วิกฤติแผ่นดินไหว! บททดสอบ ความแข็งแกร่งซีอีโอ-แบรนด์อสังหาฯ

วิกฤติแผ่นดินไหว! บททดสอบ ซีอีโออสังหาฯ รับมือวิกฤติแผ่นดินไหวหรือ Crisis Management เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความแข็งแกร่งของแบรนด์ในใจผู้บริโภคในระยะยาว
ในยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดน ทุกๆ เหตุการณ์สามารถส่งผลกระทบไปยังภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้ในทันที โดยเฉพาะในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ลูกค้าไม่เพียงแค่ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ แต่พวกเขากำลังลงทุนในความมั่นคง และ “แบรนด์” ที่จะยืนหยัดเคียงข้างท่ามกลางวิกฤต
เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2568 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทดสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบ "Brand Love" ที่ลูกค้ามีต่อบริษัทในช่วงวิกฤติ โดยเฉพาะในช่วงที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแรงสั่นสะเทือน ความมั่นใจในแบรนด์จึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาบรรดาซีอีโอ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้บริหารจัดการภาวะวิกฤต (Crisis Management)กับสถานการณ์นี้อย่างรวดเร็ว โดยการนำทีมผู้บริหารและวิศวกรที่เชี่ยวชาญไปสำรวจความเสียหายของอาคารทั้งในโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและโครงการที่ส่งมอบไปแล้ว เพื่อยืนยันว่าโครงสร้างอาคารยังคงแข็งแกร่งและสามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย
ซีอีโอลงพื้นที่-สื่อสารสร้างความเชื่อมั่น
"การที่ผู้บริหารลงไปตรวจสอบด้วยตัวเอง สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าอย่างมาก" ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม ซีอีโอของศุภาลัยกล่าวถึงการลงพื้นที่ด้วยตัวเอง พร้อมทีมวิศวกรที่มุ่งมั่นจะตรวจสอบโครงการ 90 แห่งทั่วประเทศเพื่อยืนยันความปลอดภัย และให้ข้อมูลกับลูกค้าอย่างตรงไปตรงมาในทุกสถานการณ์พร้อมมี check list เป็นค่ายแรก หลังจากที่มีข่าวลือในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับความเสียหายของโครงการบางแห่ง
เช่นเดียวกับ อุทัย อุทัยแสงสุข ซีอีโอของแสนสิริ ก็ได้ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบโครงสร้าง โดยยืนยันว่า 120 โครงการจาก 250 โครงการทั่วประเทศไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ถึงแม้ว่าจะพบความเสียหายบางส่วนจากงานสถาปัตยกรรม เช่น ฝ้าและผนังที่ร้าว แต่ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของอาคาร
ขณะที่ เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ซีอีโอเสนาฯ ได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารทุกโครงการทั้งที่ส่งมอบแล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยเน้นการตรวจสอบโครงสร้างหลัก เช่น ฐานราก เสา คาน ผนังรับแรง ระบบไฟฟ้า และท่อประปา เพื่อประเมินความแข็งแรงและความปลอดภัยของอาคารตามมาตรฐานวิศวกรรม
พร้อมกับได้นำแนวทางการรับมือภัยพิบัติตามแนวคิด Geo fit+ ของ ฮันคิว ฮันชิน ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรของเสนา มาประยุกต์ใช้รับมือรวมถึงให้ความรู้ด้านการรับมือภัยพิบัติผ่านกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างความพร้อมของทุกภาคส่วนและสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านและสังคม
ไม่เพียงแต่ผู้บริหารระดับสูงที่ลงพื้นที่ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งยังได้จัดตั้ง"วอร์รูม"เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น เอพี ไทยแลนด์ ที่ได้รวบรวมทีมวิศวกรทุกฝ่ายเพื่อสำรวจความปลอดภัยของ 84 โครงการทั่วประเทศ และในกรณีที่พบปัญหา บริษัทก็พร้อมที่จะดำเนินการแก้ไขและซ่อมแซมทันที
แบรนด์ที่ดีต้องอยู่เคียงข้างลูกค้า
ความเชื่อมั่นของลูกค้าจึง "ไม่ใช่" แค่การแก้ปัญหาฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังต้องมีการดำเนินการอย่างรอบคอบในระยะยาวเพื่อยืนยันความมั่นคงของอาคารในอนาคต อาทิ การร่วมมือกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในการตรวจสอบเสาโครงสร้างและการใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงระบบต่างๆ เพื่อให้ทุกโครงการสามารถรองรับการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"การให้บริการหลังการขายที่ดีไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่มันคือการยืนยันว่าแบรนด์ยังอยู่ข้างลูกค้าเสมอ" ชานนท์ เรืองกฤตยา ซีอีโออนันดา ดีเวลลอปเม้นท์กล่าว
ยกระดับมาตรฐานและบริการ
เมื่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้หลายบริษัทต้องทบทวนและยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างและบริการของตนเอง การดูแลความปลอดภัยของลูกบ้านจึงไม่ใช่แค่การแก้ไขความเสียหายภายในโครงการเท่านั้น แต่ยังต้องเสริมสร้างความมั่นใจในระยะยาว และในท้ายที่สุดมันคือการรักษาความรักที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ของคุณไว้อย่างแน่นหนา
ในช่วงเวลาที่วิกฤตเกิดขึ้น ความเชื่อมั่นของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่การทดสอบโครงสร้างอาคาร แต่เป็นการทดสอบความรักและความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ของคุณ นี่คือบททดสอบที่ท้าทายที่ทุกแบรนด์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะต้องผ่านไปให้ได้ ในโลกที่ข้อมูลถูกแพร่กระจายได้ในชั่วพริบตา สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคือสิ่งที่สามารถทำให้แบรนด์ของคุณยืนหยัดอยู่ได้ในระยะยาว







