'ในทอน' ทำเลดาวรุ่งภูเก็ตที่ดินวิ่งไม่หยุดใกล้หาดพุ่งไร่ละ50ลบ.

“ในทอน” หนึ่งในทำเลดาวรุ่งบนเกาะภูเก็ตที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งไทย-ต่างชาติจับตามอง ซัพพลายน้อยดันราคาที่ดินวิ่งไม่หยุดใกล้ชายหาดพุ่งไร่ละแตะ50ล้าน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตกลายเป็นสนามแข่งขันใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อจากต่างประเทศที่มองหาทำเลพักผ่อนริมทะเลควบคู่กับโอกาสการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ซึ่งในบรรดาหาดชื่อดังมากมายบนเกาะแห่งนี้ หนึ่งในทำเลที่กำลังส่องแสงเจิดจ้าและเริ่มถูกกล่าวถึงอย่างจริงจังคือ “หาดในทอน”
จากข้อมูลของแผนกวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ในไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศรวมกว่า 45 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 49,160 ล้านบาท โดยแนวโน้มปีนี้ ตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังคงร้อนแรง แม้จำนวนยูนิตเปิดขายใหม่จะลดลงมาอยู่ที่ 8,000-10,000 ยูนิต จากที่สูงถึง 20,000 ยูนิตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
สิ่งที่น่าสนใจคือ “ในทอน” กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ทำเลที่ยังมีศักยภาพการเติบโตสูง แต่ยังไม่เผชิญการแข่งขันรุนแรง โดยปัจจุบันมีคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการขายเพียง 2 โครงการ รวม 820 ยูนิต คิดเป็นแค่ 2.18% ของอุปทานทั้งหมดในตลาด และวิลล่าเพียง 6 โครงการ 113 ยูนิต หรือ 2.75% ของตลาดบ้านพักตากอากาศ
ดีมานด์ทะลักอุปทานน้อยหนุนราคาพุ่ง
กลุ่มลูกค้าหลักที่ขับเคลื่อนดีมานด์ในย่านในทอนคือ นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะ “เศรษฐีรัสเซีย” ซึ่งหลั่งไหลเข้ามาเพราะต้องการหนีภัยสงคราม ขณะที่กลุ่มจากยุโรป สแกนดิเนเวีย จีน และอินเดีย ก็มองหาทั้งบ้านหลังที่สอง และการลงทุนแบบ Leasehold ระยะยาว 30 ปี ซึ่งได้รับความนิยมสูงในกลุ่มต่างชาติ
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนไทยระดับไฮเอนด์ก็เริ่มเข้ามาจับจองที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เพิ่มขึ้น โดยเน้นไปที่โครงการที่เน้นความเป็นส่วนตัว สงบ ใกล้ทะเล และมีระบบการบริหารจัดการดี โดยมักมองหาโครงการที่สามารถปล่อยเช่าหรือสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต
ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของในทอนคือ ทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพียง 10-15 นาที และยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ทั้งสนามกอล์ฟ โรงแรมห้าดาว และร้านอาหารชั้นนำราคาที่ดินจึงไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ดินเชิงเขาอยู่ที่ 15-30 ล้านบาทต่อไร่ ส่วนที่ดินใกล้ชายหาดพุ่งแตะระดับ 25-50 ล้านบาทต่อไร่ ซึ่งสะท้อนความร้อนแรงของความต้องการในตลาดอย่างชัดเจน
ในทอนทำเลศักยภาพ ไม่ใช่ Red Ocean
ในขณะที่บางพื้นที่ในภูเก็ตกลายเป็นตลาดแดงเดือด หรือ Red Ocean จากการแย่งชิงพื้นที่และลูกค้า แต่ในทอนกลับยังคงรักษา “พื้นที่ว่างเชิงกลยุทธ์” ให้กับผู้เล่นใหม่ที่มีสายตายาวไกลและกล้าลงทุน หลายโครงการที่เปิดขายไปก่อนหน้า เช่น วิลล่าหรูระดับ 100 ล้านบาทต่อยูนิต ก็ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน สะท้อนถึงความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อระดับบนที่ยังแข็งแกร่ง
ยิ่งเมื่อประกอบกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในภูเก็ต โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวระยะยาว หรือ Long Stay และกลุ่มผู้เกษียณต่างชาติ ยิ่งทำให้ “ในทอน” กลายเป็นทำเลที่ไม่เพียงน่าจับตามองในวันนี้...แต่ยัง “มีแต้มต่อในวันข้างหน้า”
หาดในทอนกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ด้วยความได้เปรียบด้านทำเล ความสงบเป็นธรรมชาติ และความพร้อมรองรับกลุ่มทุนต่างชาติที่กำลังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ นักลงทุน หรือผู้ซื้อบ้านพักตากอากาศ...โอกาสใน “ในทอน” กำลังโบกมือให้คนที่มองเห็นก่อนใคร