ทุนไทย-จีนผนึกกำลัง ปักหมุด “ในทอน” สร้างอาณาจักรหรูภูเก็ต

ทุนไทย-จีนผนึกกำลัง ปักหมุด “ในทอน” สร้างอาณาจักรหรูภูเก็ต

"บีสตาร์ เฮฟเว่น"ทุนไทยร่วมทุนจีน ปักหมุด “ในทอน” สร้างอาณาจักรอสังหาฯภูเก็ต ผงาดสู่ “มินิ ลากูน่า” รองรับดีมานด์เศรษฐีต่างชาติ

กลุ่มมโนธรรมรักษา” เร่งปักหมุดพัฒนาอาณาจักรอสังหาฯ หาดในทอน ภูเก็ต หลังผนึกทุนจีนขยายโครงการคอนโดฯ-วิลล่าหรู ดึงเชน WYNDHAM เสริมความเชื่อมั่น ลุยเปิดโครงการใหม่กว่า 1,000 ล้านบาทใน 2 ปี หวังปั้น  ‘มินิลากูนา’ จุดหมายใหม่ของนักลงทุนโลก

จากธุรกิจครอบครัวสู่อาณาจักรอสังหาฯพันล้าน

ในวันที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตกำลังร้อนแรงที่สุดในรอบหลายปี “กลุ่มมโนธรรมรักษา” กลายเป็นชื่อที่นักลงทุนในและต่างประเทศเริ่มกล่าวถึงบ่อยขึ้น โดยเฉพาะในแวดวงที่จับตาการเติบโตของทำเล “หาดในทอน” ชายฝั่งเงียบสงบแต่ทรงพลังที่กำลังถูกปักหมุดใหม่ของนักพัฒนาอสังหาฯ

กว่าทศวรรษที่ผ่านมา “ทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา” ผู้ก่อตั้งกลุ่มมโนธรรมรักษา ได้ทยอยสะสมที่ดินย่านหาดในทอนทั้งในรูปแบบการซื้อและเช่าระยะยาวจนกลายเป็นแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ ถือครองที่ดินรวมกว่า 80 ไร่ ขณะที่ทายาทรุ่นสอง “วีระวิทย์ มโนธรรมรักษา” รองประธานบริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด กำลังต่อยอดความฝันครั้งใหญ่ สร้างให้ที่ดินผืนนี้กลายเป็น “มินิลากูนา” แห่งใหม่ของภูเก็ต
 

จิ๊กซอว์ไทย-จีน พลิกหาดในทอนสู่ “จุดหมายใหม่” ของเศรษฐีโลก

หัวใจสำคัญของการเติบโต ไม่ได้อยู่แค่ที่ทำเลหรือแนวคิด แต่คือ “พาร์ตเนอร์” ที่ใช่ ! การจับมือกับกลุ่มทุนจีน “Bestart International Holdings” ที่มีสำนักงานในสิงคโปร์ ช่วยเร่งสปีดการพัฒนา และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ

ทุนไทย-จีนผนึกกำลัง ปักหมุด “ในทอน” สร้างอาณาจักรหรูภูเก็ต

ภายใต้แบรนด์ “Seaheaven Phuket Naithon” คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ถูกทยอยเปิดตัวเป็นเฟสอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2562 ทั้งหมดมูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันเฟสที่ 1 และ 2 ขายเกือบหมดแล้ว และเฟส 3 มียอดจองกว่า 69% โดยมีจุดขายชัดเจนคือ การันตีผลตอบแทน 7% ต่อปี พร้อมดึงเชนระดับโลกอย่าง “WYNDHAM” เข้ามาบริหารจัดการโครงการ

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน เศรษฐีรัสเซียและยุโรปตะวันออกที่ต้องการบ้านพักตากอากาศปลอดภัยหลังวิกฤตสงคราม รวมถึงนักลงทุนจากจีน อินเดีย และสแกนดิเนเวีย ที่มองหาผลตอบแทนระยะยาวและสิทธิในการพักอาศัยบางช่วงของปี
 

ในทอนทำเลอสังหาฯดาวรุ่งบนเกาะภูเก็ต

จากข้อมูลของ Colliers Thailand พบว่าทำเล “หาดในทอน” ยังคงมีอุปทานคอนโดฯ และบ้านพักตากอากาศต่ำมาก คิดเป็นเพียง 2-3% ของตลาดภูเก็ตทั้งหมด ท่ามกลางการหลั่งไหลของอุปทานใหม่ทั่วทั้งจังหวัดที่มียูนิตเปิดขายสูงถึง 20,000 ยูนิตในช่วงสองปีที่ผ่านมา

นอกจากศักยภาพด้านที่ดินและความสงบเงียบย่านชายฝั่งแล้ว จุดแข็งที่มองไม่เห็นคือ “ช่องทางการขาย”วีระวิทย์ย้ำว่า 70% ของตลาดอสังหาฯภูเก็ตต้องอาศัย “เอเยนต์” ที่ไว้วางใจแบรนด์และคุณภาพของโครงการ ซึ่ง “ซีเฮฟเว่น” ผ่านด่านนั้นมาแล้ว พร้อมด้วยโครงการที่มีใบอนุญาตถูกต้อง ก่อสร้างตามมาตรฐานแผ่นดินไหวถึง 7.7 แมกนิจูด

ทุนไทย-จีนผนึกกำลัง ปักหมุด “ในทอน” สร้างอาณาจักรหรูภูเก็ต

ขยายพอร์ตครบวงจรจากวิลล่าหรูสู่มิกซ์ยูสใน 2 ปี

เมื่อ Seaheaven กลายเป็นโปรเจกต์แม่เหล็กที่ทำให้เศรษฐีทั่วโลกหันมามองในทอน “กลุ่มมโนธรรมรักษา” เดินหน้ารุกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2568 นี้ เตรียมเปิดตัว “ภูวิสต้า แอร์พอร์ต” วิลล่าหรู 44 ยูนิต ใกล้สนามบิน บนพื้นที่ 15 ไร่ มูลค่า 800 ล้านบาท และในปี 2569 วางแผนเปิดโครงการมิกซ์ยูส “แซง โทเปซ” (Saint Tropez) คอนโด 7 ชั้น มูลค่าอีก 450 ล้านบาท

ทั้งหมดล้วนเป็นการพัฒนา 100% โดยกลุ่มมโนธรรมรักษา ไม่ต้องพึ่งทุนร่วมในระยะนี้ หลังมีฐานทุนมั่นคง และประสบการณ์การพัฒนาโครงการตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

“มินิลากูนา”  รุกตลาดBlue Ocean

แม้ภูเก็ตจะเต็มไปด้วยยักษ์ใหญ่ในตลาดอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการระดับโลกอย่าง ลากูน่า ภูเก็ต ที่ย่านบางเทา แต่กลุ่มมโนธรรมรักษามั่นใจว่าความได้เปรียบของตนอยู่ที่ “การไม่เล่นใน Red Ocean”

“ทำเลคือหัวใจ และหาดในทอนคือเพชรเม็ดงามที่ยังไม่ถูกเจียระไนเต็มที่” นายวีระวิทย์ กล่าว พร้อมย้ำว่า อาณาจักรทั้ง 80 ไร่แห่งนี้ จะค่อย ๆ เติบโตเป็น

 “ไทย-จีน” โมเดลลงทุนอสังหาฯ ยุคใหม่

กรณีศึกษาของ “กลุ่มมโนธรรมรักษา” และ “Bestart” คือบทพิสูจน์รูปแบบความร่วมมือระหว่างทุนท้องถิ่นกับทุนจีน ที่ไม่ได้จบแค่การใส่เงิน แต่ยังผสานการบริหารแบบ Local Insight กับเงินทุนและเครือข่ายขายของต่างประเทศ โมเดลที่หลายกลุ่มอสังหาฯในไทยเริ่มหันมาศึกษา

การเปิดประเทศและการเร่งเปิดเมืองในยุคหลังโควิด ทำให้ตลาดอสังหาฯระดับลักชัวรีในจังหวัดท่องเที่ยว กลายเป็น “สนามลงทุน” ที่จีนไม่เพียงแค่มองหา “กำไร” แต่ยังมองหา “พาร์ตเนอร์ที่เชื่อถือได้” และภูเก็ต กำลังกลายเป็นจุดบรรจบของเป้าหมาย


การเติบโตของ “ซีเฮฟเว่น” ในหาดในทอน อาจเป็นมากกว่าแค่โปรเจกต์อสังหาฯ แต่คือสัญญาณของ “การเปลี่ยนขั้ว” ของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดท่องเที่ยว โดยมี “ทุนไทย-ทุนจีน” เป็นพลังขับเคลื่อนหลัก และมีเศรษฐีทั่วโลกเป็นผู้เล่นใหม่ในกระดานเกมนี้