ค่าก่อสร้างบ้าน Q1/68 ขยับ 2% 'ระบบไฟฟ้า-สุขภัณฑ์' ดันต้นทุนพุ่ง

ราคาค่าก่อสร้างบ้านขยับต่อเนื่อง ไตรมาสแรกปี 2568 พุ่งขึ้น 2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ต้นทุน “ระบบไฟฟ้า-สุขภัณฑ์” ปรับตัวแรง ขณะ “เหล็ก-ไม้” ลดลง
การขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 สะท้อน“แรงกดดัน”จากหลายทิศทาง ทั้งด้านวัสดุก่อสร้าง ค่าจ้างแรงงาน และค่าใช้จ่ายด้านระบบอาคาร โดยล่าสุด ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงาน “ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน” อยู่ที่ระดับ 140.2 จุด เพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาสก่อน และขยับขึ้น 2.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จุดเปลี่ยนต้นทุน “ไฟฟ้า-สุขภัณฑ์”นำโด่ง
หากแยกตาม หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ จะเห็นได้ชัดว่างาน ระบบไฟฟ้าและสื่อสาร มีอัตราค่าตอบแทนพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 10.7% YoYถัดมาคือ งานสถาปัตยกรรม +2.3%ขณะที่ ระบบสุขาภิบาล เป็นหมวดเดียวที่ปรับลดลง -0.8%ด้าน หมวดวัสดุก่อสร้าง พบว่ากลุ่มสุขภัณฑ์และกระเบื้อง เป็นตัวผลักดันหลักสุขภัณฑ์ พุ่งขึ้นแรงถึง 9.5%กระเบื้อง +8.6%อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา +7.4%โดยปัจจัยที่กระตุ้น“ต้นทุนหลัก”มาจากราคาดีเซลที่ยังทรงตัวสูง รวมถึงความต้องการวัสดุก่อสร้างจากโครงการซ่อมแซมหลังเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่
ราคาวัสดุกลุ่มเหล็ก–ไม้ กลับหัวลง
ท่ามกลางต้นทุนหลายรายการที่พุ่งทะยาน เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก กลับปรับลดลงอย่างชัดเจน -7.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากแรงกดดันของ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน ที่ยังไม่มีจุดจบ ส่งผลให้ราคาเหล็กในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ลดลงเล็กน้อย -0.4% จากภาวะชะลอตัวของตลาดในประเทศ
แรงงานก่อสร้างขยับตามค่าแรงขั้นต่ำใหม่
ในฝั่งของ “ค่าแรงงาน” พบว่าปรับขึ้นตามมติปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 372 บาทต่อวัน มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 ส่งผลให้ค่าแรงในหมวดก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.1% YoY สะท้อนถึงภาระต้นทุนที่ผู้พัฒนาโครงการและเจ้าของบ้านต้องเผชิญมากขึ้น
แม้การเพิ่มขึ้นของดัชนีจะดู “น้อย” ในภาพรวมเพียง 0.2–2.0% แต่หากเจาะลึกในแต่ละหมวด จะพบว่าโครงสร้างต้นทุนก่อสร้างบ้านยังอยู่ภายใต้แรงดันจากทั้งต้นทุนวัสดุ ค่าแรง และค่าระบบอาคาร ที่ทยอยสะสมขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ราคาวัสดุบางรายการเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลาย สะท้อนถึง “จุดสมดุลใหม่” ที่อุตสาหกรรมต้องปรับตัวให้ทัน







