‘โรงแรม’มาแรงแซง‘คอนโด’ทางเลือกนักลงทุนปั๊มรายได้ระยะยาว

‘โรงแรม’มาแรงแซง‘คอนโด’ทางเลือกนักลงทุนปั๊มรายได้ระยะยาว

"ธุรกิจโรงแรม”สินทรัพย์ดาวรุ่ง! แซงคอนโด ดึงเม็ดเงินลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะในกรุงเทพเป็น ทางเลือกนักลงทุนปั๊มรายได้ระยะยาว

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยรวมเผชิญภาวะชะลอตัว และประเภทที่อยู่อาศัยตลาดซบเซาอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ สะท้อนผ่านการเปิดขายโครงการใหม่ลดลงอย่างชัดเจน ในทางกลับกันเกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในกลุ่ม "ธุรกิจโรงแรม” กลับกลายเป็นสินทรัพย์ดาวรุ่ง! ดึงเม็ดเงินลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ  โดยเฉพาะในเขตเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑล 

ซึ่งแปลงที่ดินกลางเมืองหลายผืนที่เคยมีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม กลับกลายเป็นโครงการโรงแรมแห่ผุดทั่วเมือง แม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังไม่ฟื้นแรง แต่ตอบโจทย์การลงทุนระยะยาวมากกว่า “คอนโดมิเนียม”  ทั้งยังยืดหยุ่นกว่า และขายเข้ากองทุนสร้างผลตอบแทนได้ทันที

“หลายคนอาจแปลกใจว่าทำไมธุรกิจโรงแรมถึงมาแรง ทั้งๆ ที่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาเต็มที่ นั่นคือการลงทุนเพื่ออนาคตระยะยาว” 
 

สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย อธิบายต่อว่า หากพิจารณาจากข้อมูลพบว่า มีโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ในกรุงเทพฯ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมเปิดให้บริการในช่วงปี 2568-2572 มากถึง 8,900 ห้อง และหากรวมโรงแรมระดับอื่นๆ  จะมีห้องพักใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 ห้องทั่วเมือง ซึ่งเป็นการเติบโตที่น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังลดลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568

แม้แนวโน้มท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว นักลงทุนก็ยังตัดสินใจลงทุนในโครงการโรงแรม เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่สร้างกระแสรายได้ต่อเนื่องได้ และให้ผลตอบแทนในระยะยาว แตกต่างจากคอนโดมิเนียมที่มักเน้นการขายขาดเพื่อปิดยอดในเวลาอันสั้น 

“คอนโดมิเนียม ส่วนใหญ่หวังคืนทุนในระยะ 3-5 ปี แต่โรงแรมให้มุมมองยาวถึง 10-12 ปี”

‘โรงแรม’มาแรงแซง‘คอนโด’ทางเลือกนักลงทุนปั๊มรายได้ระยะยาว

ทางเลือกนักลงทุนยุคใหม่

นักลงทุนยุคใหม่หลายรายยังเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินอย่าง REITs (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) เพื่อเปลี่ยนโรงแรมที่สร้างเสร็จให้เป็นทรัพย์สินในกองทุน และขายหน่วยลงทุนให้กับผู้ร่วมทุนหรือประชาชนทั่วไป นักลงทุนผู้พัฒนาโครงการสามารถนำเงินกลับมา และยังถือหน่วยในกองทุนต่อเพื่อรับรายได้ประจำต่อเนื่องทุกปี

จุดเด่นอีกประการของธุรกิจโรงแรมคือความยืดหยุ่นในการใช้สอย ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์กลุ่มพำนักระยะยาว เช่น ชาวต่างชาติที่ทำงานในไทย หรือคนไทยที่ต้องการที่พักระยะยาวในราคาย่อมเยา ทำให้โรงแรมยุคใหม่มีทั้งรูปแบบรายวัน รายเดือน รวมถึงเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ผสมผสาน

“โรงแรม”สินทรัพย์สร้างรายได้ระยะยาว

บางกรณี โรงแรมยังเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการถือกรรมสิทธิ์ระยะยาว เพราะสามารถพัฒนาให้เสร็จแล้วขายเข้ากองทุนทั้งในและต่างประเทศได้ทันที เป็นแนวทางที่ต่างจากการถือครองคอนโดมิเนียมเพื่อขายรายยูนิตซึ่งใช้เวลานานและเผชิญความเสี่ยงจากดีมานด์ที่ลดลง

“โรงแรมไม่ใช่แค่ที่พัก แต่คือสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ระยะยาว และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามภาวะตลาด”

สำหรับ นักลงทุนที่มองการณ์ไกล โครงการโรงแรมจึงกลายเป็นอีกทางเลือกสำคัญ โดยเฉพาะในทำเลทองกลางเมือง ที่แม้ราคาที่ดินจะทรงตัว ไม่ได้พุ่งแรงเหมือนในอดีต แต่ยังมีศักยภาพต่อยอดให้เกิดรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว ผ่านการบริหารจัดการและการใช้เครื่องมือการเงินที่ยืดหยุ่น

ไม่ใช่เรื่องแปลก หากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะได้เห็นภาพโรงแรมใหม่ผุดขึ้นแทนคอนโดมิเนียมในหลายทำเลใจกลางเมือง เพราะในยุคที่ “ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน” การถือสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ อาจเป็นเกมที่คุ้มกว่าแค่รอขายขาดแล้วปิดจ๊อบ

ในบริบทเช่นนี้ โรงแรมจึงกลายเป็น “ทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งสองด้าน” คือ ทั้งในแง่ความต้องการของผู้ใช้ที่หลากหลาย และในมุมของนักลงทุนที่ต้องการกระแสรายได้มั่นคงในระยะยาว โดย "ไม่ยึดติด” กับรูปแบบการลงทุนแบบเดิมอีกต่อไป