Cloud11ฮับครีเอเตอร์ใหญ่หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยปลุกเศรษฐกิจ

Cloud11 โปรเจกต์4.3หมื่นล้านคอนเทนต์ครีเอเตอร์ใหญ่สุดเอเชีย หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยปลุกพลังเศรษฐกิจระดับโลก เร่งสปีดจับมือกับพันธมิตรระดับโลก
เมื่อ “พื้นที่” กลายเป็น “แรงบันดาลใจ” และอสังหาริมทรัพย์กำลังนิยามบทใหม่ให้กับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอดีต...ย่านปุณณวิถี-อุดมสุข อาจเป็นเพียงพื้นที่พักอาศัยชานเมืองที่ผู้คนใช้เป็นทางผ่านไปยังจุดหมายอื่น แต่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่นี่กำลังจะกลายเป็น “จุดหมาย” ของทั้งเอเชีย สำหรับเหล่าครีเอเตอร์ นักสร้างสรรค์ นักดนตรี ผู้กำกับ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง
Cloud 11 คือโครงการที่ไม่ใช่แค่ “มิกซ์ยูส” ธรรมดา แต่เป็นการวางหมากบนกระดานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creator Economy) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดย MQDC เจ้าของโปรเจกต์ระดับหมื่นล้านบาท ประกาศวิสัยทัศน์ชัดเจนว่าจะเปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ให้เป็น Creative Destination สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์อย่างแท้จริง
จุดเริ่มต้นของอนาคตที่ไม่ได้รอใคร
องศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11 บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดี แต่ในแง่ของธุรกิจรีเทลซัพพลายในทำเลสุขุมวิท 101/1 ยังมีน้อย คนที่อยู่กลางใจเมืองบางนา จนถึงกม.7 มีกำลังซื้อสูง จึงพยายามที่ต่อยอดและเป็นดีมานด์ที่สามารถจับต้องได้ จึงสามารถที่เติมซัพพลายใหม่เข้ามาได้
“แม้เศรษฐกิจจะชะลอ แต่ดีมานด์ในย่านสุขุมวิท 101/1 ยังร้อนแรง และนี่คือช่วงเวลาที่เราต้อง เติมซัพพลาย”
การลงทุนที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลและความเข้าใจผู้บริโภคคือจุดแข็งของ MQDC ซึ่งมองเห็นโอกาสในพื้นที่ที่ supply ยังไม่ถึง พร้อมฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงจากบางนาไปถึงกม.7 และนั่นทำให้ Cloud 11 ไม่ใช่แค่การสร้างอาคาร...แต่คือการ “ต่อยอด ecosystem” ที่จะสร้างอุตสาหกรรมบันเทิงใหม่ของไทย
ตัวเชื่อมของ Collaboration
“ธุรกิจครีเอเตอร์วันนี้ไม่ใช่การแข่งขันแบบ zero-sum เหมือนร้านกาแฟอีกต่อไป...แต่คือเรื่องของการร่วมมือกัน” พอล สิริสันต์ กรรมการผู้จัดการโครงการ Cloud 11
Cloud 11 ไม่ได้คิดแค่พื้นที่ให้เช่า แต่คิดถึง วิธีทำให้พื้นที่นั้นทำงานร่วมกันได้ดีที่สุด ด้วยแนวคิดลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ อย่างการสร้าง studio production ให้ใช้ร่วมกันได้ ลดขนาดพื้นที่เช่าจาก 5,000 ตร.ม. เหลือเพียง 3,000 ตร.ม. โดยยังคงประสิทธิภาพการทำงานเต็มที่
ที่นี่จะมีทั้งตึกสำหรับเช่าระดับองค์กรไปจนถึงสตูดิโอสำหรับ SME และนักสร้างสรรค์อิสระ พร้อมฟีเจอร์ที่เอื้อให้เกิดการ cross collaboration ระหว่างค่ายเพลง ค่ายหนัง สตูดิโอแอนิเมชัน และบริษัทคอนเสิร์ต เหมือนกับว่า Cloud 11 กำลังสร้าง “ห้องเรียน” แห่งอนาคตของวงการบันเทิง
ไม่ใช่แค่ตึก...แต่คือจุดเปลี่ยนของวงการ
หนึ่งในหมากสำคัญที่ Cloud 11 วางไว้ คือการจับมือกับพันธมิตรระดับโลก ทั้ง SM Entertainment, CJ ENM จากเกาหลีใต้ และสถาบัน 1500 Sound Academy เพื่อเปิดโรงเรียนเสริมทักษะศิลปินแห่งแรกในไทย พร้อมเปิดทางให้ค่ายเพลงไทยก้าวเข้าสู่ระบบนิเวศใหม่ของอุตสาหกรรมแบบครบวงจรเป้าหมายของโครงการ ไม่ใช่แค่ให้เช่าพื้นที่…แต่คือการสร้าง “โครงข่ายแห่งการเติบโต” ที่ยั่งยืนในระยะยาว
