“เสนาฯ” ปรับมาตรฐานอสังหาฯไทยสู่ระดับโลกด้วยสูตรญี่ปุ่น

“เสนาฯ” ปรับมาตรฐานอสังหาฯไทยสู่ระดับโลกด้วยสูตรญี่ปุ่น

เสนาฯจับมือ “ฮันคิวฮันชิน” พลิกโฉมการพัฒนาอสังหาฯไทย ผ่านแนวคิด Geo Fit+ และ Geo Check+ 5 ขั้นตอน สร้างมาตรฐานใหม่เพื่อความปลอดภัยและชีวิตที่ดีของลูกบ้านในทุกมิติ

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เผยแนวทางใหม่ในการยกระดับมาตรฐานโครงการที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อ “SENA Next Level Standard” ที่ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดการตลาด แต่เป็นกรอบการทำงานจริง ตั้งแต่การออกแบบ วางแผนก่อสร้าง จนถึงการส่งมอบโครงการ ผ่านการฝึกอบรมทีมงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นอย่างเข้มข้น

Geo Fit+ ถึง Geo Check+ ยกระดับด้วยความเข้าใจ-ควบคุมคุณภาพ 5 ขั้นตอนเสนานำแนวคิด Geo Fit+ ซึ่งมุ่งออกแบบโดยเข้าใจไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค มาเชื่อมต่อกับ Geo Check+ ซึ่งเป็นระบบบริหารคุณภาพการก่อสร้าง 5 ขั้นตอนของ HHP ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการวางแผน การควบคุมหน้างาน และการตรวจสอบก่อนส่งมอบ เพื่อให้บ้านทุกหลังผ่านมาตรฐานเดียวกับญี่ปุ่น

การถ่ายทอดองค์ความรู้จะเริ่มต้นด้วยการอบรมเข้มข้นในเดือนมิ.ย.นี้ โดยครอบคลุมทีมหลักทั้งหมดของเสนา ตั้งแต่ฝ่ายพัฒนาโครงการ ก่อสร้าง จนถึงทีมดูแลลูกค้าและนิติบุคคล เพื่อให้ “มาตรฐาน” กลายเป็น “วัฒนธรรมองค์กร” อย่างแท้จริง

“เสนาฯ” ปรับมาตรฐานอสังหาฯไทยสู่ระดับโลกด้วยสูตรญี่ปุ่น

3 แกนขับเคลื่อน SENA Next Level Standard: มั่นใจ–ใส่ใจ–ยั่งยืนเสนาวางแผนพัฒนาภายใต้ 3 เสาหลัก คือ

 • SENA TRUST: ยกระดับคุณภาพก่อสร้างและออกแบบเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ โดยเพิ่มอุปกรณ์ฉุกเฉิน ห้องปลอดภัย และระบบเตือนภัยพื้นฐานที่หยิบยืมแนวคิดจากญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ในไทย
 • SENA CARE: นำเทคโนโลยี เช่น SENA 360 และ SMARTIFY HOME มาช่วยบริหารชีวิตลูกบ้าน พร้อมทีม SenX ที่ยกระดับการจัดการนิติบุคคลด้วยคู่มือเตรียมภัยฉุกเฉินแบบญี่ปุ่น แถมเพิ่มบริการ ELITE SERVICES เสมือนโรงแรม 5 ดาว
 • SENA LOW CARBON: เดินหน้ายุทธศาสตร์ “บ้านพลังงานสะอาด” ด้วยโซลาร์รูฟ+แบตเตอรี่ในทุกโครงการ และวางเป้าหมายสู่บ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House)
 

จาก 9 ปีของความร่วมมือ สู่ก้าวใหม่ของอสังหาฯไทยกว่า 9 ปีที่เสนาและ HHP เดินหน้าร่วมพัฒนาโครงการกว่า 66 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 83,000 ล้านบาท วันนี้ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ก้าวไปอีกขั้น

โดยเสนาเตรียมเดินหน้าพัฒนา 12 โครงการใหม่ มูลค่า 13,000 ล้านบาท หวังยอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,000 ล้านบาทในปี 2568