‘ศุภาลัย’สบช่องคู่แข่งwait&see ผุด36โครงการ4.6หมื่นล้านชิงแชร์

‘ศุภาลัย’สบช่องคู่แข่งwait&seeส่งผลให้เปิดตัวใหม่ต่ำสุดในรอบ 15 ปี เหตุกำลังซื้ออ่อนแอเข้าถึงสินเชื่อยาก เร่งผุด36โครงการ4.6หมื่นล้านชิงแชร์ตลาด ระบุเป็นโอกาสคนที่มีความพร้อม ถือเป็นขาขึ้นของศุภาลัย
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568 ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะเผชิญกับความท้าทายมากมายจากภาวะเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ตลาดยังคงเติบโตได้จากการปรับตัวของผู้ประกอบการให้ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและความยั่งยืน หัวใจหลักขับเคลื่อนธุรกิจแห่งอนาคต
ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดปี 2568 จะยังคงได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งการลดลงของซัพพลายจากผู้ประกอบการที่ลดการเปิดโครงการใหม่ ความหายากของที่ดินทำเลดี เป็นข้อจำกัดที่สำคัญสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคมุ่งเน้นไปที่โครงการรับเทรนด์สีเขียวและการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI และ IoT ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของตลาด
อีกทั้ง ความท้าทายทางด้านการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เป็นอุปสรรคที่ผู้ประกอบการต้องรับมือ! อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากต่างชาติและการขยายตัวของเมืองรอง ถือเป็นโอกาสสำคัญที่อาจช่วยผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้ในระยะยาว “ไม่ว่าปีนี้้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรแต่ปีนี้เป็นขาขึ้นของศุภาลัย”
ศุภาลัยเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 มองว่า สถานการณ์การเงินที่แข็งแกร่งของตนเองเป็น “จุดแข็ง” ช่วยให้จับจังหวะในการขยายตัวและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้
ปี 2567 ศุภาลัย มียอดขายรวม 26,743 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพการบริหารความเสี่ยงและการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปี 2568 ตั้งเป้าหมายยอดขาย 32,000 ล้านบาท รายได้ 30,000 ล้านบาท เปิดตัว 36 โครงการใหม่ มูลค่า 46,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 28 โครงการ คอนโดมิเนียม 8 โครงการ เน้นทำเลศักยภาพสูง รวมถึงจังหวัดใหม่ๆ เช่น ลพบุรี สุพรรณบุรี และเกาะสมุย
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ กล่าวเสริมว่า สถานะการเงินที่แข็งแรงเป็น"โอกาส"ที่ศุภาลัยจะช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งท่ามกลางซัพพลายที่จำกัด แม้ปีนี้จะมีการเปิดตัวแนวราบลดลง แต่จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น “เท่าตัว” ในทำเลสุขุมวิท39 แจ้งวัฒนะ ตากสิน ท่าพระ ศรีนครินทร์ พัทยา-นาเกลือ พัทยา-วงศ์อมาตย์ และ ภูเก็ต จากปีก่อนเปิดคอนโดมิเนียม 4 โครงการมูลค่า 6,000 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเป็น 21% ส่วนแนวราบมีทั้งโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
“การเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ลดลงต่ำสุดรอบ 15 ปี แต่ศุภาลัยมั่นใจในศักยภาพความพร้อม ความแข็งแกร่งของเงินทุน ยิ่งในภาวะที่ดีเวลลอปเปอร์บางส่วนไม่สามารถเปิดโครงการใหม่ได้ถือเป็นโอกาสเข้าถึงลูกค้าใน 2-3 ปีจากนี้”
ประกอบกับสถานการณ์ราคาที่่ดินสมเหตุสมผลมากขึ้นหลังพุ่งสูงจนไม่สามารถนำมาพัฒนาโครงการได้ ค่าก่อสร้าง ค่าแรง และวัสดุก่อสร้างลดลง ทำให้สามารถพัฒนาโครงการในราคาที่่ลูกค้าจับต้องได้!
เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด ศุภาลัยไม่เพียงแค่พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในด้านราคาหรือทำเลเท่านั้น แต่ยังลงทุนในนวัตกรรม เทคโนโลยี โดยการนำ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาด สร้างประสบการณ์การซื้อที่ง่าย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
พร้อมให้ความสำคัญกับการพัฒนา "Smart Village" เป็นการสร้างชุมชนที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย ใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่มีความท้าทายมากขึ้นในด้านสิ่งแวดล้อม