จากประสบการณ์การทำงานในวงการเอนเตอร์เทนเมนต์ นายพอล กล่าวว่า หนังเรื่องนึงโปรดักชั่นนะครับเรื่องนึง มันไม่ได้แข่งกันโดยตรงเหมือนธุรกิจกาแฟ ไม่ได้เป็นคู่แข่งกันใน the end product การทำงานต้องเน้น collaboration ไม่ว่าจะเป็นค่ายเพลง ค่ายแอนิเมชัน ศิลปินจัดคอนเสิร์ตร่วมกัน แตกต่างจากสมัยก่อนที่ต่างคนต่างทำไม่ได้ค่อยมาเจอกัน
"วันนี้โลกของมีเดียเปลี่ยน คุณทําหนังคุณต้องมีเพลงคุณต้องมีเพลงหนังคุณต้องมี animation เออ องค์ประกอบศิลปินที่คุณสร้างมาแล้วคุณเป็นค่ายเพลงก็อยากจะให้เล่นหนังมันต้อง cross เราจะเป็นคนที่พยายามที่จะสร้างสรรค์ industry แข็งแรงไปด้วยกัน "
ล่าสุด ได้ดึงผู้เช่าบริษัทยักษ์ใหญ่เกาหลีในเครือ SM Entertainment, CJ ENM เปิดสำนักงานในประเทศไทย และดึงพาร์ทเนอร์สถาบันระดับโลก 1500 Sound Academy เปิดโรงเรียนเสริมทักษะนักดนตรีและศิลปินครั้งแรกในประเทศไทย รวมทั้งพื้นที่ theCOMMONS และ YOTEL สมาร์ทโฮเทลระดับโลกแห่งแรกในไทย และกำลังมีค่ายเพลงไทยเข้ามาอยู่ในโครงการอยู่ระหว่างการเจรจา
"เรามีแนวโน้มที่รุกเข้าไปเติมเต็มช่องว่างตลาดการศึกษาเฉพาะทาง หรือเป็นการเรียนทางเลือกทางด้านเอนเทอร์เทนเมนต์แทนที่เรียนแบบตามมาตรฐานทั่วไป สังเกตได้ว่าแนวโน้มตลาดของโรงเรียนนานาชาติได้รับความนิยมมากขึ้น เรากําลังจะพาร์ตเนอร์กับ CJ ENM เกาหลี เพราะปัจจุบันเมืองไทยก็เป็นโปรดักชันฮับไปแล้ว"
ลงทุนเพิ่ม 3,000 ล้าน สร้างเมืองใหม่ 43,000 ล้าน
องศา กล่าวว่า จากงบเริ่มต้น 40,000 ล้านบาท Cloud 11 ได้เพิ่มการลงทุนอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนา “Creative Facilities” และพัฒนาย่านสุขุมวิทใต้ให้เป็นพื้นที่นวัตกรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพในรูปแบบ Project Finance เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้อย่างมั่นคง
คาดว่า ในอนาคตรายได้ 70% มาจากอาคารสำนักงาน รายได้ 15% มาจากโรงแรมที่เหลือจากกิจกรรมคอนเสิร์ตและอีเวนต์ แม้โรงแรมบางแห่งจะเลื่อนเปิดตัวไปบ้าง เช่น YOTEL จะเปิดใน ก.พ. 2569 และ ‘สร้างสรรค์ แบงค็อก’ ในปี 2570 แต่โครงสร้างหลักของ Cloud 11 คืบหน้าไปแล้วถึง 80% และจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ผู้เช่าภายในกลางปีนี้ ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปลายปี 2568
“ท่ามกลางสถานการณ์และเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอนและมีผันผวนสูงจากสงครามการค้าโลก ประเทศไทยกลับกลายเป็นsafe heaven ของคนต่างชาติ ทำให้ประเทศไทยได้รับอานิสงส์ จากนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย เพราะนอกจากจะเป็น safe heaven แล้วง ยังมีบุคลากรมีวัฒนธรรมที่คนต่างชาติชื่นชอบ ทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบ”
ในวันที่ประเทศไทยกลายเป็น safe haven ของภูมิภาค ทั้งด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม บุคลากรที่มีศักยภาพ และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน การที่ Cloud 11 จะกลายเป็น Creative Capital ของเอเชียอาจไม่ใช่แค่ความฝัน แต่คือ “ทางเลือกที่น่าจะเกิดขึ้นจริง” และเมื่อพื้นที่กลายเป็นแรงบันดาลใจ เมืองก็อาจกลายเป็นเวทีของโลก
Cloud 11 ไม่ใช่แค่ศูนย์กลางของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ แต่คือ “ศูนย์รวมพลังสร้างสรรค์” ที่จะผลักดัน Soft Power ไทยให้กลายเป็นพลังเศรษฐกิจระดับโลกในอนาคต