ออริจิ้นปี68ชูกลยุทธ์Resilience เปิด11โครงการมูลค่า2หมื่นล้าน

ออริจิ้น กางแผนปี68ชู “Resilience Leads To Sustainable Growth” ขับเคลื่อนการเติบโต เปิดตัว 11 โครงการใหม่มูลค่า 2หมื่นล้าน
ในโลกของธุรกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอน การปรับตัวและการยืดหยุ่นไม่เพียงแต่จะช่วยให้"อยู่รอด" แต่ยังเป็น"กุญแจสำคัญ"ในการเติบโตที่ยั่งยืน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่เพียงแต่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ยังสามารถใช้มันเป็นแรงผลักดันในการสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตในระยะยาว
ชูกลยุทธ์Resilienceเติบโตยั่งยืน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ในปี 2568 ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้เปิดเผยแผนธุรกิจที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน โดยยึดหลักกลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth ที่มุ่งหวังการเติบโตที่ไม่ใช่เพียงแค่ในระยะสั้น แต่เป็นการเติบโตที่สามารถยืนหยัดได้ในระยะยาว
ภายใต้กลยุทธ์นี้ บริษัทได้นำเสนอ 7 กุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน โดยประกอบด้วย 1 การมุ่งเน้นรายได้หลักที่มั่นคง 2 การสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน 3 การขยายตลาด 4 การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล 5 การบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงิน 6 การสนับสนุนทางการเงินสำหรับลูกค้า และ 7 การยึดมั่นในหลัก ESG และการปฏิวัติสีเขียว
เปิด11 โครงการมูลค่ากว่า2หมื่นล้าน
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แต่ยังได้วางแผนการเติบโตในหลายมิติ โดยปีนี้จะเปิดตัว 11 โครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมจาก ORIGIN VERTICAL จำนวน 5 โครงการ และบ้านจัดสรรจาก BRITANIAจำนวน 6 โครงการ พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ 30,000 ล้านบาท และรายได้รวม 14,000 ล้านบาท
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ ORI แตกต่างจากคู่แข่งคือการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ การร่วมงานกับดาราชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ เช่น ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่มาร่วมเป็นแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ ออริจิ้น และการดึงตัวนักแสดงชาวจีน “Irene Wan” มาเป็นพรีเซนเตอร์ของ Park Origin Collection ในตลาดเอเชีย ทั้งนี้เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ
ขยายพอร์ตโฟลิโอสร้างโอกาสเติบโต
สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่แค่โครงการอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ได้เริ่มสร้างรายได้ระยะยาวและมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2568 ORI จะเปิดโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง รวมทั้งการ Re-opening โรงแรมที่ได้เข้าซื้อมาในปี 2566 ที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนห้องพักและสร้างโอกาสในการเติบโตจากการดำเนินธุรกิจโรงแรมในทำเลที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนในธุรกิจ คลังสินค้าที่มีอัตราการเช่าสูงถึง 97.6% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขยายการเติบโตในระยะยาว และตั้งเป้าขยายพื้นที่คลังสินค้าเป็น 1 ล้านตารางเมตรในอีก 5 ปีข้างหน้า
เมื่อมองภาพรวมของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ในปี 2568 จะเห็นได้ว่าการพัฒนาทั้งในด้านอสังหาริมทรัพย์และการขยายธุรกิจในกลุ่มที่มีการเติบโตสูง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมโลจิสติกส์ หรือบริการต่างๆ ได้เตรียมตัวให้พร้อมในการเติบโตอย่างยั่งยืน ในขณะที่ยังคงรักษาความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ Resilience ที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในทุกรูปแบบได้อย่างมีเสถียรภาพ