หนี้ครัวเรือนสูงฉุดแรงซื้อทุบยอดโอน - หนีเจาะกลุ่มไฮเอนด์

หนี้ครัวเรือนสูงฉุดแรงซื้อทุบยอดโอน - หนีเจาะกลุ่มไฮเอนด์

ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง สะท้อนผลกระทบต่อยอดโอนกรรมสิทธิ์ อสังหาฯ หันขยับฐานลูกค้าสู่กลุ่มมีกำลังซื้อ เจาะกลุ่มไฮเอนด์ ขณะที่เซกเมนต์ล่างอ่อนแรง

ปี 2568 แวดวงอสังหาริมทรัพย์ กลับยังต้องเผชิญแรงกระแทกจาก “หนี้ครัวเรือน” ที่สะสมตัวมาอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลัง ส่งผลกระทบตรงต่อ “ยอดโอนกรรมสิทธิ์” โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับล่าง

จากข้อมูลวิเคราะห์ของ TerraBYTE แอปพลิเคชัน ในไตรมาส 1/2568 พบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวมอยู่ในภาวะ “ชะลอตัว” อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเซกเมนต์ บัดเจ็ทราคาต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท และอีโคโนมี ราคาตั้งแต่ 1.8-3 ล้านบาท ที่ไม่เพียงแค่ยอดเปิดตัวโครงการลดลงเท่านั้น แต่ยังเผชิญกับอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) ที่ลดลงเฉลี่ย 2% สะท้อนกำลังซื้อ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมา

“ตลาดคอนโดฯ เผชิญกับความท้าทายจากสินค้าคงค้าง และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้น”
 

 สุมิตรา วงศ์ภักดี  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทอร์ร่า มีเดีย แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด  กล่าวว่า  แนวโน้มนี้ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้อง “รีเซ็ต” กลยุทธ์ โดยเปลี่ยนจากการทำตลาดบัดเจ็ท และอีโคโนมี ไปสู่ ตลาดแมส ราคาตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท ที่แม้ราคาสูงขึ้น แต่กลุ่มลูกค้ากลับมี “คุณภาพการกู้” ที่ดีกว่า และอัตราการปฏิเสธสินเชื่ออยู่ในระดับไม่เกิน 20% ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ทำได้จริง

 บ้านแนวราบยืนหนึ่ง-เจาะตลาดกลาง-บน

สวนทางกับคอนโดมิเนียมตลาดบ้านแนวราบ โดยเฉพาะ “บ้านเดี่ยว” และ “บ้านแฝด” ในกลุ่มราคากลางถึงบน ยังสามารถเติบโตต่อเนื่อง และกลายเป็นตลาดหลักที่ยังมีดีมานด์จริง จากการสำรวจ พบว่า อัตราการดูดซับในกลุ่มบ้านแนวราบเพิ่มขึ้นในทุกระดับราคา โดยกลุ่มแมสขยับขึ้น 5% พรีเมียมเพิ่มขึ้น 8% และกลุ่มลักชัวรีพุ่งสูงถึง 19% ในขณะที่อีโคโนมีกลับลดลง 1%

“ผู้บริโภคมองหาบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต และมั่นใจในมูลค่าเพิ่มระยะยาว มากกว่าราคาที่ถูกในปัจจุบัน”  

สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ซื้อบ้านยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ คุณค่า (Value) มากกว่า  ราคา (price) และเลือกลงทุนในบ้านที่รองรับการใช้ชีวิตระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีรายได้มั่นคง และคุณสมบัติผ่านการพิจารณาสินเชื่อ
 

ทาวน์โฮมหรูพุ่งแรง-ดาวรุ่งตลาดใหม่

อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ของตลาด คือ ทาวน์โฮมระดับ ลักชัวรีราคาตั้งแต่ 9-15 ล้านบาท ที่กลายเป็น “ดาวรุ่ง” ในตลาดอสังหาฯ ด้วยยอดเปิดตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 16% และอัตราการดูดซับสูงสุดในทุกเซกเมนต์ที่ 35% ขณะที่ทาวน์โฮมพรีเมียมราคา 6-8 ล้านบาทก็โชว์ฟอร์มดีไม่แพ้กัน โดยยอดเปิดตัวเพิ่มขึ้น 20% และยอดขายเพิ่มขึ้น 6%

“ทาวน์โฮมหรูคือ คำตอบของคนเมือง ที่อยากได้ฟังก์ชันบ้านเดี่ยว แต่ยังอยู่ในโซนเข้าถึงง่าย”

ความสำเร็จของเซกเมนต์นี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย จากกลุ่มรายได้ต่ำที่กู้ไม่ผ่าน มาสู่กลุ่มกำลังซื้อระดับบนที่พร้อมจ่าย และต้องการบ้านที่ “คุ้มค่า” พร้อมดีไซน์ และบริการครบครัน

 ลักชัวรีอัด!ไม่ใช่ไม่มีเงิน แต่ชะลอการตัดสินใจ

แม้ตลาดบนจะยังเป็นกลุ่มที่มีแรงซื้อ แต่การตัดสินใจกลับเริ่มช้าลง โดยเฉพาะในกลุ่มลักชัวรี ทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว แม้จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการจะยังมาก แต่กลับใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้น  สะท้อนถึงความ “ระมัดระวัง” ที่เพิ่มขึ้นของผู้ซื้อ แม้จะมีกำลังจ่าย แต่ยังรอดูปัจจัยทางเศรษฐกิจ และนโยบายการเงินในระยะยาว

หนี้ครัวเรือนสูงฉุดแรงซื้อทุบยอดโอน - หนีเจาะกลุ่มไฮเอนด์

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในปี 2568 คือ นักพัฒนาอสังหาฯ “ลดจำนวน”โครงการเปิดใหม่ แต่กลับเพิ่ม “มูลค่าโครงการ” อย่างมีนัยสำคัญ โดยขยับเข้าสู่กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบนมากขึ้น ในสภาพแวดล้อมที่หนี้ครัวเรือนยังสูง และเงื่อนไขสินเชื่อยังเข้มงวด การโฟกัสที่คุณภาพของกลุ่มเป้าหมายแทนปริมาณ เป็นแนวทางที่ถูกต้องในเวลานี้

“หนี้ครัวเรือนส่งผลต่อตลาดอสังหาฯ มากกว่าจีดีพี เพราะกระทบตรงยอดโอน”

และนั่นคือ ความจริงที่นักพัฒนาอสังหาฯ ต้องยอมรับ และปรับกลยุทธ์ให้ทัน ก่อนคลื่นหนี้ลูกใหม่จะถาโถมเข้ามาอีกระลอก
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์