อารยะฯจับมือมิสเตอร์ดีไอวาย สร้างคลังสินค้ารองรับอีอีซี

ไม่หวั่นภาษีทรัมป์! มิสเตอร์ดีไอวายดีลลงทุน 158 ไร่ในนิคมอารยะฯ ไม่ใช่แค่ศูนย์กระจายสินค้า แต่คือภาพสะท้อนการยกระดับ “โลจิสติกส์–อุตสาหกรรม–ห่วงโซ่อุปทาน”
ภายใต้ภูมิทัศน์การลงทุนที่เปลี่ยนไป “โครงสร้างพื้นฐาน” และ “ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ” กลายเป็นแกนกลางของการตัดสินใจ ไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมค้าปลีก
กรณีศึกษาล่าสุด บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ “ARAYA – The Eastern Gateway” ได้เซ็นหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) กับ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. (ประเทศไทย) เพื่อพัฒนา ศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าอัตโนมัติ บนพื้นที่ 158 ไร่ หรือกว่า 252,800 ตารางเมตร
โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ อีอีซี (EEC) ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมต่อเครือข่ายโลจิสติกส์ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ รองรับเป้าหมายการขยายธุรกิจของผู้ลงทุนระดับภูมิภาค
“เราต้องการพื้นที่ที่มากกว่าแค่โลเคชั่น ต้องเป็น ecosystem ที่พร้อมต่อยอดธุรกิจอย่างยั่งยืน”
ค้าปลีกยุคใหม่ ไม่ได้วัดที่จำนวนสาขา แต่ที่ระบบกระจายสินค้า
ด้วยฐานธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ต้องการศูนย์ปฏิบัติการที่สามารถบริหาร “คลังสินค้า–โลจิสติกส์–ซัพพลายเชน” ได้อย่างไร้รอยต่อ การเลือกนิคมอารยะฯ จึงตอบโจทย์ทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐาน
จุดแข็งของนิคมอารยะฯ คือความพร้อมด้านเทคโนโลยี การออกแบบระบบอัตโนมัติ และการบริหารจัดการพื้นที่แบบ Smart Industrial Estate ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มค้าปลีกที่ต้องการใช้เทคโนโลยีในการควบคุมต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการจัดส่ง
โลจิสติกส์ยุคใหม่ ต้องคิดเป็น "เครือข่าย" ไม่ใช่ "จุดเดียว"
ไม่เพียงแค่การเชื่อมต่อในประเทศ ศูนย์กระจายสินค้าดังกล่าวยังมองไกลไปถึงการเชื่อมกับภูมิภาคอาเซียน รองรับการขยายตัวของผู้บริโภคและแนวโน้มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
โครงการนี้จึงไม่ใช่เพียงการขายที่ดินในนิคมฯ แต่คือการสร้าง “Hub” ที่เสริมศักยภาพการจัดการซัพพลายเชนทั้งระบบ
“ดีลนี้จะไม่ใช่แค่การลงทุนในพื้นที่ แต่คือจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศค้าปลีก–อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งในภูมิภาค” กมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์
คลื่นทุนใหม่ กำลังเปลี่ยนแนวคิดพัฒนาอสังหาฯอุตสาหกรรม
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ สะท้อนทิศทางใหม่ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมที่ไม่เน้นเพียงการปล่อยเช่าพื้นที่ แต่ให้ความสำคัญกับการสร้าง “ระบบนิเวศการลงทุน” (Investment Ecosystem) ที่ดึงดูดกลุ่มทุนคุณภาพ
นิคมอารยะฯ จึงถูกวางบทบาทเป็นมากกว่าพื้นที่อุตสาหกรรม แต่เป็น “ศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่” ที่เชื่อมภาคการผลิต การค้าปลีก และการขนส่งเข้าไว้ด้วยกัน
ยกระดับมาตรฐาน–ดึงทุนกลุ่มเป้าหมาย
โครงการของมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เป็นเพียงก้าวแรกในกลยุทธ์ยาวของอารยะ แลนด์ฯ ที่ต้องการวางตัวเป็นศูนย์กลางลงทุนของธุรกิจยุคใหม่ ทั้งในกลุ่ม Smart Logistics, Green Supply Chain และ Automation Industry
โดยคาดว่า โครงการจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2 ปี 2569 และพร้อมดำเนินงานเต็มรูปแบบในปี 2570 ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างการจ้างงาน และกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
ดีลระหว่างอารยะ แลนด์ฯ กับ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สะท้อนมิติใหม่ของการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับ “โครงสร้างพื้นฐาน–เครือข่ายซัพพลายเชน–การบริหารพลังงาน–เทคโนโลยีอัตโนมัติ” มากกว่าพื้นที่เพียงอย่างเดียว
ในสมรภูมิการค้าปลีกและอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนเร็ว การมีฐานปฏิบัติการที่ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์กลายเป็นแต้มต่อสำคัญของการอยู่รอดในระยะยาว







