ดีไซน์บ้านที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย จับกลุ่มครีเอเตอร์-อินฟลูเอนเซอร์

ดีไซน์บ้านที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย จับกลุ่มครีเอเตอร์-อินฟลูเอนเซอร์

โครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอย สิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการทำงานอาชีพอิสระ"ครีเอเตอร์-อินฟลูเอนเซอร์"เพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือ ทำเลที่เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า

KEY

POINTS

  • จากการที่ภาคธุรกิจต่างนิยมทำตลาดผ่านติ๊กต๊อก ยูทูบ และเฟซบุ๊กมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์มีรายได้อู้ฟู่!
  • กลายเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของตลาดบ้านและคอนโด เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
  • จึงดีไซน์บ้านที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์กลุ่มครีเอเตอร์-อินฟลูเอนเซอร์

นายอนวัช ฉัตรศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอ็นริช เปิดเผยว่า  แนวทางการการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผสานกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแนวคิด “บ้านเป็นมากกว่าคำว่าบ้าน” ภายใต้ 4 แนวคิด  ประกอบด้วย

1. ธรรมชาติโอบล้อมชีวิต (Harmony of Nature) : การสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติ กับการใช้ชีวิต เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ในการอยู่อาศัย การคัดสรรพันธุ์ไม้ที่สร้างทัศนียภาพที่สวยงาม ความร่มรื่นในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ และการลงรายละเอียดการดีไซน์ที่ให้ความสำคัญกับออกแบบพื้นที่ให้มีความโล่งโปร่ง เปิดรับแสงธรรมชาติ และถ่ายเทอากาศได้ดี รวมถึงการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวภายในบ้านทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เพื่อการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน

 

2. พื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ (Customization) เมื่อ “บ้าน” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่กลายเป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตน เป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ จะดีแค่ไหนที่ “บ้าน” สามารถปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการที่หลากหลายของผู้อาศัยได้การดีไซน์บ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้

จึงมีความสำคัญในยุคปัจจุบัน คือ พื้นที่สำหรับการทำงานแบบ “Work From Anywhere” ที่ปรับเปลี่ยนทำให้พื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านเป็น “ออฟฟิศส่วนตัว” สำหรับการทำธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจออนไลน์ เช่น พื้นที่สำหรับเปิดคลาสแบบส่วนตัว ห้อง Studio หรือ พื้นที่ Live Room สำหรับสร้าง Content ที่นิยมในธุรกิจออนไลน์ ผ่านแฟลตฟอร์มต่างๆ บ้านจึงต้องสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลายรูปแบบ

อีกทั้ง การจัดสรรตำแหน่งของฟังก์ชันให้สวยงาม และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางตำแหน่ง พื้นที่พักผ่อนแบบส่วนตัว พื้นที่ใช้เวลาพิเศษกับครอบครัว และพื้นที่ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ให้เป็นสัดส่วนและเหมาะสม เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติ และเพื่อให้ “บ้านเป็นมากกว่าคำว่าบ้าน” ใกล้กับทุกความต้องการของผู้อาศัยมากที่สุด

3. ผสานเทคโนโลยี กับการใช้ชีวิต (Technology for Life) : เทคโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิต ซึ่งปัจจุบันถูกนำมาใช้เป็นส่วนสำคัญ ในการใช้ชีวิตภายในบ้านด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบายภายในบ้าน (Smart Technology) ระบบควบคุมอัตโนมัติ ที่ช่วยจัดการระบบ การทำงานต่างๆภายในบ้านผ่านสมาร์ทโฟน เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย (Home Security)

การตรวจสอบกล้องวงจรปิดแบบ Real Time การเปิด-ปิด ประตูบ้านด้วยรหัสผ่าน หรือสมาร์ทโฟน เพื่อความสะดวกสำหรับสมาชิกในครอบครัว หรือการแจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติภายในบ้าน รวมถึง เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ และการอยู่อาศัยที่ดี ด้วยเครื่องฟอกอากาศ ที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่ปรับการทำงานได้อัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าบ้าน มีอากาศที่บริสุทธิ์อยู่เสมอซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

“Technology for life” จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มอุปกรณ์ดิจิทัลภายในบ้าน แต่เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับการใช้ชีวิต เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความยั่งยืนในระยะยาว บ้านจึงต้องมีการเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยมากที่สุด

4. “ใกล้” (Prime Location) : การเลือกทำเลของบ้านที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เชื่อมต่อสู่พื้นที่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสายต่างๆ ใกล้เส้นทางสายหลัก รวมถึงใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่เที่ยวไลฟ์สไตล์ อีกทั้งทำเลที่ดีส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย และความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในมุมมองเรื่องการอยู่อาศัย และศักยภาพของทำเลที่ทำให้บ้านมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย


ด้านนางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจกลุ่มบริษัท เอ็นริช  กล่าวเสริมว่าแนวคิดในการพัฒนาโครงการ ที่จะทำให้บ้านมีบทบาทมากกว่าการเป็นที่อยู่อาศัยและการพักผ่อน แต่ยังเป็นแหล่งสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ รวมทั้งเป็นสถานที่ทำงานไปในตัว การออกแบบที่อยู่อาศัยจึงต้องตอบสนองการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ที่จะสร้างทั้งความความสุข และความสำเร็จในทุกมิติ ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิตส่วนตัว และครอบครัว

“ใกล้ เพชรเกษม – สาย 1” บ้านและโฮมออฟฟิศ ดีไซน์ใหม่ โครงการใหม่ของเอ็นริช ที่ต้องการให้ “บ้านเป็นมากกว่าคำว่าบ้าน” นอกจากเรื่องทำเลศักยภาพที่เดินทางสะดวกแล้ว ฟังก์ชันภายในบ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการก็ต้องครบครัน ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการทำงาน และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ เพื่อตอบสนองกับแนวคิดดังกล่าว