12 ปี AP X Mitsubishi Estate บทพิสูจน์พันธมิตรแท้-ความยั่งยืน

ในวันที่ธุรกิจร่วมทุนเปราะบางและเปลี่ยนแปลงได้ทุกขณะ "เอพี ไทยแลนด์" และ "มิตซูบิชิ เอสเตท" กลับยืนหยัดจับมือกันยาวนานถึง 12 ปี สร้างปรากฏการณ์ความร่วมมือระหว่างประเทศที่ไม่ใช่แค่เรื่องของกำไร หากแต่คือการขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตและการพัฒนาเมืองไทยอย่างยั่งยืน
พันธมิตรที่มากกว่าผลกำไร
ในโลกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผันผวน การร่วมทุนระหว่าง 2 องค์กร จากคนละประเทศ ไม่ต่างจากการต่อจิ๊กซอว์ที่ต้อง "พอดี" กันทุกมิติ จึงนับว่าไม่ง่าย หากจะเห็นความร่วมมือข้ามชาติที่ยืนหยัดได้นานกว่า 10 ปี
แต่ "เอพี ไทยแลนด์" และ "มิตซูบิชิ เอสเตท" กลับพิสูจน์ให้เห็นว่า ความแตกต่าง "ไม่ใช่" ข้อจำกัด หากต่างฝ่ายมีเป้าหมายเดียวกัน และพร้อมแบ่งปันองค์ความรู้ เพื่อสร้างบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าแค่ผลตอบแทนในระยะสั้น
อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) เล่าถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยาวนานจนมาถึงวันนี้ กล่าวว่า เราทั้งคู่ต่างกำลังมองหาพันธมิตรที่พร้อมจะขับเคลื่อนและผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปในระยะยาวด้วยกัน ไม่ใช่แค่ผู้ร่วมลงทุน ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่และท้าทายอย่างมาก
ประสบการณ์กว่า 100 ปี จากญี่ปุ่นสู่ไทย
มิตซูบิชิ เอสเตท เป็นหนึ่งในบริษัท อสังหาฯ รายใหญ่ของญี่ปุ่น เจ้าของย่าน Marunouchi ใจกลางกรุงโตเกียว และมีทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลทั่วโลก พวกเขาไม่ได้แค่พัฒนา อสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเป็น "นักออกแบบเมือง" ที่มีประสบการณ์มากว่า 100 ปี
จากสำนักงานใหญ่ในโตเกียว สู่คอนโดกลางกรุงเทพฯ คือการเคลื่อนตัวเชิงยุทธศาสตร์ของมิตซูบิชิ เอสเตท ที่ต้องการนำองค์ความรู้ด้านการออกแบบพื้นที่ การบริหารโครงการ และการจัดการทรัพย์สินมาพัฒนาคุณภาพชีวิตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะ "ประเทศไทย" ที่พวกเขาเลือกแล้วว่า "ใช่"
ยูจิ โอกาโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความตั้งใจเดิมจากวันแรกจนถึงปัจจุบัน กล่าวว่า ปรัชญาการทำงานของ เอพี สอดคล้องกับ Brand Slogan - A Love for People, A Love for City ของมิตซูบิชิ เอสเตท ซึ่งการผสานความร่วมมือครั้งนี้ เราเชื่อว่าจะนำไปสู่การสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับคนไทย
จุดเริ่มต้นบนพื้นฐานของคุณค่าเดียวกัน
ปี 2014 คือจุดเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา เพราะเอพีไม่ได้มองหาพันธมิตรที่เงินหนาที่สุด แต่มองหาคนที่ "เชื่อในสิ่งเดียวกัน" นั่นคือการพัฒนาเพื่อคุณภาพชีวิต ไม่ใช่แค่โครงการอสังหาริมทรัพย์
จากคำว่า Joint Venture ธรรมดาๆ จึงกลายเป็น "พันธกิจร่วมกัน" ซึ่งสะท้อนชัดผ่านการจัดตั้งบริษัท พรีเมี่ยม เรสซิเดนท์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 12,619 ล้านบาท สัดส่วนถือหุ้น 51:49 ไม่ใช่การประกาศตัวแค่ดีล แต่คือการตั้งหลักของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นมาทำงานร่วมกันในไทย ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจรายแรกและรายเดียวในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีโมเดลร่วมทุนด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในไทย
"ความร่วมมือของเราคือการแชร์องค์ความรู้ ไม่ใช่แค่แชร์เงินลงทุน" อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อแนวคิดญี่ปุ่นผสมผสานกับการทำงานแบบไทย
หนึ่งในเสน่ห์ของ มิตซูบิชิ เอสเตท คือความจริงจังในการถ่ายทอด "วิธีคิดญี่ปุ่น" มาสู่โครงการไทย
โมเดล Five Eyes ซึ่งเป็นหลักคิดด้านการออกแบบของมิตซูบิชิ เอสเตท ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจแก่ AP Principles ที่ประกอบด้วย 5 แกนคุณภาพ ได้แก่ AP CODE – มาตรฐานงานก่อสร้างระดับโลก AP EMPATHY DESIGN – เข้าใจชีวิตจริงก่อนออกแบบพื้นที่ AP SUSTAINABLE LIFE – ถือความยั่งยืนเป็นหัวใจ AP SMART LIFE – เทคโนโลยีเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย AP LIVING SERVICE – ให้ชีวิตดีแล้ว สบายใจต่อด้วยบริการหลังบ้าน ที่ไม่ได้ทำเพียงก่อสร้าง แต่เทียบเคียงมาตรฐานระดับญี่ปุ่น ที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่ "อยู่ได้" แต่ "อยู่ดี" เพราะคุณภาพชีวิตคือหัวใจ ไม่ใช่ของแถม
12 ปี 31 โครงการ กับยอดขายกว่าแสนล้าน
การเดินทางร่วมกันของทั้งสองบริษัทตลอด 12 ปีที่ผ่านมา นำไปสู่การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองรวมแล้ว 31 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 137,000 ล้านบาท โดยสามารถปิดการขายไปแล้วถึง 13 โครงการ โปรเจกต์ที่เปิดตัวในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น THE ADDRESS, RHYTHM, LIFE หรือ ASPIRE ล้วนแต่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อ ทั้งด้านยอดขายและคุณภาพงานก่อสร้าง เหลืออีก 18 โครงการ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา มูลค่ารวมกว่า 29,519 ล้านบาท ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
ในวันที่คู่ค้าหลายรายยุติความร่วมมือ หรือเปลี่ยนพาร์ตเนอร์ใหม่บ่อยครั้ง แต่เอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท กลับยังคงเดินหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง พร้อมปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภค และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
ทั้ง 2 ฝ่ายยังย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การขายโครงการเท่านั้น หากแต่จะขยายไปสู่รูปแบบอื่น เช่น การบริหารสินทรัพย์ในระยะยาว, การดูแลหลังการขาย และการพัฒนาเทคโนโลยีการอยู่อาศัย เพื่อรองรับ "สังคมสูงวัย" และ "เมืองอัจฉริยะ" ที่กำลังจะมาถึง
"มิตซูบิชิ เอสเตท ภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถร่วมสร้างคุณูปการให้กับสังคมไทยผ่านธุรกิจร่วมทุนกับพันธมิตรที่ดีและแข็งแกร่งอย่างเอพี ไทยแลนด์ และจะยังคงจับมือเดินหน้าร่วมกันไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบคุณค่าในฐานะบริษัทญี่ปุ่นให้กับสังคมไทยต่อไปในอนาคต" ยูจิ โอกาโมโต กล่าว
12 ปีที่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือบทเริ่มของอนาคต
เบื้องหลังของความยั่งยืน 12 ปี อาจไม่หวือหวาเหมือนกับการเปิดดีลพันล้าน แต่กลับเปี่ยมด้วยเนื้อหาสาระที่วงการ อสังหาริมทรัพย์ ไทยสามารถเรียนรู้ได้ นั่นคือ...
"ความไว้ใจ" สำคัญกว่าความเร็วในการตัดสินใจ "วิสัยทัศน์ร่วมกัน" คือรากฐานที่มั่นคงกว่าผลประโยชน์ระยะสั้นและ "การลงมือทำจริง" โดยไม่แบ่งเขตแดนของความรู้ คือสิ่งที่เปลี่ยนพันธมิตรทางธุรกิจให้กลายเป็นพันธมิตรทางคุณค่า
ความสัมพันธ์ระหว่าง เอพี ไทยแลนด์ และ มิตซูบิชิ เอสเตท คือกรณีศึกษาของ "การร่วมทุนที่ยั่งยืน" ท่ามกลางยุคสมัยที่อะไรเปลี่ยนเร็ว ความอดทนยาก และการมองระยะยาวเริ่มหายาก และนี่อาจเป็นสิ่งที่แวดวงธุรกิจไทยต้องคิดให้ไกลกว่าผลกำไร เพราะสุดท้ายแล้ว... "คุณค่า" ที่จับต้องได้จากความร่วมมือระยะยาว คือสิ่งที่เปลี่ยนธุรกิจให้มีความหมายยิ่งกว่าแค่การลงทุน
12 ปีแห่งความร่วมมือระหว่างเอพีและมิตซูบิชิ เอสเตท ไม่ใช่แค่ความสำเร็จทางธุรกิจ แต่คือบทพิสูจน์ของ "ความไว้ใจ" และ "วิสัยทัศน์" ที่พาให้ก้าวไปไกลกว่าคำว่า Joint Venture และยังคงเดินหน้าสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ให้กับชีวิตผู้คน…อย่างยั่งยืนต่อไป







