่งให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยสถาปนิก วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยออกแบบบ้านให้ปลอดภัยและเหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยในแต่ละช่วงวัย พร้อมทั้งวางแผนอยู่อาศัยระยะยาว เช่น การประเมินความเสี่ยงในพื้นที่ การปรับปรุงโครงสร้างให้รองรับอายุที่เพิ่มขึ้น การออกแบบเพื่อรองรับการดูแลในอนาคต
ขณะเดียวกันยังเปิดพื้นที่ทำงานร่วม (Co-Creation) กับภาคีสังคม เช่น เพจ “มนุษย์ต่างวัย” และกลุ่มชุมชนผู้สูงวัย เพื่อเข้าถึงความต้องการจริงของลูกค้า พร้อมต่อยอดองค์ความรู้สู่สังคมวงกว้าง
เปลี่ยนมุมมองใหม่บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย
แม้ว่าตลาดผู้สูงวัยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ SCG HOME Experience มองเห็นอุปสรรคสำคัญคือ “มุมมองของผู้บริโภค” ที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านเพื่ออนาคต บริษัทจึงวางเป้าหมายระยะยาวที่จะ “ให้ความรู้ (Educate) ตลาด” สร้างความเข้าใจใหม่ว่า การออกแบบบ้านให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุนในคุณภาพชีวิตที่คุ้มค่า และส่งผลดีทั้งต่อเจ้าของบ้านและผู้ดูแลในระยะยาว
ธัญญ์กวิน ระบุว่าเพื่อให้เป้าหมายนี้เป็นรูปธรรมจึงเตรียมแผนพัฒนาองค์ความรู้ของเจ้าหน้าที่ประจำร้าน โดยเฉพาะที่ “ชีวิตดี” ให้สามารถให้คำปรึกษาด้านการออกแบบที่สอดคล้องกับสรีระของผู้สูงวัย พร้อมขยายกิจกรรมสาธารณะ เช่น เวิร์กช็อปความปลอดภัยในบ้าน โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย โดยร่วมมือกับภาคการแพทย์
เป้าหมายของ SCG HOME Experience ไม่ได้หยุดอยู่ที่การขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสูงวัย แต่ต้องการเป็นผู้นำในการผลักดันแนวคิด “การออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกเจนเนอเรชันสามารถเข้าถึงและเริ่มต้นได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดจากการออกแบบบ้าน ไปสู่การออกแบบระบบนิเวศชีวิต เพราะเชื่อว่ากลยุทธ์แบบองค์รวมที่ผนึกกำลังกับพันธมิตรจะไม่เพียงสร้างโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตของสังคมไทยในระยะยาว







