UHG พลิกสำนักงานปั้น‘โรงแรม’ กำไร 3 เท่า! โอเวอร์ซัพพลาย

UHG พลิกกลยุทธ์แก้เกมออฟฟิศโอเวอร์ซัพพลาย ปรับฟังก์ชันกลายเป็น‘โรงแรม’ นำร่อง 200 ห้อง เดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าวดีลูกคิดแล้วกำไรเพิ่ม 3 เท่า!
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่านใจกลางเมืองเริ่ม “อิ่มตัว” ขณะที่ตลาดอาคารสำนักงานต้องเผชิญความท้าทายจากภาวะอุปทานล้นเกิน (oversupply) หนึ่งในผู้เล่นที่สามารถ “หันหัวเรือ” ได้ทันสถานการณ์ เออร์เบิน ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หรือ UHG ด้วยแนวทางคิดที่ไม่ยึดติดกับ “รูปแบบดั้งเดิมของทรัพย์สิน” และการอ่านสัญญาณตลาดอย่างเฉียบคม
UHG กำลังปักหมุดกลยุทธ์ใหม่ที่ไม่เพียงแค่ “เปลี่ยนทำเล” แต่ยัง “เปลี่ยนฟังก์ชัน” สินทรัพย์เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคงอีกด้วย
พลิกเกมจาก CBD สู่ “ไข่ขาวเมืองกรุง”
ในขณะที่ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังคงยื้อกันบนพื้นที่ทองคำย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) อย่างสีลม สาทร อโศก วุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ UHG กลับเลือกก้าวออกมายืนบนรอยต่อของเมือง ในพื้นที่ที่พวกเขานิยามว่า “ไข่ขาวของกรุงเทพฯ” หรือพื้นที่รอบนอกที่ยังไม่ถูกใช้จนเต็มศักยภาพ แต่เชื่อมต่อเมืองได้อย่างสะดวกสบายผ่านโครงข่ายรถไฟฟ้า
“เราไม่ได้มองแค่การท่องเที่ยว แต่มองการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมคนเมืองในอีก 5-10 ปีข้างหน้า”
เพราะทำเลรอบนอกในแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ เช่น สายสีส้ม และส่วนต่อขยายของสายสีน้ำเงิน คือหัวใจของแผนขยายธุรกิจในเฟสถัดไป แม้จะอยู่นอกโซนศูนย์กลางธุรกิจ แต่ “ไข่ขาว” กลับมีองค์ประกอบครบ ทั้งที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร ชุมชนท้องถิ่น และต้นทุนที่ดินที่ยังคุมได้ ช่วยให้ UHG เดินเกมระยะยาวโดยไม่แบกรับความเสี่ยงเกินตัว
ปรับทรัพย์สินเปลี่ยนฟังก์ชันจากออฟฟิศสู่โรงแรม
หัวใจของยุทธศาสตร์ใหม่ของ UHG ไม่ได้อยู่แค่ “ที่ไหน” แต่คือ “อย่างไร” ท่ามกลางภาวะตลาดอาคารสำนักงานซบเซา บริษัทเลือกใช้กลยุทธ์ “Asset Conversion” หรือการดัดแปลงการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วให้ตอบโจทย์มากกว่าเดิม ยกตัวอย่าง การปรับพื้นที่สำนักงานกว่า 7,000 ตารางเมตร ภายในโครงการ “เดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว” ซึ่งเดิมถูกใช้เป็นออฟฟิศเช่า ให้กลายเป็นโรงแรมขนาด 200 ห้องเต็มรูปแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2569
“จากเดิมรายได้สำนักงานเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 50 ล้านบาท เมื่อปรับเป็นโรงแรม คาดรายได้แตะ 160 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า”
โดยการลงทุนครั้งนี้ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท และสะท้อนภาพรวมของโมเดลธุรกิจ UHG ที่เน้นสร้าง “ผลตอบแทนที่ยั่งยืน” จากการบริหารสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์

Hybrid Hospitality ทางรอดโรงแรมยุคใหม่
ภายใต้แบรนด์ “The Quarter” โรงแรมของ UHG ไม่ใช่แค่ที่พัก แต่คือ “พื้นที่ใช้ชีวิต” แบบไฮบริดที่ผสานความเป็นที่พัก โรงแรม และ Co-Working Space ไว้ในที่เดียว รองรับกลุ่มนักเดินทางยุคใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่น ทั้งในการทำงานและพักผ่อนที่ใช้ระยะเวลาในการพักยาวขึ้น
จากข้อมูลภายใน บริษัทพบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป ซึ่งกลับเข้ามาไทยต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2566 เริ่มหันมาเลือกโรงแรมที่มีบริการระยะยาว (Long Stay) มากขึ้น 4-7 คืนต่อทริป ขณะที่กลุ่มครอบครัวมองหาห้องพักแบบ Family Room ซึ่ง UHG ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในโครงการ The Quarter ที่ทยอยปรับห้องและบริการใหม่ให้สอดรับเทรนด์นี้
“โรงแรมไม่ได้แข่งกันแค่เรื่องราคา แต่แข่งกันที่ความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้เข้าพักทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ”
ขยายพอร์ตเติบโตจากฐานแข็งแกร่ง
ปัจจุบัน UHG มีโรงแรมในเครือ 18 แห่ง รวมกว่า 3,000 ห้อง พื้นที่สำนักงานให้เช่ารวมกว่า 50,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังเดินหน้าเปิดตัวโครงที่มีอาคารสำนักงานภายใต้แบรนด์ “ฮิลล์” อีก 3 แห่ง คือ ฮิลล์ รัชโยธิน ฮิลล์ รามคำแหง และฮิลล์ สุขุมวิท แม้ในภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานจะไม่สดใส แต่ UHG ยังคงมองเห็นโอกาส! โดยเร่งอัตราการเช่าและปรับรูปแบบบริการให้ตอบโจทย์องค์กรขนาดเล็กถึงกลางที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น
ปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัททำรายได้รวม 3,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 668 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 20% และตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 2-5% ในปี 2568 ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง
UHG ไม่ได้แค่เปลี่ยนสำนักงานให้กลายเป็นโรงแรม แต่กำลังเปลี่ยน “วิธีคิด” ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ยุทธศาสตร์ครั้งนี้สะท้อนบทเรียนสำคัญว่า การยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ ของทรัพย์สิน อาจ ”ไม่ใช่” ทางรอดในวันที่โลกเปลี่ยนเร็วเกินคาด จากออฟฟิศให้กลายเป็นโรงแรมที่สร้างกำไร 3 เท่า ”ไม่ใช่” เพราะโชคช่วย แต่เพราะการอ่านเกมอย่างแม่นยำ