ลลิล ชี้คมนาคมกรุงเทพฯตอนใต้ หนุนราคาที่ดิน-อสังหาฯขยับ

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยคมนาคมกรุงเทพฯตอนใต้ หนุนราคาที่ดิน-โครงการอสังหาฯขยับราคา ระบุมี 10 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ ประชาอุทิศ, สุขสวัสดิ์, พระราม 2 และเอกชัย รองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่หลากหลายจากกลุ่มพนักงานและเจ้าของกิจการ
หากพูดถึงปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ขยายตัวไม่หยุด คงจะหนีไม่พ้นการพัฒนาระบบคมนาคมที่สามารถเชื่อมกรุงเทพฯ กับพื้นที่รอบนอกได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งหากมองไปที่ “กรุงเทพฯ ตอนใต้” ก็จะเห็นความเคลื่อนไหวสำคัญจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งผลให้ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่นี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการของบริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่แข็งแกร่งในกรุงเทพฯ ตอนใต้ ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดการลงทุน และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากมาย ซึ่งจะรองรับกำลังซื้อของกลุ่มคนที่ต้องการบ้านในราคาที่เข้าถึงได้ และสามารถเดินทางไปยังใจกลางเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น
การก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน – ปากท่อ รวมถึงการเปิดสะพานพระราม 10 ซึ่งถือเป็นสะพานที่มีความกว้างที่สุดในประเทศไทย จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้โครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ตอนใต้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะโครงการเหล่านี้จะมีความสะดวกในการเดินทางจากและสู่กรุงเทพฯ มากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินและอสังหาฯ ในย่านนี้สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” มองเห็นศักยภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนใต้ ที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการบ้านหลากหลายประเภทได้แก่ บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, หรือคอนโดมิเนียมในราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะในพื้นที่อย่าง บางบอน, สมุทรสาคร, และนครปฐม ที่มีความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังใจกลางเมือง ขณะที่ราคาที่ดินในพื้นที่นี้ยังคงสามารถจับต้องได้ หากเทียบกับราคาในย่านธุรกิจ CBD ซึ่งกำลังปรับตัวสูงขึ้น
“เรามั่นใจว่าเมื่อโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ พร้อมให้บริการ ราคาที่ดินและอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ ตอนใต้จะมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน และการขยายตัวของพื้นที่นี้จะสามารถรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้คนที่มีงบประมาณไม่มาก แต่ยังคงต้องการบ้านในทำเลที่เดินทางสะดวก”
สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยนั้น หลัก ๆ คือ ย่านประชาอุทิศ สุขสวัสดิ์ พระราม 2 เอกชัย ที่เชื่อมต่อไปยัง CBD ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะกับการเปิดใช้โครงการสะพานพระราม 10 ที่จะช่วยลดปัญหาจราจรที่สะสมในอดีตและช่วยให้การเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ กับพื้นที่ใกล้เคียงสะดวกขึ้น
ในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อโครงข่ายคมนาคมเสร็จสมบูรณ์ ถนนพระราม 2 จะกลายเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมกรุงเทพฯ กับภาคใต้และภาคตะวันตก ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงบวกทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้า นอกจากนี้ การพัฒนาพื้นที่ยังสามารถกระจายความหนาแน่นของประชากรจากพื้นที่ใจกลางเมืองไปสู่โซนชานเมืองอย่าง สมุทรสาคร และนครปฐม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
" ในอนาคตหากการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมแล้วเสร็จ ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ตอนใต้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โอกาสในการซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่สามารถจับต้องได้อาจจะลดลง ดังนั้น ผู้ซื้อจึงควรรีบตัดสินใจก่อนที่ราคาจะขยับขึ้นตามกลไกตลาด"
ปัจจุบัน ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มีโครงการในกรุงเทพฯ ตอนใต้กว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ เช่น ประชาอุทิศ, สุขสวัสดิ์, พระราม 2 และเอกชัย โดยลลิลมองเห็นความสำคัญของพื้นที่นี้ในการรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย ทั้งจากกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นพนักงานบริษัทและเจ้าของกิจการที่ต้องการบ้านในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางไปยัง CBD
การพัฒนาระบบคมนาคมในกรุงเทพฯ ตอนใต้จึงไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อบ้านสามารถเลือกที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีศักยภาพสูงและยังมีราคาที่เหมาะสมอยู่ในช่วงเวลานี้