เฟรเซอร์สฯ เปิดทางรอดอสังหาฯ บริหารกระแสเงินสด!-เพิ่มตลาดต่างประเทศ

เฟรเซอร์สฯ เปิดทางรอดอสังหาฯ บริหารกระแสเงินสด!-เพิ่มตลาดต่างประเทศรับมือปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงระดับที่ทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้น หรือภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงแตะ 90% ของ GDP ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยความไม่แน่นอน
KEY
POINTS
- ในปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน จากปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลากหลาย
- ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงระดับที่ทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้น หรือภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงแตะ 90% ของ GDP
- ปัญหาหนึ่งที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา คือ “รีเจกต์เรต”ส่งผลกระทบโดยตรง
ในปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน จากปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึงระดับที่ทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้น หรือภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงแตะ 90% ของ GDP ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยในแง่ของการใช้จ่ายและการก่อหนี้ของประชาชน นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนจากการเมืองในต่างประเทศยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ภาวะการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
ปัญหาหนึ่งที่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา คือ “รีเจกต์เรต” หรืออัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการซื้อบ้านของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อปานกลางถึงสูง แต่ไม่สามารถผ่านเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารได้ นั่นหมายความว่า แม้จะมีความต้องการบ้านที่สูง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นอุปสรรคสำคัญ
สมบูรณ์ วศินชัชวาล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสถานการณ์เช่นนี้ เฟรเซอร์สฯ ปรับกลยุทธ์ให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง โดยไม่เพียงแค่พึ่งพาตลาดในประเทศ แต่ขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งมีความสนใจในโครงการคอนโดมิเนียมของไทยเพราะมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับตลาดในหลายประเทศ
การหาตลาดต่างประเทศเพื่อสร้างความสมดุลพอร์ต และลดความเสี่ยงจากเดิมที่เน้นโครงการแนวราบที่การแข่งขันสูง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทจัดโรดโชว์ที่ประเทศจีน เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งการเจาะตลาดต่างประเทศถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว
การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยงจากการแข่งขันในตลาดบ้านราคาแพง แต่ยังเปิดโอกาสให้เฟรเซอร์สฯ ขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความหลากหลายทางรายได้และเพิ่มความมั่นคงให้กับธุรกิจในระยะยาว
"แต่เรายังคงจับกลุ่มลูกค้าทาวน์โฮม เพราะยังมีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อและความต้องการ เพราะปีที่ผ่านมาสามารถปิดโครงการทาวน์โฮมไปถึง 8 โครงการ สะท้อนว่า ยังมีดีมานด์อยู่"
ทำให้ปีนี้ยังคงมีโครงการทาวน์โฮมเปิดเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าตามกลยุทธ์ “กอด”-Secure Core, Embrace Future เน้นกอดลูกค้าเก่าให้แน่น พร้อมเดินหน้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centic) เพื่อนำไปสู่การสร้างโซลูชันใหม่ที่สามารถเสริมมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ และตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันท่วงที
บ้านหรูราคา 20 ล้านอัพแข่งดุ
แม้จะมีการขยายตัวในหลายด้าน แต่หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม คือ การรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดบ้านราคาแพง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวในระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงก็มีตัวเลือกมากมายจากหลากหลายผู้พัฒนาโครงการใหญ่ ทำให้การแข่งขันสูงมาก
แม้ว่าเฟรเซอร์สฯ จะมีโครงการบ้านเดี่ยวในราคาหลากหลาย แต่การหันมาเน้นกลุ่มลูกค้าที่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และไม่พึ่งพาตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างตลาดบ้านราคา 20 ล้านบาท จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า โดยการเปิดตัวบ้านเดี่ยวราคากลางที่ 10-20 ล้านบาท รวมถึงการพัฒนาทาวน์โฮม พรีเมียม ในทำเลที่เดินทางสะดวก กลายเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อปานกลางได้ดีขึ้น
สำหรับแนวทางการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้วางแผนเปิด 6 โครงการใหม่ในกรุงเทพฯ นครราชสีมา และขอนแก่น มูลค่ารวม 9,803 ล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ความต้องการ และการเลือกทำเลที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น การพัฒนาโครงการในทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้า ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง
โดยเฉพาะ ทาวน์โฮมพรีเมียม ที่เปิดตัวในแบรนด์ใหม่ “Goldina” ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 5-8 ล้านบาท ที่มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ซึ่งไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย แต่ยังเน้นไปที่การออกแบบที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ซึ่งการทำตลาดทาวน์โฮมที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับกลุ่มคนที่ต้องการบ้านในราคากลาง จึงเป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คาถารอดท่ามกลางความไม่แน่นอน
สมบูรณ์ ้เผยแนวคิดและกลยุทธ์ในช่วงเวลาที่อสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการขยายตัวของอัตราดอกเบี้ยที่สูง การแข่งขันที่รุนแรง และการชะลอตัวของกำลังซื้อว่า คาถารอดในปีนี้ คือการรักษาฐานลูกค้าให้มั่นคง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเก่าทำให้บริษัทสามารถรักษากำไรจากฐานลูกค้าเก่าได้ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
โดยความสำคัญของการดึงดูดลูกค้าบ้านใหม่ คือมองว่าทุกคนอยากได้บ้านที่สะดวกต่อการเดินทาง ซึ่งบริษัทมีโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังขยายตัวและต้องการพื้นที่ใหญ่ขึ้น และการตั้งราคาให้เหมาะสมยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น แม้ราคาจะไม่สูงมาก แต่การตั้งราคาให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ก็ทำให้ เฟรเซอร์ส ยังคงสามารถรักษาแรงซื้อของลูกค้าได้
"ราคาไม่ได้แพงมาก" เป็นประโยคที่ สมบูรณ์ ใช้อธิบายถึงจังหวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับภาวะความเสี่ยง โดยเฉพาะ Gross Margin หรืออัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงทั่วทั้งตลาด อัตรากำไรที่ดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการสร้างและการแข่งขันที่รุนแรง
นอกจากนี้การบริหารจัดการทางการเงินในสถานการณ์นี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก “ต้องบริหารกระแสเงินสดให้ดี ไม่ควรคาดหวังสูงเกินไป ต้องมีทางถอยเผื่อไว้ เพราะถ้าสะดุดแล้วมันคือการล้ม”
ทั้งนี้การวางแผนธุรกิจในสภาพตลาดเช่นนี้ไม่สามารถมองโลกในแง่ดีเกินไป ต้องมีการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
แม้สถานการณ์ในปีนี้จะท้าทาย แต่กลยุทธ์ของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ในการรักษาฐานลูกค้าเก่า พร้อมกับดึงดูดลูกค้าใหม่ ด้วยโครงการที่ตอบโจทย์และราคาที่สามารถแข่งขันได้ ยังทำให้บริษัทมีโอกาสเติบโตได้ในภาวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังเผชิญกับวิกฤตจากภายในและภายนอก