อสังหาฯจ่อฟื้นตัวหลังผู้บริโภคปรับพฤติกรรมหลังแผ่นดินไหว

DDproperty ชี้ซื้อ-เช่ายังเติบโต หนุนอสังหาฯจ่อฟื้นตัว โดยเฉพาะแนวราบและกลุ่มเช่าระดับบน เมื่อผู้บริโภคปรับพฤติกรรมหลังแผ่นดินไหว
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 เปิดฉากด้วยสัญญาณการฟื้นตัว แม้จะเผชิญแรงกระแทกจากเหตุแผ่นดินไหวที่เมียนมาเมื่อปลายมีนาคม แต่พฤติกรรมผู้บริโภคกลับสะท้อนการปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญ นำโดยความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบที่พุ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลล่าสุดจาก DDproperty แพลตฟอร์มซื้อ-ขายอสังหาฯ รายใหญ่ เผยให้เห็นว่าจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์เดือนเมษายนเพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนความสนใจในตลาดที่อยู่อาศัยยังคงแข็งแรง ท่ามกลางความผันผวนทั้งจากปัจจัยภายนอกและความกังวลด้านความปลอดภัย
“แม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่ผู้บริโภคยังคงมองหาโอกาสในการครอบครองที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านแนวราบที่ตอบโจทย์ด้านความมั่นคงและการใช้ชีวิต”
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนหลังแผ่นดินไหว
คอนโดฯสะเทือน แนวราบรับอานิสงส์ ความต้องการซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ ลดลง 14% จากเดือนก่อน ขณะที่บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมกลับเพิ่มขึ้น 8% และ 6% ตามลำดับ เหตุผลหลักคือความกังวลด้านความปลอดภัยของอาคารสูงหลังเกิดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
กลุ่มราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปเริ่มขยับ
แม้ผู้ซื้อกว่า 46% ยังมองหาบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท แต่ระดับราคาที่เติบโตเร็วที่สุดคือกลุ่มเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 6% เปรียบระหว่างเดือนที่ผ่านมา ( Month on Month:MoM) สะท้อนสัญญาณดีในตลาดระดับบน
ตลาดเช่าโตแรง โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียม
ความต้องการเช่าทุกรูปแบบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทาวน์โฮมที่โต 31% MoM ส่วนระดับค่าเช่าที่สูงกว่า 30,000 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้นถึง 28% MoM สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในทำเลและคุณภาพชีวิต
“ตลาดเช่ายังมีแรงหนุนจากกลุ่มมืออาชีพและต่างชาติที่มองหาทางเลือกการอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น”
แม้ปี 2568 จะเริ่มต้นด้วยแรงสั่นสะเทือนเชิงกายภาพ แต่ในมุมของตลาดอสังหาฯ กลับเป็นปีที่ผู้บริโภคเริ่มปรับพฤติกรรมและมองหา ‘ความมั่นคงใหม่’ ผ่านรูปแบบการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ยุคหลังโควิดและภัยธรรมชาติ ความยืดหยุ่นจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของพื้นที่อีกต่อไป แต่รวมถึงความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นี่ไม่ใช่เพียงโอกาสของผู้บริโภค แต่คือจังหวะที่ผู้ประกอบการต้องอ่านเกมให้ออก และปรับตัวให้เร็ว







