ดาวรุ่งปี2568 คลังสินค้า- ดาต้าเซ็นเตอร์ - โรงแรม- คอนโดลักชัวรี

ดาวรุ่งปี2568 คลังสินค้า- ดาต้าเซ็นเตอร์ - โรงแรม- คอนโดลักชัวรี

เจแอลแอล เผยอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2568 โอกาสการลงทุน 4 กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งขับเคลื่อน โลจิสติกส์และคลังสินค้า ดาต้าเซ็นเตอร์ โรงแรม และคอนโดระดับลักชัวรี เติบโตแข็งแกร่ง

นายกฤช ปิ่มหทัยวุฒิ หัวหน้าแผนกตลาดทุนประจำประเทศไทย บริษัท โจนส์ แลงลาซาลล์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือJLL  กล่าวว่า สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน เราพบว่านักลงทุนและผู้ผลิตจากต่างประเทศให้ความสนใจลงทุน ในประเทศไทยมากขึ้น โดยBOI มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้ผ่านมาตรการจูงใจทั้งในรูปแบบสิทธิ ประโยชน์ทางภาษีและมาตรการส่งเสริมอื่น ๆ นอกจากนี้ความต้องการดิจิทัลสเปซที่เพิ่มขึ้น ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์เติบโต อย่างรวดเร็ว โดยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป 

ขณะเดียวกัน ตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรียังคงได้รับความสนใจโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับอัลตราลักชัวรีในทำเลศูนย์กลางธุรกิจซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อระดับไฮเอนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง หากได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

ปีนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งนักลงทุนและเจ้าของสินทรัพย์โดยกุญแจสู่ความสำเร็จคือการเข้าใจภาพรวมตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินทรัพย์แต่ละประเภท ทั้งนี้ เจแอลแอล มุ่งเน้นการใช้ข้อมูลเชิงลึก การวิจัยตลาดและองค์ความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า

ดาวรุ่งปี2568 คลังสินค้า- ดาต้าเซ็นเตอร์ - โรงแรม- คอนโดลักชัวรี

ธุรกิจโรงแรมเติบโตต่อเนื่อง 

นางสาวพิมพ์พะงา ยมจินดา รองประธานฝ่ายบริการลงทุนซื้อขายภาคพื้นเอเชีย หน่วยธุรกิจบริการที่ปรึกษาด้านโรงแรมของเจแอลแอล กล่าวว่า ตลาดการลงทุนโรงแรมยังคงมีความหลากหลายทั้งดีลประเภท Core/Core-Plus และ Value-Add/Opportunistic โดยในปี 2568ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากผู้ขายสามารถใช้ประโยชน์จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ โรงแรมรวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างคงที่ทำให้เราคาดการณ์ว่ามูลค่าการทำธุรกรรมจะสูงกว่า 13,000 ล้านบาทซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศตั้งแต่ปี 2553 ประมาณ 12%
 

นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทย อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม เน้นย้ำถึงความน่าสนใจในระดับภูมิภาคว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับความสนใจอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงในภูมิรัฐศาสตร์โลกโดยประเทศไทยเป็นผู้นำในกระแสนี้และได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าวเราเห็นความสนใจ จากนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ และโรงแรม รวมถึงผู้ผลิตที่ต้องการขยายการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย

"โอกาสในการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เป็นปัจจัยหลัก ที่ขับเคลื่อนการเติบโตพร้อมกับปัจจัยสนับสนุนในภาพรวมที่ช่วยสนับสนุนกลุ่มโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ และอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยว"

แนวโน้มนี้สอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจรวมถึงการให้สิทธิประโยชน์และการผ่อนปรนกฎระเบียบเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

“การขยายตัวของโครงการที่เน้นความยั่งยืนและอาคารเขียวทั่วทั้งภูมิภาคนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืนและมีวิสัยทัศน์ในตลาดที่กำลังเติบโต การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศอย่างมาเลเซียไทย และเวียดนาม เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนในด้านเทคโนโลยีพร้อมเปิดโอกาสในการเติบโตระยะยาว”

 นอกจากนี้การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ยังนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจเทคโนโยลีสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ (PropTech)และอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซ การพัฒนาเหล่านี้กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของภูมิภาค พร้อมเปิดโอกาสการลงทุนที่หลากหลายประเทศไทยกับบทบาทศูนย์กลางการลงทุนระดับภูมิภาค

ประเทศไทยมีจุดแข็งทั้งในด้านแรงงานที่มีคุณภาพ แหล่งพลังงานที่อุดมสมบูรณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมที่แข็งแกร่งซึ่งทำให้ประเทศมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง

ทั้งนี้เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มให้ความสนใจในด้านความยั่งยืน และพลังงานทดแทนมากขึ้นส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่มุ่งเน้นในด้านเหล่านี้สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยได้