'สิงห์ เอสเตท' ปิดการขาย 2 โครงการหรู มูลค่ารวม 3,000 ล้าน

'สิงห์ เอสเตท' ปิดการขาย 2 โครงการหรู มูลค่ารวม 3,000 ล้าน

สิงห์ เอสเตท ปิด 2 โครงการศิรนินทร์ฯ -เซนท์เทอร์ฯระดับลักชัวรีทำเล “พัฒนาการ” มูลค่า3,000 ล้าน พร้อมปูพรมเดินหน้โครงการรวมมูลค่ากว่า 24,000 ล้านบาททั่วกรุงเทพฯ

ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)ประกาศความสำเร็จในการปิดการขาย 2 โครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีในย่านพัฒนาการ ได้แก่ “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ” บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 28 ยูนิต และ “เซนท์เทอร์ พัฒนาการ” โฮมออฟฟิศ 3 ชั้นครึ่ง 4 ยูนิต รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ตอกย้ำความต้องการในกลุ่มตลาดบน และศักยภาพของดีไซน์ที่ผสานไลฟ์สไตล์กับคุณภาพชีวิตระยะยาว

“เราเชื่อว่าการอยู่อาศัยที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องพื้นที่ แต่คือประสบการณ์ชีวิตที่ส่งต่อความสุข ความสะดวก และคุณค่าทางจิตใจให้ทุกครอบครัว”
 

พัฒนาการ จุดตัดของดีไซน์และศักยภาพ

ทั้ง2โครงการตั้งอยู่ในย่าน “พัฒนาการ” ซึ่งนับเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกที่ยังคงมีความสงบ ร่มรื่น และใกล้โครงข่ายถนนหลักและรถไฟฟ้าหลายสาย ทำให้เป็นย่านที่ถูกจับตามองในกลุ่มบ้านเดี่ยวและโฮมออฟฟิศระดับลักชัวรี

ภายใต้แนวคิด “Craft to Last” ที่สิงห์ เอสเตท ยึดถือ ไม่ได้หมายถึงแค่การออกแบบที่สวยงามในระยะสั้น แต่คือการ “หล่อหลอมคุณภาพที่ยั่งยืน” ผ่านวัสดุ ฟังก์ชัน และการบริการหลังการขาย เพื่อให้บ้านเป็นทรัพย์สินที่ส่งต่อคุณค่าระยะยาวจากรุ่นสู่รุ่น

เดินหน้าพัฒนาอีก 24,000 ล้านทั่วกรุงเทพฯ

ความสำเร็จของ 2 โครงการบนถนนพัฒนาการ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการขยายตัวครั้งใหม่ของสิงห์ เอสเตท โดยบริษัทเตรียมเดินหน้าอีก 8 โครงการรวมมูลค่ากว่า 24,000 ล้านบาท กระจายตัวบนทำเลศักยภาพ เช่น

  • โครงการ สมิทธ์ เกษตร-นวมินทร์ มูลค่า1,300 ล้านบาท
  • โครงการฌอน ปัญญาอินทรา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Tropical Contemporary มูลค่า 1,800 ล้านบาท
  • โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36มูลค่า5,900 ล้านบาท
  • โครงการดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ มูลค่า4,000 ล้านบาท
  • โครงการ สริน พรานนก-กาญจนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่า4,300 ล้านบาท

โดยเฉพาะ  โครงการ สริน พรานนก-กาญจนา ถือเป็น “การผสมผสานระหว่างสุนทรียะของเมดิเตอร์เรเนียน” และ “แนวคิด Universal Design” ที่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันสำหรับทุกวัยและครอบครัวหลายเจเนอเรชัน

“ตลาดลักชูรีไม่ใช่แค่แข่งกันเรื่องความหรู แต่คือการแข่งขันในเรื่อง ‘คุณค่าที่สัมผัสได้จริง’ ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินความยั่งยืนของแบรนด์อสังหาฯ ในอนาคต”