โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ยังไปต่อ! หนุนสร้างมูลค่าเพิ่ม-ลดต้นทุนอาคาร

ยังไปต่อ!โค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม-ลดต้นทุนอาคาร รองรับเทรนด์ Hybrid Work หรือการทำงานแบบผสมผสานระหว่างการทำงานในออฟฟิศและที่บ้านกลายเป็นมาตรฐานกการทำงานยุคใหม่
ลาร์ส วิททิก รองประธานอาวุโสภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เหนืออินเตอร์เนชันแนล เวอร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG ) กล่าวว่า ในยุคที่การทำงานแบบไฮบริดเป็นเทรนด์ที่กำลังขยายตัวไปทั่วโลก ผนวกกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในและต่างประเทศ “IWG” ในฐานะผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดเตรียมขยายบริการในประเทศไทย
ด้วยการเปิดตัวพื้นที่ทำงานใหม่ถึง 12 แห่งภายใต้แบรนด์ Spaces แนวไลฟ์สไตล์ Regus แนวเวิร์กสไตล์ และ HQ แนวอีซี่ ทูแอสเสท ทั้งในกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ และหัวเมืองรองทั่วประเทศ รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่สตาร์ทอัปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ทยอยเปิดบริการ พ.ค.-ส.ค.นี้ อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา และระยอง รองรับความต้องการของเจ้าของพื้นที่ในทำเลศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) หรือพื้นที่ชานเมือง
"การขยายสาขาในปีนี้สะท้อนกลยุทธ์การเติบโตของ IWG ที่ใช้การขยายบริการพื้นที่ทำงานหลากหลายประเภทภายใต้ Multi-Brand Strategy ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจทุกขนาด แต่ยังมุ่งพัฒนาพื้นที่ที่เหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการในแต่ละตลาด ด้วยการออกแบบพื้นที่ที่หลากหลาย"
ทั้งนี้ IWG มองเห็นว่าการทำงานแบบไฮบริดจะไม่หยุดนิ่ง และการเติบโตในตลาดของพื้นที่ทำงานยืดหยุ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่า 30% ของพื้นที่สำนักงานเชิงพาณิชย์ทั่วโลก จะกลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นได้ภายในปี 2573 และ IWG พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการสร้างเครือข่ายพันธมิตรใหม่ในประเทศไทย พร้อมบริการพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกประเภท
"รูปแบบการทำงานในอนาคตจะมีความยืดหยุ่น (Flexibility) มากขึ้น ทั้งจากอาชีพที่หลากหลายสอดคล้องกับยุค Mobility ทำให้มีทั้งกลุ่มฟรีแลนซ์ หรือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี เจ้าของธุรกิจขยายตัวเพิ่ม ทำให้ความต้องการพื้นที่ทำงานที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดเล็กมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทำเลที่ดีที่มี Facility ต่างๆ ครบ"
ปัจจุบัน อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป มีพื้นที่ให้บริการเพื่อการทำงานในประเทศไทยรวม 46 แห่ง มีแผนเปิดพื้นที่เพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 12 แห่ง ภายในปี 2568
ฐิติวัฒน์ ธนพรนิธินันท์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า แนวโน้มธุรกิจโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น เข้าไปช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้พื้นที่เช่าของอาคารสำนักงานเก่าและใหม่ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้พื้นที่
“การแข่งขันในตลาดสูงขึ้นเช่นกันจากซัพพลายล้น (Over Supply) หากไม่ลดราคาค่าเช่าก็ต้องมีบริการที่เข้าดึงดูดผู้เช่ามากขึ้น ขณะที่ทุกบริษัทต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลง จึงเช่าพื้นที่ทำงานเล็กลง และใช้วิธีการแบบ Hybrid Work ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การงานคนรุ่นใหม่ หรือ GEN Z”
อย่างไรก็ดี IWG มุ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในเครือ Spaces, Regus และ HQ ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างกัน และ IWG ต้องการเป็นพาร์ตเนอร์กับเจ้าของพื้นที่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาคารนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารเก่าหรือใหม่ แทนที่จะแข่งขันด้วยการลดค่าเช่าเพื่อดึงดูดผู้เช่าก็สามารถเพิ่มบริการที่ช่วยให้การทำงานของลูกค้าสะดวกมากขึ้น
"ที่ผ่านมาเราเจอดิสรัปชันมาหลายรอบแต่ผ่านพ้นมาได้ เพราะเครือข่ายที่แข็งแรงกว่า 4,000 สาขา ใน 120 ประเทศทั่วโลก เกิด Economies of Scale ทำให้ต้นทุนการให้บริหารจัดการถูกกว่าคู่แข่ง"