เทรนด์ทำงานไฮบริดไทยโตแรง!องค์กรใช้พื้นที่ยืดหยุ่น-ลดต้นทุน

เทรนด์ทำงานไฮบริดไทยโตแรง!องค์กรใช้พื้นที่ยืดหยุ่น-ลดต้นทุน

IWG ชี้เทรนด์ทำงานไฮบริดไทยโตแรง องค์กร-คนรุ่นใหม่ปรับใช้พื้นที่ยืดหยุ่น-ลดต้นทุน สบช่องเสนอ Flexible Workspace เข้าไปเพิ่มมูลค่าให้ออฟฟิศ โรงแรม คอมมูนิตี้มอลล์

นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 เมื่อหลายปีก่อน รูปแบบการทำงานทั่วโลกก็เปลี่ยนโฉมอย่างรวดเร็ว พื้นที่สำนักงานแบบเดิมที่เคยเป็นหัวใจขององค์กร ถูกย้อนถามถึงบทบาทและความจำเป็น หลายบริษัทเริ่มปรับโครงสร้างเช่าสำนักงาน ลดขนาด และหันมาเลือกใช้ Flexible Workspace หรือพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซนทำงานร่วม (Co-Working) ห้องประชุมชั่วคราว หรือพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลหรือสถานที่ใกล้บ้าน เป็นที่มาของแนวคิด Hybrid solution ที่กำลังกลายเป็นกระแสทั่วโลก

มาร์ค เดโครแซลล์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแผนกตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก ของ IWG กล่าวว่า หลังวิกฤติโควิด-19 ผู้คนหันมาใช้เทคโนโลยี และเลือกรูปแบบ Flexible Workspace มากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) ส่งผลให้เกิดแนวโน้ม ไฮบริดโซลูชัน กระจายเป็นกระแสทั่วโลก
 

โดยเฉพาะในสหรัฐ อาคารสำนักงานลดลง แต่การ “ยูทิไลท์พื้นที่” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และประเทศไทยปรับตัวเร็วกว่าประเทศอื่นถึง 18 เดือน เนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจบริการ-ท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มดิจิทัลโนแมดที่เลือกทำงานจากหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต

“ธุรกิจเราค่อนข้าง Resilience โซลูชันหลากหลายตอบโจทย์ทั้งเศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง รวมทั้งการเมืองไม่มีผลกระทบ”

ในจังหวะแบบนี้ ระดับบริษัทและองค์กรเริ่มมองถึงการรักษาเสถียรภาพด้านต้นทุน พื้นที่เช่ายืดหยุ่นแบบ IWG จึงเป็นทางเลือกแรก โดยสามารถปรับขนาดสัญญาได้ทันที ตามสภาพแวดล้อม หากเศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าชะลอขยายพื้นที่ หรือลดขนาด ไม่ต้องแบกรับต้นทุนระยะยาว


 

"IWG รองรับความต้องการของลูกค้าทุกขนาด ทั้งในสภาวะเศรษฐกิจดีหรือชะลอตัว เช่น หากต้องการลดพื้นที่ ก็สามารถสลับมาใช้สัญญาเช่าระยะสั้นได้ทันที โดยมีแพ็กเกจตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึง 1 ปี"

ในส่วนของ Digital Transformation IWG มุ่งยกระดับประสิทธิภาพบริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า พร้อมจับมือพันธมิตรในวงการอสังหาริมทรัพย์ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงเรียน และคอมมูนิตี้มอลล์ นำแพลตฟอร์ม Flexible Workspace เข้าไปเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน เช่น Spaces Vanit Place Aree Regus Supalai ICON ย่านสาทร รวมถึง Spaces Kingbridge Tower พระราม 3 ซึ่งเป็นโมเดลระดับนานาชาติที่ดำเนินงานได้ยาวนาน ทำให้มีพาร์ตเนอร์ในต่างประเทศทำธุรกิจร่วมกันมายาวนานถึง 35 ปี 

บางสาขา IWG เข้าไปช่วยแก้ปัญหา (Pain Point) ให้ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงานที่ประสบปัญหาโอเวอร์ซัพพลายต้องการสร้างความแตกต่างด้วยการมี Flexible Workspace ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม และรองรับดีมานด์ใหม่ที่เข้ามาได้ หรือการเข้าไปอยู่ในโรงแรม เพื่อเพิ่มการให้บริการแก่ลูกค้า หรือการเข้าไปอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นต้น

“บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา ระยอง ภายใต้แนวคิด 15‑Minute City ให้การทำงานมีประสิทธิภาพและมีความสุขใกล้บ้าน โดยมุ่งใช้กลยุทธ์ที่ปรับเข้ากับบริบทท้องถิ่นแต่ละพื้นที่จากปัจจุบันมีอยู่ 55 แห่ง คาดว่าครึ่งแรกปี 2569 จะมี 61 สาขา”

ปัจจุบัน อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ให้บริการโซลูชันการทำงานแบบไฮบริด ภายใต้แบรนด์ Spaces, Regus และ HQ ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายพื้นที่ทำงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นลงทุนประเทศไทย ตลาดศักยภาพสูงด้านการทำงานแบบไฮบริด

“การเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานแบบไฮบริดกำลังเพิ่มความเร็วขึ้น เพราะธุรกิจต้องการพื้นที่ที่ไม่ใช่สำนักงานแบบเดิมและหันมาใช้พื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นแทน”

แนวคิดการทำงานแบบไฮบริดกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดแรงงานไทยและทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นคุณภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากช่วงก่อนโควิด สะท้อนจากตัวเลขการเปิดสาขาที่เติบโตแบบก้าวกระโดด

โดยเฉพาะธุรกิจของกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ต้องการสำนักงานที่ไม่ให้ความรู้สึกทำงานจนเกินไป สามารถพบปะกับคนในสายงานอื่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และไม่ต้องแบกรับต้นทุนค่าเช่าสูงเกินไป